พุงหรือหน้าท้องเป็นส่วนที่หลายคนมีไขมันส่วนเกินและอยากจะลดพุงมากที่สุด แต่การจะมีหน้าท้องที่แบนราบและมีเอวคอดสวยได้นั้นปกติแล้วต้องผสมผสานระหว่างการรับประทานอาหารที่สมดุล และการออกกำลังกายเป็นประจำ อย่างไรก็ตาม การแบ่งเวลามาเข้าฟิตเนสหรือลุกขึ้นมาออกกำลังกายนั้นอาจเป็นเรื่องยากสำหรับหลายคนที่มีตารางงานแน่น วิธีการลดพุงเหล่านี้ที่โว้กบิวตี้นำมาฝากจึงถือเป็นอีกหนึ่งทางออก เพราะมันสามารถช่วยลดไขมันหน้าท้องได้โดยไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายแต่อย่างใด
1 / 10
เลี่ยงน้ำตาล
แนะนำให้เลี่ยงเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง ไม่ว่าจะเป็นน้ำหวาน น้ำชงต่างๆ ชานมไข่มุก ไม่เว้นแม้น้ำผลไม้แบบกล่อง เครื่องดื่มเหล่านี้มักมีน้ำตาลในปริมาณสูง รวมถึงยังควรเลี่ยงขนมหวานทั้งหลาย เช่น เค้กขนมอบ ไอศครีม เพราะเต็มไปด้วยแป้งและน้ำตาล ทางที่ดีควรหันไปดื่มเครื่องดื่มที่หวานน้อยลง หรืออาจใช้หญ้าหวานเพื่อทดแทนความหวานก็ได้
2 / 10
รับประทานวิตามินซี
กินผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงอย่างน้อยหนึ่งผลทุกวัน เนื่องจากวิตามินซีเป็นสารอาหารที่ละลายน้ำได้ ซึ่งให้สารต้านอนุมูลอิสระแก่ร่างกายและมีความสำคัญต่อสุขภาพ แต่สำหรับผู้ที่ต้องการลดพุงหรือน้ำหนัก สารอาหารชนิดนี้น่าสนใจเป็นพิเศษ เนื่องจากมีบทบาทในการเผาผลาญโมเลกุลไขมัน จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมคนที่ขาดวิตามินซีจะมีไขมันสะสมรอบพุงและรอบเอวที่ใหญ่ขึ้น
3 / 10
เพิ่มน้ำให้ร่างกาย
การดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้วใหญ่ๆ ไม่เพียงเพิ่มความชุ่มชื้นและขจัดสารพิษออกจากร่างกายเท่านั้น แต่ยังช่วยลดพุงได้อีกด้วย โดยน้ำจะไปช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญแคลอรี่ได้มากขึ้น เพราะกระบวนการเมแทบอลิซึมของเราส่วนใหญ่เกิดขึ้นในที่ที่มีน้ำ สิ่งนี้จะนำไปสู่การลดไขมันหน้าท้องได้ในที่สุด นอกจากนี้ยังควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์ทำให้ร่างกายขาดน้ำนั่นเอง
4 / 10
กินโปรตีนให้มากขึ้น
การกินโปรตีนจะช่วยลดไขมันในช่องท้อง เนื่องจากโปรตีนช่วยเผาผลาญ รวมถึงลดความอยากหรือความหิวได้ดี แนะนำให้รับประทานอาหารที่อุดมด้วยโปรตีน เช่น ปลา เนื้อไก่ ถั่วเหลือง ถั่วเลนทิล และเห็ด เป็นต้น อย่างไรก็ดีแนะนำให้เติมผักต่างๆ เข้าไปในมื้ออาหารด้วย เพื่อเป็นการรับสารอาหารที่มีประโยชน์อย่างหลากหลาย
5 / 10
ลดอาหารประเภทแป้ง
เนื่องจากแป้งถูกย่อยสลายเป็นน้ำตาลในร่างกายของเรา และเมื่อมีน้ำตาลสะสมมากเกินไป ร่างกายจะเก็บสะสมในรูปของไขมัน เพราะฉะนั้นหากต้องการลดพุงก็ควรเลี่ยงหรือลดอาหารในกลุ่มแป้ง ไม่ว่าจะเป็นขนมปังขาว ข้าวขัดสี พาสต้า เส้นก๋วยเตี๋ยว ข้าวโพด แป้งข้าวโพด มันฝรั่ง และเปลี่ยนไปรับประทานแป้งที่ดีต่อสุขภาพแทน เช่น ขนมปังโฮลวีตและข้าวกล้อง
6 / 10
ดีท็อกซ์ลำไส้
หากมีปัญหาท้องอืด ตัวบวม หรือท้องผูกเป็นประจำ ควรทำการดีท็อกซ์ด้วยการดื่มน้ำอุ่นแก้วใหญ่ทันทีที่ตื่นนอน และรับประทานอาหารที่ช่วยดีท็อกซ์ลำไส้ เช่น แอปเปิ้ล อะโวคาโด บีตรูต และผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เป็นต้น เมื่อทำเช่นนี้จนเป็นกิจวัตรจะช่วยให้ระบบขับถ่ายจะทำงานได้ดีขึ้น สารพิษในร่างกายลดลง และทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้อย่างเต็มที่
7 / 10
กินคาร์โบไฮเดรตที่ดีต่อสุขภาพ
ไม่จำเป็นต้องงดการกินคาร์โบไฮเดรตโดยสิ้นเชิง เพราะคาร์โบไฮเดรตมอบทั้งพลังงาน วิตามิน และแร่ธาตุมากมายที่ดีต่อร่างกาย เพียงแต่ควรเลือกแหล่งที่มาของคาร์โบไฮเดรตที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ข้าวกล้อง คูสคูส ไฟเบอร์จากธัญพืช ข้าวสาลีบัลกูร์ และขนมปังโฮลวีต ธัญพืชไม่ขัดสีเหล่านี้เต็มไปด้วยไฟเบอร์ที่ทำให้รู้สึกอิ่ม และส่งผลให้รับประทานอาหารได้น้อยลง จึงช่วยลดไขมันหน้าท้องได้
8 / 10
เพิ่มโพรไบโอติกให้กับร่างกาย
โพรไบโอติกคือจุลินทรีย์ชนิดดีในร่างกายที่ช่วยให้ลำไส้แข็งแรง และกระตุ้นให้การทำงานของระบบทางเดินอาหารนั้นทำงานได้ดีขึ้น ช่วยปรับสมดุลลำไส้ ลดอาการท้องอืด ท้องเสีย กระตุ้นการขับถ่าย โดยโพรไบโอติกหรือแบคทีเรียชนิดดีสามารถพบได้ในอาหาร เช่น โยเกิร์ต ชีส กิมจิ แอปเปิ้ลไซเดอร์ คอมบูชะ และนมเปรี้ยว เป็นต้น
9 / 10
รับประทานอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำ
การจะลดพุงโดยไม่ออกกำลังกายจะต้องอาศัยการควบคุมอาหารเป็นหลัก นอกเหนือไปจากการเลี่ยงแป้งและน้ำตาลแล้ว ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำ เช่น เมนูนึ่งหรือลวก เมนูยำ ต้มจืด และต้มยำ เป็นต้น ซึ่งการรับระทานอาหารโดยคำนวณไม่ให้เกินกว่าพลังงานที่ต้องการ ร่างกายจะค่อยๆ นำไขมันที่สะสมอยู่เดิมไปใช้แทน
10 / 10
รู้จักวิธีกินที่ช่วยลดพุง
การลดพุงจะต้องอาศัยการกินที่ถูกต้อง ประการแรกคือต้องงดอาหารแปรรูปโดยสิ้นเชิง เพราะมักมีเกลือในปริมาณสูงซึ่งจะทำให้ตัวบวมและท้องอืด ประการที่สองคือควรกินผักและผลไม้ที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์และมีปริมาณน้ำสูง เพราะน้ำและเส้นใยอาหารจะไปกระตุ้นระบบการย่อยอาหารให้ทำงานได้ดีขึ้น ประการที่สามคือควรรับประทานอาหารโดยแบ่งเป็นมื้อเล็กๆ และกินบ่อยๆ เพื่อลดความหิวหรือความอยากที่อาจเกิดขึ้นระหว่างวัน สุดท้ายเคี้ยวอาหารให้ละเอียด (อย่างน้อยสิบครั้ง) ก่อนกลืน เพราะนอกจากจะช่วยให้กระเพาะอาหารทำงานได้ง่ายขึ้นแล้ว ยังเป็นการเปิดโอกาสให้สมองส่งสัญญาณและปล่อยสารที่ทำให้รู้สึกอิ่มออกมา และนั่นก็จะทำให้กินได้น้อยลงตามไปด้วย
วิธีการลดพุงโดยไม่ออกกำลังกาย สิ่งหนึ่งที่เป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้การลดพุงสำเร็จได้คือวินัย เพราะไขมันที่สะสมมาเป็นเวลานาน ไม่อาจหายไปได้ง่ายๆ ในสองหรือสามวัน ดังนั้นการควบคุมอาหารและกินอย่างถูกวิธี ในขณะเดียวกันยังต้องรับสารอาหารให้ครบทุกหมวดหมู่ ทุกอย่างนี้ล้วนต้องใช้วินัยอย่างมาก ซึ่งหากเรามีวินัยมากพอ ร่างกายก็จะตอบแทนด้วยหน้าท้องที่แบนราบแน่นอน
WELLNESSเปิดเส้นทางการลดน้ำหนักของ 'Yang Soobin' กว่าจะเป็นเจ้าของหุ่นสุดเพอร์เฟกต์นี้ไม่ใช่เรื่องง่าย!
WELLNESSแนะนำ 5 ร้านขนมปังคลีนเพื่อสุขภาพ คนลดน้ำหนักทานได้ อร่อยเพลินแบบไม่ต้องรู้สึกผิด
WELLNESSการลดน้ำหนักแบบ 'IF (Intermittent Fasting)' กับข้อมูลที่ควรรู้ก่อนใช้วิธีนี้


