LIFESTYLE

'ต้มยำกุ้ง' ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ขององค์การ UNESCO!

“ต้มยำกุ้ง” ไม่ได้เป็นเพียงอาหารขึ้นชื่อของไทย แต่ยังสะท้อนวิถีชีวิตเรียบง่ายของคนไทย โดยใช้วัตถุดิบที่หาได้ในท้องถิ่น กลายเป็นเมนูที่นิยมอย่างกว้างขวางไปทั่วโลก จึงได้รับการยกย่องให้เป็น 'Soft Power' ด้านอาหารที่สามารถเชื่อมโยงวัฒนธรรมไทยกับผู้คนทั่วโลก

     ที่ประชุมคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ครั้งที่ 19 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงอาซุนซิออน ประเทศปารากวัย มีมติขึ้นทะเบียน “ต้มยำกุ้ง” ในบัญชีตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ภายใต้ อนุสัญญาว่าด้วยการอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ปี 2003 ซึ่งจัดทำโดยองค์การ UNESCO ถือเป็นความภาคภูมิใจของประเทศไทย และช่วยสร้างการรับรู้ในระดับสากลถึงคุณค่าและความสำคัญของ “ต้มยำกุ้ง” ในฐานะมรดกทางวัฒนธรรมด้านอาหารที่สะท้อนภูมิปัญญาท้องถิ่นของคนไทย จนถึงปัจจุบัน ไทยมีมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนในบัญชี RL รวม 5 รายการ ได้แก่ โขน ปี 2561, นวดไทย ปี 2562, โนรา ปี 2564, สงกรานต์ในประเทศไทย ปี 2566 และต้มยำกุ้ง ในปีนี้

 

 



WATCH




     “ต้มยำกุ้ง” ไม่ได้เป็นเพียงอาหารขึ้นชื่อของไทย แต่ยังสะท้อนวิถีชีวิตเรียบง่ายของคนไทยที่ใกล้ชิดธรรมชาติ และรู้จักพึ่งพิงสิ่งแวดล้อมรอบตัวเพื่อสร้างสุขภาวะที่ดีทั้งกายและใจ เมนูนี้ถือกำเนิดขึ้นจากชุมชนเกษตรกรรมริมแม่น้ำในภาคกลางของไทย โดยใช้วัตถุดิบที่หาได้ในท้องถิ่น เช่น ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และกุ้ง มาปรุงแต่งเป็นอาหารที่ทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพ

 

ชื่อ “ต้มยำกุ้ง” มาจาก 3 คำหลักที่บ่งบอกถึงกระบวนการทำอาหาร ได้แก่

• ‘ต้ม’ การนำวัตถุดิบไปต้มในน้ำเดือด

• ‘ยำ’ การปรุงรสจัดจ้านให้มีรสเปรี้ยว เค็ม เผ็ด หวาน และขมเล็กน้อย

• ‘กุ้ง’ วัตถุดิบหลักที่เพิ่มรสชาติหวานตามธรรมชาติ

รสชาติของต้มยำกุ้งโดดเด่นด้วยความเผ็ดร้อนและกลิ่นหอมจากสมุนไพรพื้นบ้าน ทั้งยังสะท้อนการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและสอดคล้องกับวิถีชีวิตไทย

 

     ปัจจุบันต้มยำกุ้งได้รับการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นและปรับเปลี่ยนไปตามรสนิยมและวัตถุดิบในแต่ละพื้นที่ทั้งในไทยและต่างประเทศ ทำให้เกิดสูตรใหม่ๆ ที่ยังคงเอกลักษณ์ของเมนูนี้ไว้ไม่เปลี่ยนแปลง ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ต้มยำกุ้งจึงเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางในหมู่ชาวต่างชาติ และได้รับการยกย่องให้เป็น “Soft Power” ด้านอาหารที่สามารถเชื่อมโยงวัฒนธรรมไทยกับผู้คนทั่วโลก กระทรวงวัฒนธรรมยังพร้อมสนับสนุนให้ต้มยำกุ้งก้าวไปสู่การเป็นเมนูระดับโลก เพื่อสร้างความตระหนักรู้ในคุณค่าของอาหารไทยทั้งในหมู่คนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ จากภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เรียบง่าย ต้มยำกุ้งได้กลายเป็นตัวแทนสำคัญของวัฒนธรรมอาหารไทย ที่ยังคงมอบความอร่อยและสร้างความประทับใจไปทั่วโลก

 

(สามารถอ่านเรื่อง ‘สามดาว Michelin’ ร้านแรกในไทย Sorn ‘ศรณ์’ สร้างประวัติศาสตร์ครั้งยิ่งใหญ่แห่งวงการอาหาร! ได้ที่นี่)

รูปภาพ และ ข้อมูล : Courtesy of Ministry of Foreign Affairs of the Kingdom of Thailand
รูปภาพ : Pexel

WATCH

TAGS : UNESCO