RUNWAY

Miu Miu S/S 2025 ผลผลิตความสร้างสรรค์ของ Miuccia Prada ที่พาทุกคนย้อนวัยผสมกับโลกโมเดิร์น

คอนเซปต์ Salt Looks Like Sugar (เกลือก็ดูเหมือนน้ำตาล) ได้นำเสนอการผสมผสานระหว่างความย้อนวัยและความจริงที่ซ่อนเร้นในแฟชั่นได้อย่างน่าทึ่ง

Miu Miu S/S 2025: ‘News of the World’

Miu Miu คอลเล็กชั่น Spring/Summer 2025 หรือที่แบรนด์อยากจะให้เราเรียกมันว่า Salt Looks Like Sugar (เกลือก็ดูเหมือนน้ำตาล) ได้นำเสนอการผสมผสานระหว่างความย้อนวัยและความจริงที่ซ่อนเร้นในแฟชั่นได้อย่างน่าทึ่ง ถ้าคุณหวังมาดูโชว์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ เรารับรองว่าไม่ผิดหวัง โดยเฉพาะช่วงจบโชว์ที่ Willem Dafoe ปรากฏตัวราวกับเซอร์ไพรส์สุดท้ายที่เก็บไว้อย่างดี แล้วมันจะมีอะไรที่เด็ดกว่านี้ไหม? นั่นก็คงเป็นตอนที่คุณรู้ตัวว่าทุกสิ่งที่เห็นนั้นไม่ได้เป็นอย่างที่คิด เพราะ Miu Miu โดย Miuccia Prada นี่แหละที่ถนัดนักในการการพลิกมุมมอง เหมือนกับข้อความที่เราเห็นในสื่อโซเชียลที่เธอนำมาใช้เป็นสารตั้งต้นในการทำงานครั้งนี้

Miuccia Prada ตั้งใจหยิบเอางานศิลปะมาใช้อีกครั้ง ครั้งนี้เธอจับมือกับ Goshka Macuga มานำเสนอคอลเล็กชั่นที่ดูเรียบง่ายแต่ซ่อนความซับซ้อนอยู่เต็มที่ และคำว่าเรียบง่ายที่ว่านี้ เธอหมายถึงเดรสผ้าฝ้ายขาวบริสุทธิ์ที่ดูใสซื่อ แต่รับรองว่ามันคือการคิดใหม่ทำใหม่ เพราะเดรสนี้คือการนำมาเล่นล้อล่อลวงลูกค้าหลักของเธอให้แวะเวียนกลับมาช็อปอย่างสนุกเหมือนช่วงปีที่ผ่านมา กับรายรับมหาศาลที่ได้มาจากลุคใหม่ที่แบรนด์เริ่มสร้างและสานต่อมาจนซีซั่นนี้ โดยเฉพาะเสื้อ chemisette ชุดผ้าฝ้ายถูกดึงลงพับเป็นบัสติเยร์เดรสสุดเซ็กซี่ กลายเป็นความเย้ายวนที่ดูลับลวงพรางมาเป็นอย่างดี ขณะที่ Gen Z และ Gen Alpha ที่คลั่งไคล้แฟชั่นแนวนี้น่าจะชอบกันเป็นพิเศษ คอลเล็กชั่นนี้ไม่ได้ทำมาเพื่อแค่กลุ่มคนที่ติด TikTok เท่านั้น Miu Miu ยังคงกวาดรายได้มหาศาลด้วยการเกาะกระแสความชอบใน “ใส่ชุดให้ดูผิดที่ผิดทาง” และการ “ปรับใช้ในสไตล์ใครสไตล์มัน” ที่คนรุ่นนี้ชอบนำมาเป็นใช้เป็นทริก GRWM กันเกลื่อนโซเชียล ทั้งการซ้อนเลเยอร์ให้มากมาย เสื้อผ้าถูกบิดให้ดูเก๋ เพราะใครบ้างในยุคนี้ที่จะไม่ชอบแปลกและแตกต่างที่สร้างกระแสได้อย่างไม่น่าเชื่อ

Miu Miu เข้าใจดีว่าในปี 2025 ความหลากหลายไม่ได้เป็นแค่คำฮิตติดปาก มันคือสิ่งที่ทุกคนเรียกร้องจริงๆ การแคสติ้งตัวแบบนั้นคือการผสมผสานความเปรี้ยวเก๋ในหลายเจนเนอเรชั่น ไม่ว่าจะเป็น Cara Delevingne, Hilary Swank, Alexa Chung และแน่นอน Willem Dafoe ทำให้คอลเล็กชั่นนี้สะท้อนถึงความต้องการของโลกที่โหยหาความเป็นปกติคน ในรูปแบบที่ไม่ปกติ ผ่านการแสดงออกที่ทำให้ทุกคนสามารถจินตนาการตัวเองอย่างง่ายดายในชุดสวยสุดซับซ้อนที่เห็นบนรันเวย์ แต่ก็ใช่ว่าทุกอย่างจะดูเป็นไปในทางบวกไปเสียหมด แนวคิดเรื่อง “การแสดงออกถึงความเป็นจริงในวัยเยาว์” (ตามที่เราอ่านผ่านโน้ตกำกับโชว์) มันดูเหมือนการเทศนาและสอนสั่งที่มากเกินไป เราเข้าใจกันเองแล้วว่า วัยเด็กเท่ากับความบริสุทธิ์ที่เราห้ามมองข้ามและมองผ่านด้วยเลนส์แฟชั่นชั้นเดียว แต่เรายังต้องการให้แบรนด์แฟชั่นพูดปรัชญาเกี่ยวกับโลกมากไปกว่านี้จริงเหรอ? โดยเฉพาะเมื่อความซับซ้อนและความย้อนแย้งมันทำให้รู้สึกเหมือนเราถูกขายคอนเซ็ปต์ “normcore” ในเวอร์ชั่นที่ตั้งใจยกระดับทางปัญญาจนดูน่าปวดหัวขึ้นไปอีก

ถึงเสื้อผ้าที่เห็นทั้งหมดจะถูกออกแบบให้ดูใส่แล้วเท่ แต่ผลลัพธ์โดยรวมอาจดูไม่ Mindful พอสำหรับคนที่ชอบแฟชั่นที่หนีบเอาความหรูหรามาเต็มคราบ ถึง Miu Miu จะมีแฟนคลับที่ภักดี แต่คอลเล็กชั่นนี้จะเข้าถึงผู้ซื้อที่จะดึงดูดให้พวกเขาเข้ามาชมสินค้าบนชั้นวางและนำกลับไปไว้ในตู้เสื้อผ้าตัวเองจริงๆ หรือเปล่า? (โดยเฉพาะกับรองเท้าแตะและเสื้อยืดพันผูกที่ตั้งใจเอามาเบรกสร้างลุคใหม่ให้ดู Brat) มันก็ขึ้นอยู่กับว่าเราพร้อมจะยอมรับความเป็นเด็กในตัวเอง หรือแค่อยากดูเหมือนเราไปขโมยชุดของเด็กมาใส่

โดยรวมแล้ว Miu Miu Spring/Summer 2025 เป็นเหมือนงานศิลปะประกอบการแสดงที่ปลอมแปลงมาเป็นส่วนหนึ่งของแฟชั่นโชว์ ซึ่งแน่นอนว่ามันจะประสบความสำเร็จเชิงพาณิชย์อีกครั้ง เพราะคงไม่มีใครอยากปฏิเสธความน่าสวมใส่ที่ทั้งดูมีสติ และมีสไตล์เฉกเช่นที่เห็นและเป็นอยู่นี้