SKINCARE

ชวนรู้! สาเหตุของการเกิดสิวที่หน้าผาก พร้อมแนะนำวิธีรักษาอย่างถูกต้อง

จัดการสิวที่หน้าผากให้หายขาดได้ง่ายๆ ด้วยวิธีเหล่านี้

     สิวที่หน้าผากเป็นปัญหาปราบเซียนที่หลายคนต้องเจอ เพราะไม่เพียงแค่เป็นปัญหาสิวเรื้อรังที่ขึ้นซ้ำซากและรักษายากเท่านั้น แต่หลังรักษาหายแล้วยังทิ้งรอยแผลไว้อีกด้วย โดยส่วนใหญ่มักจะมาในรูปแบบของสิวผดและสิวอุดตันที่ไม่มีหัว ซึ่งสิวประเภทนี้เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ วันนี้โว้กบิวตี้จึงถือโอกาสพาทุกคนมาหาสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวที่หน้าผาก พร้อมแนะนำวิธีรักษาอย่างถูกต้องให้หายขาดและไม่กลับมาเป็นอีก

 

 

สาเหตุของการเกิดสิวที่หน้าผาก

  • การอุดตันของสิ่งสกปรกในรูขุมขน: หนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดสิวที่หน้าผากมาจากการอุดตันของสิ่งสกปรกในรูขุมขน ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น ควัน เหงื่อ ความมัน รวมถึงคราบเมกอัพและสกินแคร์ที่เกิดจากการล้างหน้าไม่สะอาด ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่ทำให้รูขุมขนอุดตันและเกิดเป็นสิวที่หน้าผากตามมา
  • ต่อมไขมันที่หน้าผาก: ปัญหาสิวที่หน้าผากมักพบมาในคนผิวมันและผิวผสมที่มีผิวมันช่วง T-zone หรือผิวบริเวณหน้าผาก จมูก และคาง ซึ่งเป็นส่วนที่มีต่อมไขมันใต้ผิวหนังอยู่ค่อนข้างเยอะ จึงทำให้ผลิตน้ำมันส่วนเกินออกมามากกว่าส่วนอื่นๆ บนใบหน้า ทำให้เสี่ยงต่อการอุดตันในรูขุมขนและส่งผลให้เกิดปัญหาสิวอุดตันที่หน้าผากได้
  • แพ้ผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผม: หากพบว่ามีสิวขึ้นที่หน้าผากและบริเวณกรอบหน้า อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าคุณกำลังมีอาการแพ้ผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผม ไม่ว่าจะเป็น แชมพูสระผม ครีมนวด ครีมหมักผม ทรีตเมนต์ เและเซรั่มบำรุงผมต่างๆ แนะนำให้หยุดใช้แล้วเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมสูตรอ่อนโยนที่ปราศจากสารก่อการระคายเคือง 
  • สิ่งสกปรกบนเส้นผม: หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า “ผม” ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวที่หน้าผาก โดยเฉพาะสาวๆ ที่ชอบปล่อยผม หรือตัดผมหน้าม้า ซึ่งสิ่งสกปรกและความมันจากเส้นผมที่มาสัมผัสใบหน้าอาจทำให้เกิดการอุดตันในรูขุมขนและเกิดสิวตามมาได้ เพราะฉะนั้นหากไม่อยากเป็นสิวต้องหมั่นดูแลเส้นผมและหนังศีรษะให้สะอาดอยู่เสมอ
  • อากาศร้อน: นอกจากอากาศร้อนจะทำให้หน้ามันเยิ้มแล้ว ยังทำให้ต่อมเหงื่อขับเหงื่อออกมาเยอะกว่าปกติ เมื่อระบายเหงื่อไม่ทันจึงเกิดการอุดตันจนกลายเป็นสิวผด โดยมีลักษณะเป็นผื่นเล็กๆ ขึ้นบริเวณหน้าผาก

 

วิธีรักษาสิวที่หน้าผาก

1. เช็ดหน้าด้วยเคลนซิ่ง

     ไม่ว่าจะออกไปข้างนอกหรืออยู่ในบ้าน ผิวหน้าของเราก็อาจจะเผชิญกับฝุ่น ควัน ความมัน และสิ่งสกปรกได้โดยไม่รู้ตัว ซึ่งหากทำความสะอาดผิวหน้าได้ไม่ดีพอก็อาจจะนำมาสู่ปัญหาสิวที่หน้าผากได้ เพราะฉะนั้นก่อนล้างหน้าทุกครั้ง แนะนำให้เช็ดทำความสะอาดผิวหน้าด้วยเคลนซิ่งหรือเมกอัพรีมูฟเวอร์ เพื่อขจัดสิ่งสกปรกตกค้างให้สะอาดหมดจด

 



WATCH



Sebium H2O จาก Bioderma (ราคา 1,050 บาท)

 

2. ล้างหน้าอย่างถูกวิธี

     สำหรับคนที่มีปัญหาสิวที่หน้าผากแนะนำให้ใช้วิธีล้างหน้าลดสิวแบบ Double Cleansing โดยเป็นการล้างหน้า 2 สเต็ป เริ่มต้นด้วยการล้างหน้าด้วยเคลนซิ่งออยล์หรือเคลนซิ่งบาล์มบนผิวหน้าที่แห้ง เพื่อทำความสะอาดสิ่งสกปรกตกค้าง เมกอัพกันน้ำ รวมถึงสกินแคร์ที่ล้างออกยาก จากนั้นจึงล้างหน้าอีกครั้งด้วยโฟมล้างหน้า หรือเจลล้างหน้าบนผิวที่เปียก เพียงเท่านี้หน้าก็ใส ไร้ปัญหาสิวกวนใจ

 

Effaclar Micro-Peeling Purifying Gel จาก La Roche Posay (ราคา 1,200 บาท)

 

3. เลือกใช้สกินแคร์ที่ช่วยลดการอุดตัน

     อย่างที่ทราบกันดีว่าคนผิวมันและผิวผสมมีโอกาสเป็นสิวได้มากกว่าผิวประเภทอื่นๆ เพราะฉะนั้นควรเลือกใช้สกินแคร์ที่ไม่มีส่วนผสมของออยล์ที่อาจเสี่ยงต่อการอุดตัน และใช้โทนเนอร์สูตรคุมมันเพื่อลดความมันส่วนเกินบนผิวหน้า ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดสิว สำหรับผิวประเภทอื่นๆ ที่มีปัญหาสิวที่หน้าผาก แนะนำให้เลือกใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของสารผลัดเซลล์ผิว เช่น  AHA, BHA, PHA และ LHA เป็นต้น เพื่อทำความสะอาดสิ่งสกปรกตกค้างในรูขุมขนที่จะนำมาสู่การเกิดสิวอุดตัน

 

AHA/BHA Clarifying Treatment Toner จาก COSRX (ราคา 590 บาท)

 

4. รักษาสิวด้วยยาแต้มสิว

     หากใครต้องการรักษาสิวที่หน้าผากให้หายไวขึ้น แนะนำให้ใช้ยาแต้มสิวร่วมด้วย โดยยาแต้มสิวที่นิยมใช้รักษาสิวที่หน้าผาก ได้แก่ Benzoyl Peroxide, Retinoids, Salicylic Acid และ Topical Antibiotics เป็นต้น ซึ่งก่อนซื้อควรปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์ทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยและเห็นผล

 

Acne Clear Potion จาก Oxe Cure (ราคา 185 บาท)

     สิ่งสำคัญในการรักษาสิวที่หน้าผาก เริ่มต้นด้วยการรักษาความสะอาดของผิวหน้า และเลือกให้สกินแคร์ที่เหมาะกับสภาพผิว ควบคู่กับการใช้ยาแต้มสิว หากทำตามทุกขั้นตอนอย่างสม่ำเสมอ รับรองว่าจะช่วยรักษาสิวที่หน้าผากให้หายขาดได้อย่างแน่นอน

 

ภาพ : Courtesy of brand / Freepik.com

WATCH