VOGUE MORE | ส่องความล้ำลึกแบบขั้วตรงข้ามในฉบับโรมันสมัยใหม่กับ ‘เบลล่า-ราณี’ และ Fendi

     #VOGUEMORE ครั้งนี้กำลังพาแฟนๆ โว้กทุกคนไปสัมผัสกับกลิ่นอายแฟชั่นในแบบฉบับกรุงโรมโดยแบรนด์ที่ถือกำเนิดพร้อมศิลปวัฒนธรรมอันโดดเด่นของโรมันโดยแท้ นั่นก็คือ Fendi ซึ่งถ่ายทอดนำเสนอผ่านตัวตนของ ‘เบลล่า-ราณี แคมเปน’ โดยมุ่งเน้นการเชื่อมโยงนำเสนอเสน่ห์อันเปี่ยมล้นสอดผสานกับตัวตนของเบลล่าและบรรยากาศอันน่าลุ่มหลง อีกทั้งยังสามารถแสดงสัญญะแห่งการออกแบบแฟชั่น ไล่ลำดับบทบันทึกทางประวัติศาสตร์เรื่อยมาจนถึงความร่วมสมัยอันนำมาสู่ผลผลิตทางศิลปะอันงดงามที่ใช้เทคนิควิธีการของการถ่ายภาพแฟชั่น

     เบลล่ากับกรุงโรมคือเรื่องราวที่สอดผสานเคียงคู่กันมาสักพักใหญ่ วิธีการนำเสนอตัวตนเชิงแฟชั่นอันโดดเด่นของเธอเลียนล้อไปกับเฟนดิเสมอมา ตลอดระยะเวลาหลายปีเบลล่าสร้างโมเมนต์สำคัญกับแบรนด์หลายต่อหลายครั้ง ซึ่งครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่นักแสดงหญิงมากความสามารถถ่ายทอดสไตล์เด่นชัดของแบรนด์ พร้อมสาธยายบรรยากาศแห่งกรุงโรมด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่ถูกบันทึกเกิดเป็นภาพถ่ายเซ็ตนี้ และที่ขาดไม่ได้คือเสื้อผ้าคอลเล็กชั่นแคปซูลฤดูร้อน 2024 ที่พาสาวกแฟชั่นย้อนกลับสู่หน้าประวัติศาสตร์ของเฟนดิ และยังขับเสน่ห์อันแตกต่างที่เชื่อมประสานกับความร่วมสมัยได้อย่างลงตัว

     เสน่ห์ของเฟนดิในคอลเล็กชั่นนี้คือการนำเสนอความงดงามแบบขั้วตรงข้ามหรือ ‘Duality’ ที่ถูกตีความผ่านผืนถนนกลางเมืองกรุงไปจนถึงบรรยากาศชายทะเล คลุกเคล้าความจริงจังที่สอดแทรกความสนุกสนาน ความเงียบงันไปจนถึงความมีชีวิตชีวา นำมาสู่การชุบชีวิตลาย ‘Pequin’ สุดยอดแพตเทิร์นไอคอนิกฝีมือการออกแบบของ Karl Lagerfeld ตั้งแต่ปี 1983 ที่ครั้งนี้ Kim Jones หยิบจับประวัติศาสตร์ของเฟนดิมาเขย่าใหม่จนเกิดภาพที่ทั้งคลาสสิกเหนือกาลเวลาและสดใหม่ในเวลาเดียวกัน สะท้อนประเด็นเรื่องขั้วตรงข้ามอย่างพอดิบพอดี ซึ่งเบลล่าเองก็สวมใส่เสื้อผ้าเหล่านี้ด้วยคาแร็กเตอร์ที่โดดเด่นและขับเสน่ห์ของเฟนดิออกมาได้ในเวลาเดียวกัน

     แพตเทิร์นแบบ ‘logo no logo’ ถูกนำมาใช้ครั้งแรกโดยฝีมือคาร์ลด้วยโทนสีดำและ ‘tobacco’ ซึ่งคิม โจนส์ได้เนรมิตภาพดั้งเดิมให้แปลกใหม่และตีความออกมาในรูปแบบที่แตกต่างจากเดิม โดยเฉพาะการใช้สีฟ้า สีเหลืองอ่อน สีเบจ และสีน้ำเงินเข้ม นำมาเป็นโทนหลักในการออกแบบตั้งแต่เสื้อตัวนอกไปจนถึงเสื้อผ้าลำลองสำหรับสวมใส่บนชายหาด สอดประสานกับนิยาม ‘Neo-Roman Aesthetic’ หรือมิติความงดงามในสไตล์โรมันแบบใหม่ที่นำเสนอเอกลักษณ์ที่ชัดเจนภายใต้คอนเซปต์ความหรูหราและมีสไตล์ในฉบับเมืองหลวงของประเทศอิตาลี สู่การเดินทางพักผ่อนริมชายหาดที่เต็มไปด้วยบรรยากาศอันตราตรึง

     มิติของศิลปะการแต่งกายของเฟนดิกำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารผ่านแฟชั่นเซ็ตของเบลล่าอย่างเห็นได้ชัด ลุคเสื้อจัมเปอร์แขนยาวเลเยอร์เข้ากับแจ็กเก็ตแขนสั้น ที่เข้าชุดกับกระโปรงยีนส์ นำเสนอความโดดเด่นของเสื้อผ้ากลางกรุงโรมฉบับฤดูร้อนที่เปี่ยมด้วยสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ หรือจะเป็นลุคชุดว่ายน้ำพิมพ์ลายที่มาพร้อมการมิกซ์แอนด์แมตช์กับกางเกงยีนส์ขายาว และกระเป๋ารุ่น Baguette Mini ที่บ่งบอกถึงความสวยงามตามแนวคิดขั้วตรงข้าม ซึ่งเป็นดั่งหัวใจสำคัญของคอลเล็กชั่นได้อย่างสมบูรณ์แบบ

     ตามประวัติศาสตร์ของเฟนดิ เมื่อลวดลาย ‘Pequin’ ถูกคิดค้นขึ้นมันกลายเป็นแพตเทิร์นไอคอนิกอย่างรวดเร็วและอยู่อย่างยืนยงจนถึงปัจจุบัน มันถูกนำมาใช้เป็นองค์ประกอบหลักในการสรรสร้างไลน์เรดี้ทูแวร์ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อแจ็กเก็ตที่สวมใส่ได้ทุกวัน เสื้อผ้าแยกชิ้นวัสดุผ้าไหมทวิล ชุดเดรสและกางเกงจากผ้าทูลลิ่งโปร่ง นอกจากนี้ยังแทรกลูกเล่นด้วยเทคนิคการปักประดับเลื่อมีระยิบระยับบนผ้าริบ นับเป็นลวดลายที่ลื่นไหลไปได้ทุกประเภทของเสื้อผ้า ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อนำมาผสานรวมกันจะเกิดเป็นส่วนผสมที่หลากหลายแต่ลงตัว ย้อนกลับสู่คอนเซปต์ของคอลเล็กชั่นนี้อย่างมีนัยสำคัญ

     ‘Neo-Roman Aesthetic’ ตามแบบฉบับของเบลล่าจึงสามารถสะท้อนเรื่องราวเหล่านี้ออกมาเป็นประจักษ์ชัดเจน ความยอดเยี่ยมของบรรยากาศไลฟ์สไตล์ของกรุงโรมถูกนำเสนอผ่านเสื้อผ้าที่มีความหลากหลาย ในขณะเดียวกันก็บ่งชี้ถึงดีเอ็นเอของเฟนดิได้เป็นอย่างดี ความงดงามจากแฟชั่นเซ็ตนี้จึงเหมือนการเปรียบเปรยถึงการท่องโลกแห่งความงดงามที่เป็นขั้วตรงข้ามที่ไม่ได้ขัดแย้งแต่ส่งเสริมกันจนเกิดเป็นเอกลักษณ์ที่น่าค้นหาและทำหน้าที่เป็นแรงบันดาลใจเพื่อเสพสมแฟชั่นอย่างลึกซึ้งย้อนกลับไปตั้งแต่ประวัติศาสตร์นานกว่า 4 ทศวรรษจนมาถึงปัจจุบัน และอาจเป็นรากฐานสำคัญต่อไปในอนาคต