8 อาหารที่มีธาตุเหล็ก บำรุงเลือด ป้องกันภาวะโลหิตจาง และลดอาการอ่อนเพลีย

ธาตุเหล็กเป็นกลุ่มแร่ธาตุชนิดละลายน้ำ มีความสำคัญในด้านเสริมสร้างฮีโมโกลบิน ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของเม็ดเลือดแดง ทำหน้าที่ลำเลียงออกซิเจนไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย หากร่างกายขาดธาตุเหล็กอาจส่งผลให้ความเข้มข้นของเลือดลดลงและเสี่ยงเกิดภาวะเลือดจาง (Anemia) ทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย วิงเวียนศีรษะได้ ฉะนั้นควรหมั่นเสริมธาตุเหล็กด้วย 8 สารอาหารที่หารับประทานได้ง่ายและสามารถรับประทานได้ทุกวันเป็นประจำ

1 / 8

เนื้อสัตว์และเครื่องในสัตว์

ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเป็ด ไก่ หมู วัว หรือเครื่องในสัตว์ต่างๆ ล้วนมีธาตุเหล็กที่อยู่ในรูปของสารประกอบฮีม (Heme Iron) ที่ร่างกายสามารถดูดซึมนำสารอาหารไปใช้งานได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะกระจายไปอยู่ในไขกระดูก และถูกนำไปสร้างเม็ดเลือดแดงที่ไหลเวียนไปทั่วร่างกาย นำพาออกซิเจนในเลือดจากปอดไปเลี้ยงเซลล์ต่างๆ

2 / 8

ไข่แดง

เป็นแหล่งธรรมชาติของธาตุเหล็กสูงที่ร่างกายสามารถดูดซึมนำไปใช้ได้ดี ช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง เพราะในไข่แดง 100 กรัม จะมีธาตุเหล็กถึง 150 มิลลิกรัม และธาตุเหล็กจากสัตว์จะดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายกว่าธาตุเหล็กที่มาจากพืช ใครที่มีภาวะโลหิตจาง อ่อนล้า หน้ามืดง่าย ควรหมั่นกินไข่แดงให้เพียงพอในแต่ละวัน

3 / 8

ผักใบเขียว

ในผักใบเขียวหลายๆ ชนิด มีธาตุเหล็กสูงเช่นกัน เช่น ปวยเล้ง บร็อกโคลี ผักคะน้า ผักบุ้ง หน่อไม้ฝรั่ง แนะนำให้รับประทานคู่กับผลไม้ที่ช่วยดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีด้วย เช่น ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงอย่าง ฝรั่ง ลิ้นจี่ เงาะ ส้ม สตรอเบอร์รี่ มะละกอ สับปะรด เป็นต้น

4 / 8

ถั่ว

ถั่วต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นถั่วเขียว ถั่วดำ ถั่วแดง ถั่วขาว ถั่วลิสง ถั่วเหลือง ถั่วแระญี่ปุ่น ถั่วลันเตา อัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ อาหารธัญพืชกลุ่มนี้ก็เป็นแหล่งของธาตุเหล็กสูงเช่นกัน ฉะนั้นใครที่เป็นสายวีแกนหรือมังสวิรัติก็สามารถหันมากินอาหารเหล่านี้แทนได้ เพราะเป็นธาตุเหล็กที่ร่างกายดูดซึมได้ง่ายและดูดซึมได้ดี

5 / 8

มันฝรั่ง

รู้หรือไม่ว่ามันฝรั่งช่วยบำรุงหลอดเลือดให้แข็งแรง ลดความดันโลหิต ลดคอเลสเตอรอลและความดันโลหิตสูง ป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว ป้องกันและรักษาโรคโลหิตจาง ด้วยธาตุเหล็กและวิตามินซีที่มีอยู่ในหัวมันฝรั่ง ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ง่าย ธาตุเหล็กจะช่วยให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดแดงได้ดีขึ้นนั่นเอง

6 / 8

ธัญพืช

ภายในธัญพืชมีปริมาณธาตุเหล็กสูง แต่อาจจะดูดซึมได้ไม่ดีเท่ากับเนื้อสัตว์ ฉะนั้นแนะนำให้รับประทานกับวิตามินซี ไม่ว่าจะเป็นในผักหรือผลไม้ เพราะจะช่วยให้การดูดซึมมีประสิทธิภาพมากขึ้น และธัญพืชส่วนใหญ่ยังมีวิตามินบี รวมไปถึงวิตามินบี 12 อีกด้วย ซึ่งเป็นวิตามินที่มีความสำคัญต่อผู้ที่มีภาวะโลหิตจางเช่นกัน

7 / 8

เห็ด

เห็ดเป็นแหล่งของธาตุเหล็กที่ดี เพราะเห็ดอุดมไปด้วยไรโบฟลาวิน (riboflavin), ไนอะซิน (niacin), ธาตุเหล็ก และเบต้ากลูแคน ซึ่งเป็นสารที่ช่วยทำให้เซลล์ภูมิคุ้มกันทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เห็ดหนึ่งชิ้นอาจมีธาตุเหล็กสูงถึง 8 ไมโครกรัม ขึ้นอยู่กับชนิดของเห็ดที่เราเลือกรับประทาน

8 / 8

น้ำผึ้ง

น้ำผึ้งนั้นมีปริมาณของธาตุเหล็กพอสมควร น้ำผึ้ง 100 กรัม มีปริมาณของธาตุเหล็ก 0.42 กรัม นอกจากนี้ยังมีแมกนีเซียมและทองแดง ซึ่งช่วยเพิ่มปริมาณของฮีโมโกลบินในเลือด ทำให้การทำงานของระบบเลือดดีขึ้น แถมยังเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่มีประโยชน์มากมายต่อผิวพรรณของเรา

ภาพ : @sofiaboman

TAGS : #IronFood