สำรวจสถานการณ์โลกแฟชั่นผ่านยอดขาย LVMH, Kering และ Hermès ในวันที่ตลาดจีนคือตัวแปรสำคัญ!
ทั้ง LVMH และ Kering ล้วนแล้วแต่มียอดขายตกลงอย่างมีนัยยะสำคัญ ซึ่งมีตลาดเอเชียและจีนเป็นตัวแปรสำคัญ
นับเป็นธรรมเนียมในทุกไตรมาสที่เหล่าองค์กรแฟชั่นขนาดใหญ่ที่เผยตัวเลขยอดขายทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น LVMH, Kering เรื่อยไปจนถึง Hermès ที่สะท้อนภาพสถานการณ์ของอุตสาหกรรมแฟชั่นลักชัวรีได้อย่างน่าสนใจ
องค์กร LVMH
เริ่มต้นกันที่ LVMH ที่ในไตรมาสที่ 3 นี้มียอดขายสินค้าแฟชั่นและเครื่องหนังตกลงเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี นับตั้งแต่ช่วงวิกฤตการณ์โควิด ซึ่งแบรนด์ Louis Vuitton และ Dior ที่นับเป็นแบรนด์หัวเรือใหญ่ของเครือ LVMH มียอดขายลดลง 5 เปอร์เซ็นต์ทั้งสองแบรนด์ เนื่องจากความต้องการซื้อสินค้าลักชัวรีของลูกค้าสำคัญอย่างชาวจีนลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ภาพรวมของยอดขายบริษัท LVMH ลดลงอย่างเห็นได้ชัด
บริษัท Kering
ตามมาด้วยองค์กร Kering ซึ่งเผยยอดขายในไตรมาสที่ 3 ของปี 2024 ว่าตกลงรวมทั้งเครือ 16 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งตัวเลขดังกล่าวนับเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าที่มีการประเมินสถานการณ์เอาไว้ก่อนหน้านี้ ทั้งนี้สองแบรนด์ใหญ่ของเครืออย่าง Gucci และ Saint Laurent มีตัวเลขยอดขายที่ลดลงมากถึง 25 เปอร์เซ็นต์ และ 12 เปอร์เซ็นต์ ที่นับได้ว่าเป็นความท้าทายทายครั้งยิ่งใหญ่ในช่วงเปลี่ยนผ่านของหลายแบรนด์ในเครืออีกด้วย
แบรนด์ Hermès
ปิดท้ายด้วย Hermès ที่นับได้ว่าเป็นหนึ่งในไม่กี่บริษัทที่ประสบความสำเร็จกับยอดขายในไตรมาสที่ 3 ของปี 2024 ซึ่งมีการเติบโตที่สูงขึ้น 11 เปอร์เซ็นต์ ท่ามกลางการชะลอตัวของการจับจ่ายสินค้าลักชัวรีทั่วโลก
อย่างไรก็ตามมีการตั้งข้อสังเกตว่า สถานการณ์ที่หลายบริษัทในอุตสาหกรรมแฟชั่นลักชัวรีกำลังเผชิญนั้น อาจหมายถึงการจบลงของเทรนด์ 'Revenge Shopping' หลังวิกฤตการณ์โควิด ซึ่งครั้งหนึ่งเคยสร้างกราฟยอดขายที่ดีดตัวสูงสุดให้กับอุตสาหกรรมแฟชั่นทั่วโลกมาแล้ว ต้องติดตามสถานการณ์กันต่อไป
ภาพ : Courtesy of Gucci, Filippo Fior/Gorunway.com และ Daniele Oberrauch /Gorunway.com from Vogue Runway
WATCH