Victoria's Secret Fashion Show 2024
LIFESTYLE

รีแบรนด์สำเร็จไหม? เมื่อแฟชั่นโชว์ Victoria's Secret พยายามกลับมาพร้อมความหลากหลาย

เป้าหมายสำคัญของโชว์ Victoria's Secret ปี 2024 คือการรีแบรนด์และลบภาพจำเก่าๆ แต่ถ้าถามว่า พวกเขารีแบรนด์สำเร็จไหม คุณเองนั่นแหละเป็นคนตัดสิน #VSFashionShow

     ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าการกลับมาจัดแฟชั่นโชว์ของแบรนด์ชุดชั้นในในตำนานอย่าง Victoria’s Secret คือหนึ่งในโชว์ที่คนแฟชั่นทั่วโลกต่างรอคอย เพราะการกลับมาในครั้งนี้นับเป็นการเดิมพันศักดิ์ศรีครั้งสำคัญของแบรนด์ ในการกอบกู้ความนิยมให้กลับคืนมาอีกครั้ง หลังจากที่ต้องพ่ายแพ้ให้กับกระแสโลกที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว จนต้องหายหน้าหายตาไปทบทวนตัวเองอยู่นานถึง 6 ปีเต็มว่าจะเอาอย่างไรดีกับ “ความหลากหลาย” เพราะเรตติ้งโชว์ที่ตกฮวบลงเรื่อยๆ กอปรกับการเสื่อมความนิยมในตัวของ “นางฟ้าวิกตอกเรีย” ที่เดินทางมาถึงจุดที่ตกต่ำที่สุด เนื่องจากข้อครหาของเหล่าผู้ชมและสาวกของแบรนด์ที่มองว่านางฟ้าวิกตอเรียไร้ซึ่งความหลากหลาย เป็นเพียงแค่การฉายภาพผู้หญิงแบบเดิมๆ ที่โชคดีเกิดมาอยู่ในกรอบมาตรฐานความงามที่โลกกำหนด ซึ่งสวนทางกับกระแสโลกในเวลานี้ที่มุ่งให้ความสำคัญในการหยิบยื่นพื้นที่ให้กับคนทุกรูปแบบและทุกความหลากหลาย

 

 
 
 
 
 
ดูโพสต์นี้บน Instagram
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

โพสต์ที่แชร์โดย Vogue Thailand (@voguethailand)

     นับจากวันนั้น วันที่ Victoria’s Secret หายไปจากหน้าจอโทรทัศน์และสารบบโซเชียลมีเดียจนถึงตอนนี้ ก็นับรวมได้ 6 ปีเต็ม ที่แบรนด์ได้ลองผิดลองถูก ไล่เรียงมาตั้งแต่การรีแบรนด์สร้างภาพลักษณ์ใหม่ด้วยการดึงเอาผู้หญิงหลากหลายรูปแบบมานั่งแท่นบอร์ดผู้บริหารมากที่สุด 6 จาก 7 คน พร้อมทิ้งให้นางฟ้าวิกตอเรียกับ Fantasy Bra ประจำปีมูลค่าหลายล้านที่เคยทำให้แขกฟรอนต์โรว์ร้องว้าว กลายเป็นแค่เรื่องอดีตไป ด้วยการเปิดตัวแคมเปญ VS Collective กลุ่มตัวแทนผู้หญิง ที่มีทั้งผู้หญิงพลัสไซซ์ ผู้หญิงผิวดำ และผู้หญิงผู้ขับเคลื่อนกลุ่ม LGBTQ+ มาร่วมออกแบบสินค้า ที่สามารถดึงความสนใจของเหล่าสาวกและคนแฟชั่นได้มากพอสมควรในเวลานั้น และถือเป็นก้าวแรกสำคัญของแบรนด์ในการประกาศกร้าวว่า “ฉันพร้อมแล้วที่จะหมุนไปตามโลกและความหลากหลาย” นอกจากนี้ในปี 2023 ที่ผ่านมา แบรนด์ Victoria’s Secret ยังปล่อยแฟชั่นแคมเปญ The Icon ออกมาตอกย้ำภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่อีกครั้ง เพื่อเป็นการชิมลางต้อนรับการกลับมาของแฟชั่นโชว์ประจำปีครั้งยิ่งใหญ่นี้

 

 
 
 
 
 
ดูโพสต์นี้บน Instagram
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

โพสต์ที่แชร์โดย Vogue Thailand (@voguethailand)

     เป้าหมายสำคัญของการกลับมาจัดแฟชั่นโชว์ในปีนี้ของ Victoria’s Secret คือการลบภาพจำเดิมๆ ของแบรนด์ให้สิ้นซาก พร้อมเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในวงโคจรเดียวกันกับกระแสโลกยุคใหม่ ที่ไม่ได้ให้คุณค่าแค่เพียงรูปลักษณ์ภายนอก แต่คือการให้โอกาสให้มนุษย์ทุกรูปแบบได้เฉิดฉายในแบบของตัวเอง และมีพื้นที่หยัดยืนสำหรับทุกคนเพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจถึงกัน ในแฟชั่นโชว์ Victoria’s Secret ประจำปี 2024 นี้เราจึงได้เห็นมากกว่าแค่ผู้หญิงอเมริกันผิวขาวที่เกิดมาพร้อมผมบลอนด์ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงจากนักร้องในตำนานอย่าง Cher ตัวแทนของผู้หญิงที่ผ่านประสบการณ์มาอย่างโชกโชนแก่กล้า เพื่อยืนยันว่าชุดชั้นในไม่ใช่เรื่องของสาววัยกระเตาะเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงวัยไหนก็มีส่วนร่วมได้ ตามมาด้วย Tyla นักร้องหญิงชาวแอฟริกัน ตัวแทนของความหลากหลายทางเชื้อชาติ และแน่นอนว่าอีกหนึ่งคนคือ “ลิซ่า-ลลิษา” ศิลปินหญิงแห่งเอเชียที่ประสบความสำเร็จที่สุดคนหนึ่งในระดับโลก

 

 
 
 
 
 
ดูโพสต์นี้บน Instagram
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

โพสต์ที่แชร์โดย Vogue Thailand (@voguethailand)



WATCH




     ไม่เพียงแค่ศิลปินที่ได้รับเทียบเชิญให้ขึ้นโชว์เท่านั้นที่สะท้อนภาพความหลากหลายออกมาได้อย่างชัดเจน ทว่าพาเหรดนางแบบหรือนางฟ้าวิกตอเรียในรอบนี้ก็นับว่าหลากหลายกว่าที่คาดการณ์ไว้ ไม่ว่าจะเป็น Liu Wen ที่ยังคงกลับมาเป็นตัวแทนของนางแบบเอเชียนลุค, นางแบบพลัสไซซ์อย่าง Ashley Graham, คู่แม่ลูกซูเปอร์โมเดลอย่าง Kate Moss และ Lila Moss, ซูเปอร์โมเดลผิวสีอย่าง Tyra Banks เรื่อยไปจนถึงนางแบบทรานส์เจนเดอร์อย่าง Emira D’Spain และ Alex Consani ที่มีโอกาสได้ขึ้นไปอยู่บนรันเวย์ครั้งประวัติศาสตร์ของแบรนด์ปีนี้ด้วย และยังมีอีกมากมายหลายรายชื่อที่สะท้อนความหลากหลายออกมาได้อย่างชัดเจนและสมบูรณ์แบบกว่าครั้งไหนๆ บนหน้าประวัติศาสตร์การจัดแฟชั่นโชว์ของ Victoria’s Secret ที่ผ่านมา

 

 
 
 
 
 
ดูโพสต์นี้บน Instagram
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

โพสต์ที่แชร์โดย Vogue Thailand (@voguethailand)

     หากจะถามว่า "แล้วรีแบรนด์สำเร็จไหม?”...สำหรับผู้เขียนเองมองว่า Victoria’s Secret ได้แสดงให้โลกใบนี้เห็นแล้วว่าพวกเธอพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะกวดเท้าตามโลกใบนี้ให้ทัน ในการโอบรับความหลากหลายทุกรูปแบบ เพื่อช่วยเป็นหนึ่งในฟันเฟืองในการยืนยันว่าโลกใบนี้ไม่ได้มีผู้หญิงหรือคนแค่แบบเดียวเท่านั้น นั่นคือความพยายามที่เราต่างมองเห็นในครั้งนี้ กระนั้นแฟชั่นก็คือธุรกิจ หาก “รีแบรนด์” ของคุณมองว่าคือการเปลี่ยนภาพลักษณ์แบรนด์เสียใหม่ ในจุดนี้คุณหลายคนก็คงมองว่าสำเร็จ แต่ถ้านับรวมเรื่องเม็ดเงินจากยอดขายด้วยแล้วล่ะก็...น่าจะต้องดูกันไปยาวๆ เพราะอย่าลืมว่าในโลกแห่งการแข่งขันมีแบรนด์ชุดชั้นในคู่แข่งน่าสนใจผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด อีกทั้งแบรนด์เหล่านั้นก็โอบรับความหลากหลายและกระแสโลกมาตั้งแต่บทแรกของประวัติศาสตร์แบรนด์แล้วด้วยสิ

วิดีโอ : vogue global social และ victoria's secret live

WATCH