FASHION
เผยโฉมคอลเล็กชั่นใหม่ 'THE MEANING WELL' แบรนด์เสื้อผ้าที่มุ่งสู่ความยั่งยืนเล่าเรื่องราวคอลเล็กชั่นนี้ไปพร้อมกับ 'เคธี่ รื่นสำราญ' เจ้าของแบรนด์ผู้เติมเต็มความงามของหญิงสาวบนพื้นฐานของความยั่งยืน |
"เคธี่ รื่นสำราญ" หรือที่ใครๆ รู้จักเธอในนาม Katieismonster สาวแฟชั่นด้วยลุคที่โดดเด่นและใช้ชีวิตส่วนใหญ่ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ วันนี้เธอมาพร้อมกับแบรนด์ THE MEANING WELL ที่เธอสร้างสรรค์ขึ้นกับมืออย่างมุ่งมั่น แน่นอนว่ามันน่าสนใจเป็นอย่างมากและเพียงแค่ได้เห็นลุคบุ๊กในคอลเล็กชั่นที่ 3 ที่มองแวบเดียวก็รู้ได้ว่านี่คือชุดจากแบรนด์ THE MEANING WELL ของเธอ
เคธี่ รื่นสำราญ เจ้าของแบรนด์ THE MEANING WELL
THE MEANING WELL ได้รับแรงบันดาลใจจาก Global Reset อันเกิดจากสัจธรรมความเป็นไปของมนุษย์ สิ่งที่เป็น และสิ่งที่เธอมีความตั้งใจจะเป็นเพื่อออกแบบมาสำหรับทุกคน โดยในแต่ละคอลเล็กชั่นสร้างสรรค์จากแรงบันดาลใจที่สดใหม่ และยั่งยืนเพื่อสอดคล้องกับชีวิต โดยมีแนวคิดที่ว่า Less is more หรือ น้อยแต่มาก ที่ยังคงความเรียบหรู สะอาดบริสุทธิ์ ปราศจากความสิ้นเปลือง อีกทั้งไม่ตามกระแสแต่ตามหาผืนผ้าที่ถูกหลงลืมเพื่อนำมาตีความใหม่ด้วยการทำงานร่วมกับช่างฝีมือในอังกฤษผู้สร้างสรรค์ชิ้นงานที่จำนวนน้อยชิ้นแต่เต็มไปด้วยเรื่องราวและเต็มเปี่ยมไปด้วยความหมาย
WATCH
สิ่งที่เคธี่อยากบอกคือ เราอยากทำงานกับบุคลากรที่เก่งแต่ขาดโอกาส รวมถึงให้โอกาสตัวเองได้ลองทำในสิ่งที่สัญชาตญาณเราเชื่อ อีกทั้งความรักที่เรามีต่อ Fashion Industry รวมถึงเคธี่ยังซื่อสัตย์ต่อการออกแบบ และยังคงมุ่งหวังที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนสู่การเป็นแบรนด์แฟชั่นที่ยั่งยืน ด้วยการใช้วัสดุที่สร้างสรรค์และนำกลับมาดีไซน์ใหม่ อย่างวัสดุตั้งแต่กระดุมที่เราไม่ใช้พลาสติกเลย แต่เราเลือกใช้กระดุมที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ หรือแม้แต่ผ้า Taffeta ที่ทำจากขวดพลาสติกใช้แล้วที่เก็บได้จากทะเล ผ้าเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ที่ไม่ใช่ของเหลือใช้แต่เป็นผ้าเก่าเก็บจากโรงงานเก่าแก่ในอังกฤษ ไปจนถึงบางโรงงานผลิตผ้าให้กับแบรนด์ใหญ่ระดับโลก และความโดดเด่นของ THE MEANING WELL จะต้องเป็นเสื้อผ้าที่ไม่มีซีซั่น หยิบมาใส่ตอนไหนก็ไม่น่าเบื่อและไร้กาลเวลา คำว่า Making Less but Meaning More น่าจะเป็นคำจำกัดความที่ทำให้เราแตกต่าง
คอลเล็กชั่นที่ 3 เคธี่ได้แรงบันดาลใจมาจากบทกวีในหนังสือ Tender Buttons ปี 1914 ของเกอร์ทรูด สไตน์ นักกวีชาวอเมริกัน เชื้อสายเยอรมัน-ยิว เล่าถึงความงามของช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความหมาย และพลังของความสัมพันธ์ที่ถูกขับเคลื่อนด้วยความรักที่ยั่งยืน คอลเล็กชั่นนี้จึงยังมองหาความงามของผืนผ้าเก่าที่ถูกลืมนำกลับมาสร้างสรรค์ใหม่จนเกิดเป็นความงามที่คาดไม่ถึงอีกครั้ง ด้วยซิลูเอตที่แปลกตา ผสานผ้าหลากหลายชนิด อาทิ ผ้าฝ้ายด้วยเทคนิคเคลือบแว็กซ์ ผ้าบุนวม ผ้าแจ็กการ์ด ผ้ากำมะหยี่ ไปจนถึงผ้าไหมอยู่ทรง ด้วยสีที่ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติอย่าง ฟ้าคราม บานเย็น เหลืองมัสตาร์ด เขียวนกเป็ดน้ำ ทับทิม น้ำตาลสนิม รวมไปถึงแดงราสเบอร์รี่ และเหลืองมะนาว สร้างสรรค์ออกมาในรูปแบบของเชิ้ตทรงโอเวอร์ไซซ์ไร้กาลเวลา สม็อกเดรสยาว เสื้อคลุมทรงเคปด้วยเทคนิคพิเศษ ที่เธอปลดเปลื้องการออกแบบที่นอกกรอบแปรเปลี่ยนเป็นซิลูเอตที่สมดุลกับสรีระของหญิงสาวทุกรูปร่าง เติมเต็มความงามของหญิงสาวบนพื้นฐานของความยั่งยืน เฉกเช่น “ความสัมพันธ์ที่สุดแสนธรรมดาถูกกลบกลืนด้วยความเป็นอิสตรีนำมาซึ่งความสมบูรณ์แบบ” ดั่งบทกวีของเกอร์ทรูด สไตน์ ที่เธอได้เล่าให้เราฟัง พบกับการสร้างสรรค์ของ THE MEANING WELL ได้ที่ www.matchesfashion.com / www.libertylondon.com และเร็วๆ นี้กับ www.doverstreetmarket.com
WATCH