เปิดท็อปลิสต์ 5 แบรนด์นาฬิกาผู้หญิง มอบลุคโดดเด่น ตอบโจทย์ชีวิตในทุกโมเมนต์
นาฬิกาผู้หญิงแบรนด์ไหนดีที่จะโดนใจและแมตช์เข้ากับคาแร็กเตอร์ของคุณ ที่นี่มีคำตอบ
ปัจจุบันความหมายและฟังก์ชั่นของนาฬิกานั้นมีการตีความที่มากขึ้นและกว้างขวางขึ้น เพราะวันนี้นาฬิกาไม่ใช่แค่เครื่องบอกเวลาอย่างเดียวแล้ว แต่สามารถบอกตัวตน ไลฟ์สไตล์ ฐานะ และความสนใจส่วนตัว เหมือนกับสไตล์การแต่งตัว เพราะบางเรือนคุณอาจจะซื้อเพราะเรื่องราวแรงบันดาลใจของมันก็เป็นได้ ซึ่งสิ่งเหล่านั้นมันจะสามารถย้อนกลับมาเป็นเครื่องแสดงตัวตนของเราอย่างเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นหากถามว่านาฬิกาผู้หญิงแบรนด์ไหนดีที่จะเหมาะกับคาแร็กเตอร์ของคุณและสามารถหยิบมาใช้ได้หลายโอกาส วันนี้โว้กก็จะมาแนะนำนาฬิกาผู้หญิง 5 แบรนด์ 5 สไตล์ที่น่าสนใจ
ภาพ: Trocadero Time
1. Chic Simple and Chill จาก ISSEY MIYAKE
ISSEY MIYAKE แบรนด์แฟชั่นระดับโลกจากประเทศญี่ปุ่น เอาใจสาวกผู้หลงใหลในงานดีไซน์ และเป็นสาวที่มีความยูนีกในตัวสูง ด้วยพลังแห่งการสร้างสรรค์ที่ไม่สิ้นสุด เปิดตัว นาฬิกาซีรี่lNล่าสุด “1/6” (วัน/ซิกซ์) อีกหนึ่งคอลเล็กชั่นที่เป็นความเหนือชั้นทางด้านงานออกแบบ ด้วยแรงบันดาลใจจากเสน่ห์ของ “สเกลวัดแบบดั้งเดิม” ที่กลายมาเป็นผลงานศิลป์ร่วมสมัยบนข้อมือ ผลงานสร้างสรรค์ของโมเดิร์นดีไซเนอร์ชื่อดัง Nao Tamura ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในการร่วมงานกับนักออกแบบหญิงคนแรกสำหรับ ISSEY MIYAKE WATCH Project ในผลงานซีรี่ส์ลำดับที่ 18 นี้โดดเด่นด้วยดีไซน์สไตล์เรโทรบนหน้าปัดที่สื่อให้เห็นถึงแรงบันดาลใจจากสเกลวัดแบบดั้งเดิม ด้วยโครงสร้างแบบดับเบิ้ลเลเยอร์ที่ซับซ้อน ดูมีมิติ เข็มนาฬิกาเรียวยาวที่เดินเคลื่อนผ่านขีดบอกเวลาและดีเทลการออกแบบบนพื้นหน้าปัด ถ่ายทอดถึงรายละเอียดที่มักถูกมองข้ามไปในยุคดิจิทัล
ภาพ: Iamwatch
2. Luxury Gal with Glamorous Winter จาก MB&F
MB&F × Emmanuel Tarpin Legacy Machine Flying T Ice เรือนเวลาแห่งฤดูหนาวที่สวยสดงดงาม หนึ่งในคอลเล็กชั่นไวต์โกลด์สองรุ่นพิเศษที่ MB&F ร่วมออกแบบกับ เอมมานูเอล ตาร์แปง จิวเวลรีดีไซเนอร์หนุ่มชาวฝรั่งเศสที่ถ่ายทอดภาพของแท่งน้ำแข็งอันหนาวเย็น สัญลักษณ์แห่งฤดูหนาว ผ่านทางการประดับเพชรบนเฟรมที่โค้งไปตามแนวด้านในของแซปไฟร์คริสตัลรูปทรงโดมอย่างแนบเนียน หน้าปัดเป็นลาปิสลาซูลีสีน้ำเงินเข้ม Gemstone ที่มีความหมายสื่อถึงความมั่งคั่งเพื่อขับให้เพชรดูโดดเด่น เปล่งประกายมากขึ้น และมีการประดับพาไรบาสีเทอร์ควอยซ์บนเม็ดมะยมและตรงกลางชุดตูร์บิยองเพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนสีของทะเลสาบในช่วงฤดูแห่งหิมะโปรย ผลิตจำนวนจำกัดเพียงรุ่นละ 8 เรือนเท่านั้น สาวๆ ที่ต้องออกงานช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า เรือนนี้เรียกว่าเหมาะที่สุด ให้ลุคดั่งราชินีน้ำแข็งหรือสโนว์ควีนที่จะสะกดทุกสายตาในงานอย่างน่าอัศจรรย์
WATCH
ภาพ: Luxuothailand
3. Bloom Girl Blossom Day จาก Rolex
Rolex แบรนด์ในใจของใครหลายคน ครั้งนี้โรเล็กซ์ได้เนรมิตรคอลเล็กชั่นพิเศษผ่าน Oyster Perpetual Datejust นาฬิการะดับไอคอนนับตั้งแต่ที่เปิดตัวเมื่อปี 1945 ในฐานะนาฬิกาข้อมือแบบไขลานอัตโนมัติที่มีความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์รุ่นแรกของโลกที่มีหน้าต่างวันที่ ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา สำหรับชื่อ Datejust เองนั้นก็มีความหมายตรงที่สื่อให้เห็นว่าตัวเลขวันที่จะเปลี่ยนข้ามไปยังวันถัดไปในเวลาเที่ยงคืนพอดี Oyster Perpetual Datejust 31 ซึ่งมาพร้อมกันทั้งหมด 3 เวอร์ชั่นด้วยกัน ทั้งหมดมีหน้าปัดลวดลายดอกไม้ที่เปี่ยมด้วยความสดใส เสมือนทุ่งดอกไม้ป่าในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ช่วงเวลาที่ราวกับว่าต้นไม้ดอกไม้ทุกต้นแข่งขันกันชูช่อดอกอวดท้องฟ้าที่สดใส ดอกไม้ทั้ง 24 ดอกบนหน้าปัดนั้นมีพื้นผิวที่แตกต่างกัน บ้างก็เป็นผิวแบบซันเรย์ บ้างก็เป็นผิวแมตต์ หรือบางดอกก็เป็นผิวพ่นทราย แต่ดอกไม้ทุกดอกจะมีเพชรหนึ่งเม็ดประดับอยู่ตรงกลางเหมือนกัน ลวดลายดอกไม้นี้เกิดขึ้นบนหน้าปัดได้ด้วยศักยภาพในการออกแบบและผลิตหน้าปัดนาฬิกาด้วยตนเอง นอกจากนี้โรเล็กซ์ก็ได้เลือกใช้เลเซอร์แบบเฟมโตเซ็กเกินด์ซึ่งจะยิงกระแสแม่เหล็กไฟฟ้าแบบสั้นพิเศษลงบนพื้นหน้าปัดจนเกิดเป็นลวดลายขึ้น เลเซอร์นี้สามารถแกะสลักพื้นหน้าปัดได้อย่างเจาะจงและแม่นยำ และลวดลายดอกไม้ที่เห็นนั้นก็มีความลึกเพียงไม่กี่ไมครอนเท่านั้น เรียกว่าเป็นเรือนเวลาที่สวมใส่ได้ทุกวัน และทุกครั้งที่มองเวลาก็จะได้รับความสดชื่นของมวลหมู่ดอกไม้ที่บานสะพรั่งอยู่อย่างยาวนานตลอดกาลไร้เวลาร่วงโรย
ภาพ: Luxuothailand
4. Tough but Fabulous จาก Girard-Perregaux
สำหรับลุค Business หรือวันลุยๆ Girard-Perregaux Laureato 42 mm Pink Gold & Onyx คือคำตอบ เรือนเวลาที่จะทำให้คุณต้องมนต์เสน่ห์แห่งความดำเงาของหน้าปัดโอนิกซ์ และความน่าค้นหาของหน้าปัดสีเขียวใน Laureato รุ่นใหม่ ยิ่งเมื่อแบล็กโอนิกซ์นั้นมาอยู่คู่กับตัวเรือนพิงก์โกลด์แล้วก็ยิ่งเย้ายวนชวนมองอย่างน่าประหลาด เป็น “ท่วงทำนองที่ลงตัวระหว่างรูปทรงและสีสันสุดอิ่มเอม” ความมีชั้นเชิงของนาฬิการุ่นนี้ปรากฏชัดในการตัดกันระหว่างพื้นผิวแบบขัดเงาและพื้นผิวแบบขัดด้านของตัวเรือนและสายนาฬิกา ยิ่งเมื่อคุณมองดูบริเวณขอบตัวเรือนแบบเล่นระดับแล้วก็จะยิ่งเห็นว่าพื้นที่บริเวณนี้พร้อมที่จะเล่นกับแสงในทุกจังหวะการพลิกข้อมือ สำหรับแผ่นหน้าปัดนั้นก็ผลิตอย่างประณีตด้วยขั้นตอนอย่างน้อย 15 ขั้นตอนด้วยมือ เพื่อให้ได้เนื้อของแบล็กโอนิกซ์ปัดที่เงางามดุจกระจกในที่สุด จนดูราวกับว่าโลโก้และหลักชั่วโมงทั้งหมดลอยอยู่ในอวกาศอย่างไรอย่างนั้น นาฬิการุ่นนี้ทำงานด้วยเครื่องออโต้รุ่น GP01800-1404 ซึ่งมีโรเตอร์พิงก์โกลด์ที่มองเห็นได้ชัดเจนผ่านฝาหลังแซปไฟร์คริสตัล นาฬิกา Laureato 42 mm Pink Gold & Onyx รุ่นนี้มีขายใน 2 รูปแบบด้วยกัน คุณสามารถเลือกซื้อให้นาฬิกามาคู่กับสายพิงก์โกลด์ก็ได้หรือจะให้มาคู่กับสายหนังจระเข้สีดำและบานพับพิงก์โกลด์ก็ได้
ภาพ: Luxuothailand
5. Raibow Day Pride จาก Ulysse Nardin
เฉดสีรุ้งอันสวยงามที่ถูกรังสรรค์จัดเรียงอย่างงดงาม โดยเรือนเวลาจาก Ulysse Nardin แต่งแต้มความสดใสด้วยอัญมณีหลากสีสันให้กับนาฬิการุ่น Lady Diver Rainbow ตัวเรือนสเตนเลส สตีลขนาด 39 มม. ขอบตัวเรือนแบบหมุนได้ทิศทางเดียวของนาฬิการุ่นนี้มีการประดับอัญมณีรวม 40 เม็ดรวม 1.04 กะรัต ในลักษณะไล่เฉดสีรุ้งเหมือนรุ่นแรก ได้แก่ รูบี้สีแดง ซาโวไรต์สีเขียว เพอริดอตสีเขียวอ่อน โทปาซสีน้ำเงิน อควอมารีนสีฟ้า อเมธิสต์สีม่วง และแซปไฟร์สีส้ม สีเหลือง สีน้ำเงิน สีม่วงและสีชมพู แต่ด้วยความที่เป็นนาฬิกาดำน้ำจึงต้องมีสเกลคั่นทุก 5 นาทีและมีตัวเลขที่ตำแหน่ง 0, 15, 30 และ 45 นาที และเพิ่มเติมอีกก็คือการประดับเพชรจำนวน 11 เม็ดตามตำแหน่งหลักชั่วโมงบนหน้าปัดสีเงินหรือสีดำ เรียกว่าเป็นเรือนเวลาและเครื่องประดับที่สวยงามในเวลาเดียวกัน คอมพลีตลุคของทุกวันได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ข้อมูล : World of Watches Thailand
WATCH