LIFESTYLE

ย้อนรอย 30 ปีแห่งความอัปยศของฉากไขว้ขาใน Basic Instinct ที่สร้างตำนานชื่อ Sharon Stone

ในเรื่อง Basic Instinct ไม่ได้มีแค่ฉากไขว้ขาอันลือลั่น แต่มีเหตุการณ์ที่สร้างประสบการณ์อันขมขื่นให้กับนักแสดงนำหญิงระดับตำนาน

     นักแสดงผู้เข้าชิงรางวัลออสการ์ถือเป็นการขนานนามยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่จะเกิดขึ้นได้กับนักแสดงคนหนึ่ง บางคนมีชื่อเข้าชิงหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็พลาดโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย บางคนเริ่มต้นชีวิตนักแสดงไม่นานก็พุ่งทะยานอย่างรวดเร็ว บางคนต้องตรากตรำในวงการมานานหลายทศวรรษ หรือบางคนอาจต้องพบเจอเหตุการณ์บั่นทอนจิตใจที่ต้องเก็บความรู้สึกเหล่านั้นไว้กับตัวอยู่จนถึงทุกวันนี้ ความโด่งดัง ฝีมืออันเก่งกาจอาจเป็นเรื่องหนึ่ง แต่ประสบการณ์อันเลวร้ายในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องเยี่ยมนั้นยากจะหาสิ่งใดมาลบได้

Paul Verhoeven ขณะกำลังกำกับภาพยนตร์เรื่อง Basic Instinct / ภาพ: NME

     Sharon Stone คือนักแสดงหญิงฝีมือเยี่ยมที่ถูกขนานนามว่าเป็นตำนานคนหนึ่งแห่งโลกภาพยนตร์ แต่ภาพยนตร์สร้างชื่อของเธออาจไม่ได้เป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุด ในทางกลับกันมันอาจจะเป็นประสบการณ์ที่แย่ที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตเลยทีเดียว ภาพยนต์เรื่อง Basic Instinct ได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์ในหลากหลายประเด็น ด้วยเนื้อหาสไตล์ระทึกขวัญที่มีความผูกโยงกับเรื่องเพศ ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ทั้งหมดถูกถ่ายทอดผ่านฝีมือผู้กำกับ Paul Verhoeven

ส่วนหนึ่งจากฉากเปิดเรื่องสุดเหี้ยมโหดของภาพยนตร์เรื่อง Basic Instinct / ภาพ: JohnnyBoyz

     ความระทึกขวัญที่ตั้งใจให้เกิดในภาพยนตร์แต่กลับสร้างความระทึกขวัญอันเป็นตราบาปชีวิตของนักแสดง สำหรับคนภายนอกอาจมองว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ผลักชื่อนักแสดงนำหญิงให้กลายเป็นซูเปอร์สตาร์เต็มตัว แต่สำหรับชารอนเธอกลับได้รับประสบการณ์ที่ชวนปั่นประสาทอย่างยิ่ง ฉากเปิดเรื่องที่เต็มไปด้วยความเข้มข้นที่ชารอนต้องรับบทเป็นอาชญากรผู้ทำร้ายร่างกายชายหนุ่มจนชุ่มโชกไปด้วยเลือด การถ่ายทำกระตุกต่อมระทึกขวัญของนักแสดงหญิงคนนี้จนถึงขีดสุด เพราะเธอต้องทุบตีหนักขึ้นๆ อีกทั้งนักแสดงร่วมยังปั๊มเลือดปลอมออกมาไม่หยุดหย่อน สักพักเขาก็หมดสติไป เธอตกอยู่ในอาการช็อค ตื่นกลัว เปลือย และชุ่มไปด้วยเลือด(ปลอม) เรียกว่าแค่ฉากเปิดที่เป็นฉากไอคอนิกของวงการภาพยนตร์ก็ฝากรอยแผลทางความทรงจำไว้ให้เธอไม่น้อย ซึ่งเธอก็มีความกังวลอย่างมากว่าผู้ชมจะจดจำภาพตัวเธอในรูปแบบของตัวละครใน Basic Instinct และภาพจำนั้นอาจไม่สามารถลบเลือนได้อย่างหมดจดไปตลอดชีวิตการเป็นนักแสดง



WATCH




ฉากสลับขาในตำนานของ Sharon Stone จากภาพยนตร์เรื่อง Basic Instinct ที่ยังคงเป็นที่พูดถึงจวบจนปัจจุบัน / ภาพ: The New York Times

     หากพูดถึง Basic Instinct หนึ่งฉากสำคัญที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้โด่งดังในด้านมืดคือฉากสลับขาของชารอน ฉากนี้ดูเหมือนเป็นฉากเย้ายวนทั่วไป แต่ต่างออกไปที่ชารอนกลับเปลือยท่อนล่างด้านในเสียหมดจดจนเห็นจุดซ่อนเร้น นำมาซึ่งภาพจำที่เมื่อพูดถึงนักแสดงคนนี้เมื่อใด ก็จะมีคนพูดถึงฉากดังกล่าวเมื่อนั้น สำหรับชารอนมันไม่ใช่ประสบการณ์ที่ดีเลยแม้แต่น้อย เธอเล่าว่าเธอต้องถอดกางเกงในสีขาวเพื่อไม่ให้มันสะท้อนแสงไฟ “นั่นเป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นฉากวาบหวิวเห็นถึงอวัยวะเพศ ฉันตัดสินใจที่จะทำ ฉันเข้าไปหาพอลที่บูธควบคุมและตบหน้าเขาอย่างจัง ก่อนจะออกไปที่รถและเรียกทนาย” เธอกล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเข้าไปดูฉากดังกล่าวพร้อมกับทีมงานมากมาย รวมถึงพอล ผู้กำกับของเรื่องด้วย เรื่องราวดังกล่าวถูกหยิบมาพูดถึงเป็นประจำเกี่ยวกับการรักษาสิทธิ์บนเรือนร่างของนักแสดง เธอตัดสินใจทำเพราะต้องการให้งานออกมาดีที่สุด และคิดว่าทุกคนจะช่วยเซฟเรื่องขุ่นมัวไม่ให้เกิดขึ้น ทว่ามหากาพย์เรื่องฉากในตำนานไม่ได้จบแต่เพียงเท่านี้

ลีลาอันเย้ายวนของ Sharon Stone ที่เธอตีบทแตกจนถึงที่สุด / ภาพ: Today Show

     ผู้กำกับพอลก็เคยออกมาโต้แย้งอย่างแรงกล้าว่าเรื่องราวของชารอนมันเป็นไปไม่ได้ โดยเขากล่าวว่า “เธอรู้ว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่” พร้อมบรรยายถึงแรงบันดาลใจฉากนี้ว่า “ผมบอกเธอว่าฉากนี้อ้างอิงจากเพื่อนสมัยเรียนที่ชอบไขว้ขาโดยไม่ใส่กางเกงในในงานปาร์ตี้ เพื่อนของผมก็บอกเธอว่ามันอาจจะเห็นจุดลับ เธอกลับบอกว่า ‘แน่นอน เพราะอย่างนี้ฉันเลยพร้อมจะเล่น’ หลังจากนั้นชารอนและผมก็ตัดสินใจรังสรรค์ฉากดังกล่าวขึ้น” ต่อมานักแสดงผู้เสียผลประโยชน์ก็กล่าวว่า “ใช่มันมีหลายมุมมองมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ฉันคือคนที่มีภาพจิ๋มปรากฏอยู่ในข้อถกเถียงนี้ ขอฉันพูดหน่อยว่ามุมมองอื่นๆ (นอกจากของตัวเธอเอง) มันเหลวไหลสิ้นดี” เรียกว่าฉากนี้กลายเป็นประเด็นเดือดที่ถูกพูดถึงยาวนานถึง 3 ทศวรรษ และเชื่อไหมว่าฉากดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสคริปต์เดิม แต่เป็นการด้นสดหน้างานของพอล

ฉากเร่าร้อนใน Basic Instinct ที่ Michael Douglas และ Sharon Stone แสดงร่วมกันได้อย่างถึงพริกถึงขิง / ภาพ: IndieWire

     เรื่องฉากไขว้ขาอันลือลั่นไม่ใช่เรื่องเดียวที่ชารอนต้องเผชิญ กว่าบทบาทสุดขั้วในเรื่องจะตกมาถึงเธอมีนักแสดงเกิน 10 คนที่ทีมผู้สร้างเล็งไว้ ชารอนเป็นตัวเลือกลำดับที่ 13 และตลอดการถ่ายทำเธอถูกเรียกว่า “คาเรน” อีกทั้งพอลยังย้ำเตือนนักแสดงสาวคนนี้ว่าเธอไม่ใช่ตัวเลือกอันดับต้นๆ แต่อย่างใด แต่เป็นตัวเลือกอันดับ 13 ไม่ทราบเหมือนกันว่าผู้กำกับต้องการสร้างแรงผลักดันด้วยคำพูดถากถางเพื่อให้เธอพิสูจน์ตัวเองให้ได้ หรือเป็นเพียงคำดูถูกที่คอยกดขี่ชารอนไว้ เธอถูกกีดกันจากการซ้อมบท รวมถึงถูกปฏิเสธในการทดสอบการแสดงอีกด้วย มากไปกว่านั้นตามรายงานยังระบุย้อนหลังด้วยว่าชารอนได้รับค่าตัวจากเรื่องนี้เพียง 5 แสนเหรียญสหรัฐฯ ในขณะที่ Michael Douglas ดารานำชายกวาดรายได้ส่วนตัวไปกว่า 14 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็นจำนวนที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

การประท้วงของกลุ่ม LGBTQ+ ที่ไม่พอใจเกี่ยวกับเนื้อหาและการวางคาแร็กเตอร์ในภาพยนตร์เรื่อง Basic Instinct / ภาพ: Quora

     นอกจอภาพยนตร์และกองถ่ายก็ดุเดือดอยู่ไม่น้อย ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างความขัดแย้งจนกลายเป็นการประท้วงของกลุ่ม LGBTQ+ และนักเรียกร้องด้านสิทธิสตรี คนกลุ่มนี้มองว่าภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวนำเสนอภาพจำผิดๆ และโยนความชั่วร้ายมาให้กับตัวละครไบเซ็กชวล ผู้เขียนบทหลักถึงขั้นต้องเปลี่ยนบทจำนวนมากเพราะบทรั่วไหลไปสู่สาธารณะและเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง ตัวแทนทีมผู้สร้างต้องพบกับตัวแทนของกลุ่ม LGBTQ+ เพื่อรื้อสร้างและปรับบทให้ลงตัวขึ้นกว่าเดิม ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น พอลยังคงปฏิเสธเรื่องนี้เสมอมาและกล่าวมาตลอดว่า “การเซ็นเซอร์จากการเรียกร้องบนท้องถนนจะไม่ถูกยอมรับ” ในขณะถ่ายทำก็ต้องกันกลุ่มผู้ประท้วงให้ห่างจากกองไกลเป็น 100 ฟุต เรื่องดังกล่าวยังคงร้อนระอุจนกระทั่งวันเข้าฉาย ช่วงเดือนมีนาคม 1992 กลุ่มผู้ประท้วงยังคงยืนหยัดต่อต้านภาพยนตร์เรื่องนี้ถึงหน้าโรงภาพยนตร์

ภาพโปรโมตจาก Basic Instinct 2 ภาพยนตร์ภาคต่อที่ล้มเหลวไม่เป็นท่า / ภาพ: Thaiware

     กระแสของภาพยนตร์ Basic Instinct แรงต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงแรกที่เข้าฉาย กวาดรายได้ไปมากถึง 352.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากทุนสร้างเพียง 49 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และส่งให้ชารอนเข้าชิงรางวัลสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากเวทีสำคัญหลายต่อหลายเวที แต่นั่นก็ไม่ได้ลบความทรงจำอันขมขื่นจากใจเธอได้ ทว่าเธอพลิกชีวิตนักแสดงได้อย่างน่าชื่นชม ชารอนกลายเป็นนักแสดงฝีมือเยี่ยมที่แสดงภาพยนตร์อย่างต่อเนื่องตลอด 2 ทศวรรษที่ผ่านมา แต่สุดท้ายก็ไปตกม้าตายที่ภาคต่อของภาพยนตร์สุดอื้อฉาว เธอคว้ารางวัลนักแสดงยอดแย่ และภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ถูกขนานนามว่าเป็นภาพยนตร์ยอดแย่ประจำปี 2006 ความอัปยศทั้งหมดเกิดขึ้น ถูกโต้แย้ง และค่อยๆ เลือนหายไป เรื่องราวของชารอนอาจดราม่าจนสร้างภาพยนตร์จากเหตุการณ์ดังกล่าวได้อีกสักเรื่อง แต่เชื่อเลยว่าในท้ายที่สุดมันเป็นเรื่องของการให้เกียรติ ไม่ใช่แค่ในฐานะเพื่อนร่วมวงการ แต่ในฐานะเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ความอัปยศดังกล่าวอาจทำให้ภาพยนตร์โด่งดังและผู้คนรู้จักชารอนมากขึ้น ในทางกลับกันผู้คนจะจดจำชื่อชารอน สโตนในฐานะหญิงผู้เผยจุดซ่อนเร้นให้คนทั้งโลกได้เห็นในฉากไขว้ขาอันลือลั่น ใครล่ะต้องรับผิดชอบกับเรื่องนี้ ปัจจุบันก็ยังไม่มีใครอ้าอกรับ แม้แต่พอลเอง แม้เธอจะพูดถึงเรื่องนี้แบบหมดเปลือก แต่สุดท้ายเธอก็ถูกผูกติดกับสิ่งนี้ตลอดไป และนี่คือเรื่องราวดำมืดที่อาจสร้างแสงสว่างให้นักแสดงสาวคนหนึ่งที่เธออาจไม่เคยต้องการ

 

ข้อมูล:

vanityfair.com

indiewire.com

nytimes.com

washingtonpost.com

WATCH