เปิดโลกของศิลปะจากเครื่องพิมพ์ดีด ฝีมือหนุ่มลอนดอนที่พาอุปกรณ์โบราณข้ามเวลามาสู่โลกยุคใหม่

     สิ่งของล้าสมัยมักถูกทิ้งเป็นขยะหรือถ้ามันมีสลักสำคัญทางประวัติศาสตร์ก็มักถูกเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ สิ่งที่เหมือนกันคือมันไม่ค่อยจะถูกนำกลับมาใช้นัก เนื่องจากคำว่า “ล้าสมัย” ไม่เพียงสะท้อนถึงความโบราณเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการถูกทดแทนด้วยสิ่งของที่ทันสมัยและตอบโจทย์การใช้ชีวิตในยุคปัจจุบันได้มากกว่า เครื่องพิมพ์ดีดเป็นตัวอย่างที่ดีในการพูดถึงสิ่งที่ตกยุคไปเสียแล้ว ซึ่งมันถูกแทนที่ด้วยคอมพิวเตอร์และคีย์บอร์ดที่สามารถกรอกข้อมูลทุกอย่างได้รวดเร็ว อีกทั้งยังต่อยอดสู่โลกออนไลน์ที่สามารถแบ่งปันสิ่งเหล่านั้นผ่านช่องออนไลน์ ไม่จำเป็นต้องพิมพ์เป็นเอกสารเหมือนดั่งสมัยก่อนอีกต่อไป

     ในเมื่อสิ่งของตกยุคสิ่งนั้นก็จะถูกเก็บลืมหรือมากไปกว่านั้นก็ทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ แต่สำหรับ James Cook ศิลปินไอเดียเก๋จากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ไม่ได้คิดเช่นนั้น เขาหลงใหลในมนต์เสน่ห์ของเครื่องพิมพ์ดีดจากยุคโบราณ เขาจึงนำมาใช้เพื่อสรรสร้างศิลปะอันแตกต่างไม่เหมือนใคร เขาริเริ่มการสร้างผลงานจากเครื่องพิมพ์ดีดมาตั้งแต่สมัยเรียนแขนงสถาปัตยกรรมศาสตร์ ผลงานเขามุ่งเน้นการร้อยเรียงต่อกันผ่านการพิมพ์ หากใครนึกภาพไม่ออกให้นึกถึงการแปรอักษรที่ใช้ระบบแนวคิดการร้อยเรียงต่อกันของสเกลเล็กๆ ก่อให้เกิดภาพใหญ่ขึ้น

ส่วนหนึ่งในคอลเล็กชั่นเครื่องพิมพ์ดีดของ James Cook / ภาพ: James Cook Art Work

     ตลอดระยะเวลาร่วมทศวรรษเขาสรรสร้างผลงานภาพวาดจากเครื่องพิมพ์ดีดมามากกว่า 300 ชิ้น และมีเครื่องพิมพ์ดีดหลากหลายรูปแบบกว่า 60 เครื่อง โดยส่วนใหญ่ได้รับจากการส่งมอบโดยแฟนคลับของเขาเอง ซึ่งเขาก็สรรสร้างผลงานที่หลากหลายไล่ตั้งแต่ภาพพอร์เทรต สถาปัตยกรรม เรื่อยไปจนถึง ภาพวิถีชีวิตในเมือง ซึ่งแน่นอนว่าทั้งหมดล้วนมาจากผลงานการเรียงสเกลจากเครื่องพิมพ์ดีดของเขา ต้องบอกว่าเขาคืออัจฉริยะแห่งการวางสเกลที่สามารถเนรมิตภาพอันมีเอกลักษณ์โดยใช้เพียงจุดสีเล็กๆ ที่แต้มลงบนกระดาษผ่านเครื่องมือที่ถูกตีตราว่าโบราณตกยุคไปแล้ว

ผลงานภาพพอร์เทรต Tom Hanks จากเครื่องพิมพ์ดีดฝีมือ James Cook / ภาพ: James Cook Art Work

     สำหรับศิลปินคนนี้การสร้างผลงานโดยคำนึงถึงความยิ่งใหญ่อยู่เสมอ เขาสร้างงานพอร์เทรตให้ Tom Hanks ซูเปอร์สตาร์ที่เก็บสะสมเครื่องพิมพ์ดีดเช่นกัน และสร้างความประทับอย่างล้นเหลือจนทอมถึงกับตอบจดหมายกลับมา นอกจากนี้เขายังรังสรรค์ผลงานให้กับเซเลบริตี้ระดับโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Kelly Clarkson, Ben Sheppard, Kate Garraway และอีกมากมาย มากไปกว่านั้นเขายังเคยขออนุญาตริเริ่มผลงานภาพพอร์เทรตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เพื่อแลกกับเครื่องพิมพ์ดีดยุคเก่าของพระราชวังบักกิงแฮม ซึ่งถูกใช้งานโดยเหล่าผู้ทำงานในวังสมัยก่อน

ผลงานภาพ Mona Lisa โดยใช้เครื่องพิมพ์ดีดยุคโบราณของ James Cook / ภาพ: James Cook Art Work

     ตอนนี้ตัวเลข 300 ชิ้นอาจจะดูน้อยไปเสียแล้ว เพราะตอนนี้เขาทำผลงานและโพสต์ให้ทุกคนเห็นทั้งเบื้องหลังและผลลัพธ์จำนวนมาก งานศิลปะหลายชิ้นถูกทำซ้ำในแบบฉบับของเจมส์ ยกตัวอย่างเช่นภาพพอร์เทรตของ Vincent Van Gogh หรือจะเป็นภาพวาด Mona Lisa อันเลื่องชื่อของ Leonardo DaVinci และไม่ได้มีแต่ผลงานยุคเก่าเท่านั้น เพราะเขายังใช้เครื่องมือจากโลกเดิมสรรสร้างงานศิลปะยุคใหม่อย่างผลงานเด็กผู้หญิงกับลูกโป่งของ Banksy ด้วย นับว่าเขาสามารถใช้เครื่องพิมพ์ดีดรังสรรค์ผลงานอันลื่นไหลผ่านกาลเวลา ได้ไม่ต่างกับที่เขาพาเครื่องพิมพ์ดีดขึ้นสู่ระดับทรงคุณค่าในโลกยุคปัจจุบัน

เด็กผู้หญิงถือลูกโป่ง ผลงานศิลปะสมัยใหม่ที่ถูกทำซ้ำด้วยเครื่องพิมพ์ดีดโดย James Cook / ภาพ: James Cook Art Work

     แน่นอนว่าฝีมือระดับนี้จะต้องได้รับความสนใจจากแบรนด์ดัง และเจมส์ก็เป็นศิลปินที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดังนั้นแบรนด์และองค์กรชั้นนำของอังกฤษจึงจับมือร่วมวิถีความสร้างสรรค์จากเครื่องมือสุดคลาสสิกกับเขา ยกตัวอย่างเช่น 20^th Century และ Disney + จากแวดวงบันเทิง Hyundai MOBIS จากอุตสาหกรรมยานยนต์ Hemingway Whiskeys จากวงการเครื่องดื่ม รวมถึงองค์กรสื่ออย่าง BBC และ ITV ด้วย เรียกว่าเขาคือศิลปินสุดฮอตที่แบรนด์ดังมากมายต้องการร่วมงานด้วยอย่างแท้จริง

ตัวอย่างการสรรสร้างผลงานอันน่าทึ่งนอกสถานที่ของ James Cook / ภาพ: James Cook Art Work

     ปัจจุบันเขายังคงทำงานในกรุงลอนดอนเป็นหลัก โดยเขามีสตูดิโอในย่าน Trinity Buoy Wharf ท่าเทียบเรืออันโด่งดังซึ่งเก่าแก่พอๆ กับอุปกรณ์ที่เขาใช้สรรสร้างงานศิลปะ ผู้สนใจสามารถจองคิวเพื่อเข้าชมสตูดิโอส่วนตัวของเขาได้ แต่ต้องบอกว่าคิวเต็มไปจนถึงเดือนสิงหาคมปี 2023 เรียบร้อยแล้ว ในการเยี่ยมชมแขกทุกคนจะพบกับอุปกรณ์และผลงานจำนวนมาก อีกทั้งยังสามารถซื้องานศิลปะติดไม้ติดมือกลับไปได้ ทว่ามีงานบางชิ้นที่เป็นผลงานชิ้นลิมิเต็ด ซึ่งเขาเปิดขายเฉพาะบนแพลตฟอร์มออนไลน์เท่านั้น ใครสนใจสัมผัสประสบการณ์พิเศษของโลกศิลปะที่เดินทางข้ามเวลาจากอดีตมาถึงปัจจุบันและพร้อมต่อยอดสู่อนาคตของเจมส์ ต้องไม่พลาดหากมีโอกาสไปเยือนเมืองหลวงของประเทศอังกฤษสักครั้ง หรือถ้าใครต้องการชมผลงานและเบื้องหลังของเขาก็สามารถติดตามเขาได้ที่อินสตาแกรม @jamescookartwork