นานวันเข้าอุตสาหกรรมบันเทิงแห่งวงการเกาหลีใต้ก็ยิ่งประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทั่วโลกต่างจับจ้องมาเป็นสายตาเดียวกัน โดยเฉพาะอุตสาหกรรม K-Pop ที่เข้ามามีบทบาททั้งในวงการบันเทิงและอุตสาหกรรมแฟชั่น สังเกตได้จากการทำผลงานเพลงร่วมกับศิลปินฝั่งตะวันตก รวมถึงเหล่าแบรนด์แฟชั่นระดับโลกต่างดึงตัวศิลปินจากวงนั้นวงนี้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์อีกด้วย ปัจจัยหนึ่งคงต้องการสร้างภาพลักษณ์รูปแบบใหม่ให้กับแบรนด์ อีกอย่างหนึ่งคือการได้เห็นมุมมองจากศิลปินที่สามารถสื่ออัตลักษณ์ของแบรนด์ออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด อย่างเช่น ‘Jang Won-young’ แห่งวง IVE ที่ได้ขึ้นแท่นเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของแบรนด์ MIUMIU อย่างเป็นทางการไปเมื่อต้นปีที่แล้ว แน่นอนว่าวอนยองยังคงอยู่ในกระแสเรื่อยมาด้วยเสน่ห์อันโดดเด่นของเธอและการเป็นวิชวลของวง จึงทำให้เธอเป็นอีกหนึ่งศิลปินที่น่าจับตามองมากที่สุด

     ทว่าแม้ภาพลักษณ์ของวอนยองจะเต็มไปด้วยความสวยและการวางตัวดีจนยากที่จะหาข้อติ แต่สังคมก็ไม่วายตั้งประเด็นกับตัวของเธอว่า ‘ภาพลักษณ์ที่เธอพยายามจะสื่อออกมานั้น เป็นการประดิษฐ์เกินความเป็นจริงไปหรือเปล่า’

 

ภาพ Jang Won-young กินสตรอเบอร์รี่จากรายการ The Manager จนกลายเป็นกระแสมาถึงทุกวันนี้ / ภาพ: Lapakkorea

     ย้อนกลับไปเมื่อหลายเดือนก่อนคลิปของวอนยองจากรายการ The Manager ได้กลายเป็นไวรัลไปทั่วโลกโซเชียลกับท่าทางกินสตรอเบอร์รี่ของเธอ ที่ใครหลายคนล้วนเอ็นดูกับความน่ารักและสดใสตามวัย แต่กลับมีอีกเสียงที่ตั้งแง่กับเธอเป็นจำนวนมากว่าการกินสตรอเบอร์รี่ของวอนยองต่อหน้าสื่อแบบนี้มันดูไม่จริง หรือใช้ภาษาคำพูดแรงๆ ว่า ‘ปลอม’ นั่นล่ะ ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นที่ถกเถียงกันในช่วงระยะหนึ่งและเหมือนจะไม่จบลงง่ายๆ เพราะขนาดคลิปดังกล่าวผ่านมาจะเกือบปีแล้ว แต่เหล่าชาวเน็ตยังคงนำท่าทางการกินสตรอเบอร์รี่มาล้อกันอย่างสนุกมือและเพลิดเพลินปาก นอกจากนี้ยังมีกิริยาอื่นๆ ของวอนยองที่แสดงออกผ่านการปรากฏตัวตามอีเวนต์ต่างๆ ไม่ว่าจะการจัดผมอย่างมีสเต็ปต่อหน้ากล้อง การค่อยๆ ดื่มนมด้วยการจับแก้วนมทั้งสองมืออย่างเบามือ และการถ่ายโฆษณาเปิดตัวร้านพิซซ่า Papa John’s ที่ปล่อยภาพเบื้องหลังขณะที่วอนยองค่อยๆ กัดพิซซ่าต่อหน้ากล้องออกมา แทนที่ผู้คนจะพากันชมความน่ารักของเธอ แต่กลับหาว่าเธอพยายามและประจบประแจงแบรนด์เสียอย่างนั้น

 

ภาพเบื้องหลัง Jang Won-young ขณะถ่ายทำโฆษณาเปิดตัวร้านพิซซ่า Papa John's / ภาพ: Tien Phong

     จากทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมาผู้เขียนมองว่ามันคงจะเป็นเรื่องปกติที่วอนยองเป็นบุคคลสาธารณะ มันจึงไม่แปลกที่จะถูกกล่าวถึงในหลากหลายแง่มุม แต่ที่แปลกคงจะเป็นเหล่านักเลงคีย์บอร์ดที่นำท่าทางดังกล่าวมาล้อเลียนเฉกเช่นศิลปินกลายเป็นตัวตลกไปเสียอย่างนั้นซึ่งไม่ต่างอะไรกับการ “บูลลี่” เลยแม้แต่น้อย ทั้งยังกล่าวหาว่าเธอชอบทำตัวปลอมต่อหน้าสื่ออยู่เสมอ อ่านดูอาจจะแรงไปเสียหน่อยแต่เมื่อจับใจความมาอย่างดีแล้วประโยคนี้สามารถอธิบายเรื่องราวทั้งหมดได้ชัดเจนที่สุด เหตุใดผู้คนถึงไม่ค่อยสนใจเกี่ยวกับความตั้งใจในการทำงานหรือความทุ่มเทที่ศิลปินต้องการมอบให้แฟนๆ แต่กลับมานั่งเล่นเกมจับผิดกันอย่างไม่มีขอบเขต สิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้เขียนมองเห็นว่าบางทีค่านิยมของสังคมที่ปฏิบัติกันมาแบบผิดๆ ตั้งแต่เริ่มอาจกลายเป็นยาพิษกัดกินของผู้บริสุทธิ์จากคำพูดของคน ไม่เพียงแค่กรณีของวอนยองแต่หมายรวมถึงคนอื่นๆ ด้วยที่โดนกระทำคล้ายกับเหตุการณ์นี้ ผู้เขียนคิดว่าหากเราค่อยๆ ปรับความคิดโดยเริ่มจากตัวเอง เอาใจเขามาใส่ใจเรา จะพูดหรือทำสิ่งใดลองนึกถึงจิตใจคนอื่นก่อนเสมอ คงจะช่วยให้ “เหยื่อ” รอดจากขี้ปากของ “คนร้าย” ได้ไม่มากก็น้อย