เจาะลึกเส้นทางของ ‘ลิซ่า’ กับ LVMH ที่นำมาสู่ตำแหน่งแบรนด์แอมบาสเดอร์ Louis Vuitton

     ‘LISA AT LOUIS VUITTON!’ กระแสข่าวใหญ่ของวงการแฟชั่นประจำปารีสแฟชั่นวีกฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2024 ช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมานั้นสร้างแรงกระเพื่อมเป็นวงกว้าง และทำให้แฟนคลับรวมถึงผู้สรรทัดกรณีด้านแฟชั่นหลายคนวิเคราะห์ความเป็นไปได้กับการร่วมงานกันของซูเปอร์สตาร์อย่าง ‘ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล’ และแบรนด์แฟชั่นระดับโลกอย่าง Louis Vuitton รวมถึง ย้อนประเด็นเจาะลึกเกี่ยวกับเส้นทางการทำงานและชีวิตส่วนตัวที่สะท้อนภาพอนาคต จนหลายคนเชื่อว่าหลังจากการลาตำแหน่งแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Celine ไปอย่างเงียบๆ ลิซ่าจะต้องรับตำแหน่งสำคัญพร้อมสั่นสะเทือนวงการแฟชั่นทั้งในแง่ของสื่อและธุรกิจอย่างแน่นอน

     ความสัมพันธ์ระหว่างลิซ่าและเครือ LVMH ดำเนินมาอย่างยาวนานและมั่นคง ถึงแม้จะบอกลาตำแหน่งสำคัญกับแบรนด์แฟชั่นเดิมไปแบบเงียบเหงา ทว่าแบรนด์ดังกล่าวก็เป็นส่วนหนึ่งในเครือธุรกิจแฟชั่นอันยิ่งใหญ่ด้วยเช่นกัน ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอคือบุคคลสำคัญที่ทำให้ยอดทางธุรกิจประสบความสำเร็จ และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เครือธุรกิจนี้เติบโตไปพร้อมกระแสโด่งดังของเธอ แน่นอนว่า LVMH ที่ครองอาณาจักรลักชัวรีระดับโลกไม่ได้ผูกโยงความสำเร็จด้านธุรกิจไว้กับซูเปอร์สตาร์เพียงคนเดียว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่าเธอคือตัวละครสำคัญที่เข้ามาเปลี่ยนเกมและสร้างเส้นทางอันสดใสให้กับองค์กรอย่างเป็นประจักษ์

แคมเปญ Bvlgari เปิดตัว ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ / ภาพ: BVLGARI

     มาตรวัดสำคัญนอกจากเรื่องแบรนด์แฟชั่นระดับแถวหน้าแล้วยังมีแบรนด์จิวเวลรีที่ไม่พูดถึงไม่ได้ ภายใต้เครือ LVMH มีแบรนด์นาฬิกาและจิวเวลรีอยู่ไม่น้อย ซึ่งแบรนด์ที่โดดเด่นระดับโลกคงหนีไม่พ้น Bvlgari แบรนด์จิวเวลรีระดับแถวหน้าจากกรุงโรม ลิซ่าร่วมงานกับบูลการีในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์อย่างยาวนานมาตั้งแต่ปี 2020 อีเวนต์สำคัญของแบรนด์ลิซ่าสามารถสร้างกระแสความนิยมให้เกิดขึ้นถล่มทลายทุกครั้ง และเธอกลายเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ธุรกิจของแบรนด์เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสามารถพิสูจน์ได้จากกระแสความนิยมและยอดขายที่มีหลักฐานสนับสนุนชัดเจน

แคมเปญเปิดตัวนาฬิการุ่นพิเศษที่ ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล มีส่วนร่วมในการออกแบบกับ Bvlgari เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน / ภาพ: Bvlgari

     ลิซ่ามีส่วนสำคัญกับการขยายตัวของธุรกิจ LVMH โดยเฉพาะกับแบรนด์บูลการีที่นำเสนอความโดดเด่นของเธอสอดประสานไปกับรากฐานและคุณค่าของแบรนด์อยู่เสมอ ตั้งแต่จิวเวลรีคอลเล็กชั่นไอคอนิก จิวเวลรีชั้นสูง เรื่อยไปจนถึงนาฬิกา และเมื่อกล่าวถึงนาฬิกา สิ่งที่ยืนยันอย่างชัดเจนถึงความสัมพันธ์อันยอดเยี่ยมและสถานะความยิ่งใหญ่ของลิซ่าคือเธอมีส่วนสำคัญในการออกแบบนาฬิกาเรือนพิเศษ เปิดตัวในช่วง LVMH Watch Week ถึง 2 ปีติดต่อกัน (2023 และ 2024) ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ที่เหนือระดับ เพราะเธอไม่เพียงแต่นำเสนอคุณค่าของแบรนด์เท่านั้น ทว่ายังมีส่วนในการสร้างรากฐานความยิ่งใหญ่ผ่านชื่อลิซ่า พร้อมเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างตัวตนของแบรนด์และตัวตนของตัวเองถ่ายทอดออกมาผ่านผลงานอันเป็นประจักษ์

ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล ในลุคชุดสีทองอร่ามโดดเด่นจาก Loewe หลังเวทีคอนเสิร์ต Le Gala des Pièces Jaunes ประจำปี 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส / ภาพ: @lalalalisa_m

     ‘สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง’ อย่างที่ทราบกันดีว่าช่วงหลัง (ก่อนโชว์หลุยส์ วิตตอง) ลิซ่าสร้างปรากฏการณ์สั่นสะเทือนวงการแฟชั่นหลังจากเริ่มสร้างสรรค์ลุคและนำเสนอไอเท็มหลากหลายแบรนด์ภายใต้เครือ LVMH โดยเฉพาะอย่างยิ่งโมเมนต์การขึ้นคอนเสิร์ต Le Gala des Pièces Jaunes ประจำปี 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส รวมถึงการเลือกใช้ไอเท็ม Dior หลากหลายชิ้น นอกจากนี้ยังนำเสนอลุคแฟชั่นที่หลากหลายสะท้อนตัวตนในหลายรูปแบบ ทั้งหมดอยู่ภายใต้ร่มธุรกิจของ LVMH และด้วยเหตุผลนี้ก็นำมาสู่การคาดเดาว่าเธอจะปรากฏตัวในปารีสแฟชั่นในฐานะแขกคนสำคัญของหลุยส์ วิตตอง

Nicolas Ghesquière และ ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล ถ่ายภาพร่วมกันหลังจบโชว์ Louis Vuitton คอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2024 / ภาพ: Louis Vuitton

     โมเมนต์สำคัญก็เกิดขึ้นเมื่อเธอปรากฏตัวพร้อมกับลุคโดดเด่นฝีมือการออกแบบของ Nicolas Ghesquière แต่ความพิเศษคือโดยปกติแล้วเหล่าเซเลบริตี้คนดังหรือแม้แต่แบรนด์แอมบาสเดอร์มักจะมาร่วมชมโชว์ด้วยการสวมเสื้อผ้าคอลเล็กชั่นก่อนหน้าแบบโททัลลุค แต่สำหรับลิซ่าไม่ใช่แบบนั้น เพราะเธอปรากฏโฉมอย่างโดดเด่นด้วยลุคที่ผสมผสานระหว่างไอเท็มจากหลากหลายคอลเล็กชั่น ทำให้เกิดการสร้างบรรทัดฐานใหม่ที่สะท้อนความพิเศษของลิซ่าที่มีสถานะเป็นแขกคนสำคัญแม้จะยังถูกแต่งตั้งเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ก็ตาม จากเหตุการณ์วันนั้นทำให้คนส่วนใหญ่เริ่มมั่นใจว่าเธอจะต้องรับตำแหน่งสำคัญของหลุยส์ วิตตองอย่างแน่นอน

Frédéric Arnault และ ลิซ่า-ลลิษา มโนบาลในงานอีเวนต์ Tag Heuer x KITH ณ เมืองไมอามี รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา / ภาพ: Tag Heuer

     อีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้คือความสัมพันธ์ส่วนตัวกับบุคคลสำคัญในเครือ LVMH นั่นก็คือ Frédéric Arnault ทายาทของ Bernard Arnault เรื่องราวดังกล่าวถูกพูดถึงอย่างหนาหู จนกระทั่งมีความชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ทั้งเรื่องราวอัปเดตการใช้ชีวิตเรื่อยไปจนถึงการปรากฏตัวร่วมกันในงานสำคัญ และที่ได้รับความสนใจมากที่สุดคืออีเวนต์ Tag Heuer x KITH ในขณะที่ฝ่ายชายดำรงตำแหน่ง LVMH Watches และลิซ่าไม่ได้มีความเกี่ยวข้องเชิงตำแหน่งกับแบรนด์นาฬิกาดังกล่าว เป็นการตอกย้ำทั้งเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเฟรเดริก และความสัมพันธ์กับเครือ LVMH ที่ยอดเยี่ยม

แคมเปญเปิดตัว ลิซ่า-ลลิษา มโนาบาล ขึ้นแท่นเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ Louis Vuitton / ภาพ: Louis Vuitton

     จากทุกกระแสที่จับจ้องถึงความสัมพันธ์ของลิซ่ากับ LVMH และการคาดการณ์เกี่ยวกับตำแหน่งแบรนด์แอมบาสเดอร์ ณ วันที่ 23 กรกฎาคม 2024 ทุกอย่างก็เกิดขึ้น ลิซ่าได้รับการแต่งตั้งเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของหลุยส์ วิตตองตามที่ทุกคนคาดการณ์ โดยแบรนด์ระบุว่าลิซ่าสามารถสร้างมาตรฐานด้านดนตรี สไตล์ วัฒนธรรม และกำลังจะต่อยอดถึงผลงานผ่านหน้าจอ (ผลงาน The White Lotus ที่กำลังถ่ายทำอยู่ในปัจจุบัน) สะท้อนความยอดเยี่ยมในการอุทิศตนเพื่อความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นดั่งคุณค่าหลักของหลุยส์ วิตตอง นอกจากนี้ยังกล่าวถึงการร่วมชมโชว์ครั้งสำคัญที่สร้างสั่นสะเทือนไปทั่วโลกเมื่อเดือนมีนาคม พร้อมเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปียุคของนิโกลาส์ และแบรนด์ยังระบุด้วยว่าลิซ่าจะเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ผู้สรรสร้างโลกดนตรีและวัฒนธรรมป๊อปในยุคปัจจุบัน นี่คือความยิ่งใหญ่ของลิซ่าที่เชื่อมสัมพันธ์กับเครือธุรกิจแฟชั่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และจากเรื่องราวทั้งหมดสะท้อนได้อย่างชัดเจนว่าลิซ่าเสริมสร้างประสบการณ์ เติบโต และก้าวสู่ระดับยอดพีระมิดด้วยความเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง