RUNWAY

Louis Vuitton S/S 2025 คอลเล็กชั่นสะท้อนประวัติศาสตร์ในอดีต สู่ความล้ำสมัยบนรันเวย์ทรังก์ 1,000 ใบ!

Louis Vuitton’s S/S 2025 ทำให้ทุกคนเห็นชัดเจนแล้วว่า ในโลกแฟชั่น ความเสี่ยงที่กล้าหาญคือปัจจัยที่ทำให้เกมแห่งแฟชั่นยังคงดำเนินและเดินต่อไปได้อย่างน่าจับตามอง เพราะสุดท้ายแล้ว อย่างที่ใครบางคนเคยบอกไว้ไม่ใช่หรือว่า "ไม่มีอะไรถูกและผิดในโลกของศิลปะและความงดงาม" #LouisVuitton #LVSS25

คอลเล็กชั่น Spring/Summer 2025 ของ Louis Vuitton ภายใต้การนำของ Nicolas Ghesquière ได้นำพาเราเข้าสู่การเดินทางที่ยิ่งใหญ่ปิดท้ายแฟชั่นวีกได้อย่างสมศักดิ์ศรี ด้วยการปิดลานด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ตั้งแต่ทางเข้า เร่งเร้าให้เหล่าซูเปอร์สตาร์เดินพรีโชว์ยาวร่วมกิโลก่อนจะนำทุกคนเข้าโชว์ด้วยรันเวย์เลื่อนลอยที่ผสมหีบเดินทางสุดไอคอนิคร่วมพันใบไว้เล่าเรื่องประกอบการโชว์อย่างน่าตื่นตา ด้วยการผสมผสานระหว่างยุคเรเนสซองส์กับพลังแห่งยุค 80s มันไม่ใช่เพียงแค่การคำนับให้กับอดีต แต่เป็นการผสมผสานโครงร่างสถาปัตยกรรม ความนุ่มนวลที่ไร้โครงสร้าง และตั้งใจเล่นกับสัดส่วนที่โดดเด่นของสตรี ที่มาพร้อมกับเพลงประกอบโชว์สุดไพเราะจาก In Waves อัลบั้มใหม่ของ Jamie XX เปิดโชว์ด้วยเสื้อแจ็กเก็ตแขนพองและกางเกงตัวโคร่งซึ่งดูเข้มแข็งกระฉับกระเฉง ก่อนที่จะถูกทำให้ดูเบาบางลงด้วยกางเกงเท่าเข่าทรงขี่จักรยานและโครงสร้างที่นุ่มนวลบนเนื้อผ้าบางเบา ในขณะที่การเล่นกับผ้าไหมและโครงเสื้อโค้ทขนาดใหญ่ก็ทำให้ความหรูหราของเสื้อผ้าในอดีตกลับมาสู่ความเป็นปัจจุบันด้วยการผสมผสานเล่นล้อกันไปตลอดทั้งคอลเล็กชั่น

Ghesquière ตั้งใจเล่นกับความขัดแย้งระหว่างงานโครงสร้างรูปแบบต่างๆ โดยยอมรับว่าได้รับอิทธิพลทางสถาปัตยกรรมโดยเฉพาะที่ลูฟร์แห่งนี้ แต่ตั้งใจทำให้มันนุ่มนวลขึ้นสำหรับยุคสมัยใหม่ ทั้งการจับคู่ลายจุดกับลายทาง การผสมผ้าชีฟองเข้ากับเสื้อแจ็กเก็ตทรงกล่อง และกางเกงที่ยาวระดับเข่าได้ท้าทายรูปแบบการตัดเย็บแบบเดิมๆ เพื่อสร้างลุคที่ยืนอยู่ระหว่างความอัจฉริยะและความสับสนที่อาจจะดูงุนงงในบางลุคให้แก่ผู้ชมบางคนที่ยังไล่ตามความคิดสุดล้ำของเขาไม่ทัน แถมยังท้าทายความเข้าใจและชื่นชอบของทุกคนอย่างจัง "ถ้าคุณไม่ทำให้ตัวเองเสี่ยงในเรื่องความงามทุกซีซั่น คุณก็ไม่ได้กำลังเล่นเกมแห่งแฟชั่นจริง ๆ" ดีไซเนอร์คนเก่งยืนยัน

คอลเล็กชั่น Spring/Summer 2025 ของ Ghesquière เป็นอีกบทที่น่าสนใจในประวัติศาสตร์การทำงานของเขาที่บ้านแฟชั่น Louis Vuitton เขาได้นำความหลงใหลในประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม และองค์ประกอบแห่งอนาคตมาผสมผสาน และผลักดันให้ก้าวไปในดินแดนใหม่ๆ ในขณะที่โชว์ที่ผ่านมาได้สำรวจความสวยงามที่ดูเทคโนโลยีและล้ำยุค (เช่น S/S 2020 ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากนิยายวิทยาศาสตร์ หรือ F/W 2016 ที่สำรวจอนาคตแบบดิสโทเปีย) ในคอลเล็กชั่นก่อนหน้า Ghesquière มักจะเล่นกับโครงสร้างและวัสดุ โดยสร้างสมดุลระหว่างความแม่นยำด้วยเทคนิคการเล่าเรื่องเชิงจินตนาการ ตัวอย่างเช่น คอลเล็กชั่น S/S 2020 มีเส้นสายที่เพรียวบางและแสงนีออนที่ให้ความรู้สึกล้ำสมัย ในขณะที่ F/W 2023 แสดงให้เห็นถึงโครงร่างที่โดดเด่นซึ่งทำให้นึกถึงความหรูหราของยุค 80s แต่ด้วยสัมผัสที่ทันสมัยมากขึ้น ในทางตรงกันข้าม คอลเล็กชั่น S/S 2025 ได้นำเอารูปทรงสถาปัตยกรรมมาใช้ ในขณะเดียวกันก็ทำให้มันนุ่มนวลขึ้นเพื่อให้เกิดความลื่นไหลแบบใหม่ Ghesquière มักจะร่วมงานกับศิลปินร่วมสมัยด้วยเช่นกัน ครั้งนี้เสื้อแจ็กเก็ตที่ประดับด้วยภาพวาดท้องฟ้าของ Laurent Grasso ศิลปินชาวฝรั่งเศส สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเขาที่จะหลอมรวมศิลปะเข้ากับแฟชั่นอีกครั้ง

ถามถึงผลลัพธ์ของการทดลองเข้าสู่การแข่งขันที่ดูอันตรายกันบ้าง ในขณะที่การออกแบบที่เน้นการเล่นกับวอลูมดูมีความน่าดึงดูดใจ แต่บางครั้งก็ดูเยอะจนท่วมท้นจนทำให้รู้สึกว่าตัวนางแบบจมหายไปในชุด นอกจากนี้ การผสมผสานระหว่างลวดลายต่างๆ เช่น ลายจุดและลายทาง อาจทำให้รู้สึกวุ่นวายมากกว่าที่จะเข้ากันได้ดี การซ้อนทับของวัสดุ เช่น ผ้าลูกไม้ ชีฟอง และการถักทอ อาจจะดูเยอะจนรบกวนความสง่างามของชิ้นงาน ทำให้บางลุคดูยุ่งเหยิงเกินไป ทั้งหมดนำมาสู่การโต้แย้งและถกเถียงกันได้ต่อถึงความงามตามอุดมคติสมความตั้งใจที่รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลองของเขาในครั้งนี้

เราอาจสรุปได้ว่า Louis Vuitton S/S 2025 คือนิยามของ Ghesquière อย่างแท้จริง มันทั้งเต็มไปด้วยดราม่า ความกล้าหาญในงานออกแบบ และขัดแย้งที่ดูนุ่มนวล ซีซั่นนี้จึงไม่ได้เกี่ยวกับความเรียบง่ายและเดาทางได้อีกต่อไป แต่มันคือการสำรวจเชิงการแสดงที่เต็มไปด้วยการผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์และอนาคต ด้วยพลังแห่งโครงเสื้อบนแพทเทิร์นแบบใหม่ๆ การอ้างอิงยุคเก่า และการร่วมมือเชิงนวัตกรรมใหม่ๆ คอลเล็กชั่นนี้พิสูจน์ให้เห็นว่า Ghesquière ยังคงเล่นเกมในแบบของเขา เพียงแต่เราจะรักและเข้าใจมันหรือไม่ แต่สิ่งหนึ่งที่เราเห็นและรู้สึกได้ก็คือ Vuitton’s S/S 2025 ทำให้ทุกคนเห็นชัดเจนแล้วว่า ในโลกแฟชั่น ความเสี่ยงที่กล้าหาญคือปัจจัยที่ทำให้เกมแห่งแฟชั่นยังคงดำเนินและเดินต่อไปได้อย่างน่าจับตามอง เพราะสุดท้ายแล้ว อย่างที่ใครบางคนเคยบอกไว้ไม่ใช่หรือว่า "ไม่มีอะไรถูกและผิดในโลกของศิลปะและความงดงาม"