“เต้ยมักจะมีคำถามเสมอว่า คนตัวเล็กกับวงการแฟชั่นมันจะไปด้วยกันได้หรือไม่...” นี่คือหนึ่งในประโยคสัมภาษณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟของ ‘เต้ย-จรินทร์พร จุนเกียรติ’ กับโว้กประเทศไทย ในวันที่นักแสดงหญิงมากความสามารถคนนี้ได้รับการแต่งตั้งให้ขึ้นแท่นเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุดของแบรนด์ PRADA เป็นคนไทยคนที่สองต่อจาก ‘วิน-เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร’ ซึ่งการได้รับการแต่งตั้งในครั้งนี้เองที่เป็นดั่งคำตอบสำคัญให้กับคำถามข้างต้นที่เธอเฝ้าถามตัวเองมาตลอดหลายปีในอุตสาหกรรมแฟชั่นและบันเทิง ซึ่งเต้ยได้บอกกับโว้กประเทศไทยเอาไว้ว่า “เต้ยได้คำตอบแล้วว่า จริงๆ แล้วคนทุกคนสวยในแบบที่ตัวเองเป็น ดีในแบบที่ตัวเองเป็นได้หมดเลยค่ะ และวันนี้มันก็ตอบคำถามเต้ยแล้วว่า คนตัวเล็กหรือคนตัวจิ๋วสามารถมาไกลได้เท่านี้เลยนะ เพราะมันไม่ใช่แค่เรื่องรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น”

     ย้อนกลับไปในยุคที่โซเชียลมีเดียเริ่มกลายเป็นที่นิยมในคนหมู่มากโดยเฉพาะ ‘เต้ย-จรินทร์พร จุนเกียรติ’ กลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในหมู่วัยรุ่น ด้วยเสน่ห์อันเหลือล้น ก่อนที่ต่อมาเธอจะเขยิบฐานะขึ้นมาเริ่มงานในวงการบันเทิงอย่างจริงจัง ทั้งงานแสดงมิวสิกวิดีโอ เรื่อยไปจนถึงงานละคร และงานในวงการแฟชั่น ในฐานะของนักแสดง เต้ยคือหนึ่งในนักแสดงมากความสามารถที่ฝากผลงานขึ้นหิ้งเอาไว้มากมาย ทั้งในวงการโทรทัศน์และวงการภาพยนตร์ กับผลงานเด่น ทั้ง หนีตามกาลิเลโอ, Timeline จดหมาย ความทรงจำ, เคาท์ดาวน์, ทุ่งเสน่หา, มาตาลดา และอีกมากมาย

     ส่วนบทบาทของเต้ยในฝั่งของแฟชั่นก็นับว่าน่าสนใจไม่แพ้ฝีมือการแสดง เพราะเธอคือส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนแฟชั่นคอนเซปต์ Sustainability ที่หลายคนทราบกันเป็นอย่างดี ด้วยความหลงใหลและผูกพันกับสิ่งแวดล้อม จึงนำมาสู่การเรียนรู้ศึกษา ออกสำรวจ และก่อตั้งองค์การเล็กๆ ในชื่อ EEC Thailand (Environmental Education Center) มาแล้ว นอกจากนี้ในแง่ของสไตล์ แม้ว่าเต้ยจะเป็นผู้หญิงตัวเล็กอย่างที่เธอกล่าวเอาไว้ แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคของเธอในการร่วมงานกับแบรนด์แฟชั่น โดยเฉพาะกับแบรนด์ PRADA ซึ่งเต้ยยอมรับว่าเธอทำงานกับ PRADA มาโดยตลอด เพราะกระเป๋าใบแรกๆ ของเธอยังเป็นแบรนด์ PRADA ซึ่งเธอยังใช้กระเป๋าใบนั้นมาจนทุกวันนี้

1 / 2

2 / 2

     “เต้ยรู้สึกว่า PRADA มีความ Sustainable ทั้งรูปแบบของงานดีไซน์และอะไรต่างๆ ที่รู้สึกว่ามันสามารถใช้ได้นานมากๆ” โดยเต้ยเสริมต่อไปว่า “PRADA เป็นแบรนด์ที่มีหลายมิติมากๆ และเต้ยเองก็เป็นคนที่คอนทราสต์กับตัวเองและมีหลายมิติเช่นเดียวกัน" ซึ่งเธอรู้สึกดีใจมากๆ ที่ได้ร่วมงานกับแบรนด์ PRADA

     ครั้งนี้ #VogueMore จึงไม่พลาดพาแบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุดมาร่วมถ่ายทอดดีเอ็นเอของ PRADA ผ่านแฟชั่นเซ็ตกับเหล่าเสื้อผ้า PRADA คอลเล็กชั่นประจำฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว ปี 2024 ในชื่อ ‘Instinctive Romance’ โดยฝีมือการสร้างสรรค์โดย Miuccia Prada และ Raf Simons ซึ่งเป็นการผสมผสานแฟชั่นกับเศษส่วนของประวัติศาสตร์ เพื่อการสำรวจแนวคิดเกี่ยวกับความงามของโลกสมัยใหม่ที่เกิดขึ้นจากความทรงจำ และอดีตแห่งความโรแมนติก ซึ่งถูกถ่ายทอดผ่านเสื้อผ้าในคอลเล็กชั่นนี้ทั้งการเล่นพาเลตต์สีสะดุดตา, งานรื้อสร้างซิลูเอตเสื้อผ้าที่แตกต่างออกไปจากบรรทัดฐานเดิม, ชุดเดรสโบว์ตลอดทั้งตัว เรื่อยไปจนถึงไอเท็มหมวกทรงสูงประดับขนนกและอีกมากมาย ทั้งหมดล้วนเป็นการตั้งคำถามเชิงปรัชญาถึงนิยามของความงามในโลกร่วมสมัยได้อย่างน่าสนใจ ซึ่งเต้ยเองก็สามารถถ่ายทอดอัตลักษณ์ความเป็น PRADA ออกมาได้อย่างชัดเจนในแฟชั่นเซ็ตล่าสุดนี้เช่นเดียวกัน