SKINCARE
สิวอุดตันที่แก้มเกิดจากอะไร...เผยสาเหตุพร้อมวิธีดูแลเพื่อบอกลาปัญหาสิวรวมข้อมูลที่เกี่ยวกับปัญหาสิวที่แก้มอันเป็นหนึ่งในปัญหาสิวที่สร้างความหนักใจให้ใครหลายคนไม่น้อย |
‘สิวที่แก้ม’ เป็นหนึ่งในปัญหาสิวที่เกิดขึ้นได้ง่ายและมักเป็นปัญหาสิวซ้ำซากที่เมื่อหายแล้วก็กลับมาเป็นใหม่ สามารถเป็นได้ทั้งสิวอุดตันและสิวอักเสบ โดยสาเหตุของการเกิดสิวที่แก้มนั้นก็สามารถเกิดขึ้นได้หลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นความมันบนผิวหนัง การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน รวมไปถึงการใช้ชีวิตประจำวันที่ต้องเผชิญกับมลภาวะและสภาพแวดล้อมที่กระตุ้นให้เกิดสิว สำหรับใครที่กำลังมีปัญหาเรื่องสิวที่แก้ม วันนี้โว้กบิวตี้ได้รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวกับสิวบริเวณแก้มมาฝากกัน ทั้งสาเหตุและวิธีการรักษาที่จะช่วยให้จัดการปัญหาสิวได้อยู่หมัด
สิวที่แก้มเกิดจากอะไร
- ฮอร์โมน
สิวที่แก้มสามารถเกิดได้จากฮอร์โมน เมื่อปริมาณฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) เพิ่มมากขึ้นจะไปกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมัน ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดสิว โดยส่วนใหญ่แล้วสิวฮอร์โมนจะเกิดในช่วงวัยรุ่นทั้งเพศชายและเพศหญิง รวมถึงเพศหญิงในช่วงที่กำลังมีประจำเดือนด้วย
- ความมันบนผิวหนัง
ภายใต้ผิวหนังจะมีต่อมที่ใช้สำหรับการผลิตน้ำมันอยู่ โดยน้ำมันนั้นก็มีความจำเป็นต่อผิวหน้าคือเป็นตัวช่วยควบคุมความสมดุลของใบหน้า หากไม่มีน้ำมันก็จะทำให้ผิวหนังแห้งตึงและนำมาสู่สาเหตุของผิวแห้งแตก ผิวหน้าลอก แต่ถ้าหากใบหน้ามีน้ำมันมากเกินไปก็จะเป็นตัวการในการกระตุ้นให้เกิดสิวอุดตันนั่นเอง
- ผิวสัมผัสกับสิ่งสกปรก
นอกจากฮอร์โมนและร่างกายมีการผลิตน้ำมันที่มากเกินไปแล้ว อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่จะเป็นตัวการทำให้เกิดสิวได้นั่นคือสิ่งสกปรก ไม่ว่าจะเป็นผิวหน้าได้รับสิ่งสกปรกจากมลภาวะ สภาพอากาศ รวมถึงการใช้มือสัมผัสกับผิวหน้าก่อนล้างมือ นอกจากนี้ยังสามารถเกิดได้จากการที่ล้างหน้าไม่สะอาด เครื่องนอนเต็มไปด้วยฝุ่น เป็นต้น
- การใช้ชีวิตประจำวัน
การใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การนอน การรับประทานอาหารล้วนเป็นพฤติกรรมสำคัญที่ส่งผลต่อการเกิดสิวได้ไม่น้อย เช่น การพักผ่อนไม่เพียงพอ รับประทานของมัน ของทอดหรืออาหารที่มีไขมากเกินไป ตัวการเหล่านี้ส่งผลให้เกิดสิวได้ในระยะยาวและเรื้อรังได้
ประเภทของสิวที่แก้ม
สิวที่เกิดขึ้นบนใบหน้า มีหลายชนิดด้วยกัน แต่หลักๆ จะถูกแบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้
- สิวอักเสบ
สิวอักเสบคือสิวที่เกิดจากการติดเชื้อ มีเลือดและมีหนองซึ่งทำให้มีอาการเจ็บปวด ซึ่งสิวอักเสบเป็นสิวที่ไม่ควรไปสัมผัสหรือไปบีบ เพราะอาจยิ่งทำให้ติดเชื้อรุนแรงและทำให้ทิ้งรอยสิวเอาไว้ ควรปล่อยให้หายตามธรรมชาติโดยสามารถใช้วิธีการรักษาความสะอาดให้มากขึ้น ใช้เจลแต้มสิว และใช้สกินแคร์สูตรสำหรับผิวเป็นสิวก็จะช่วยให้สิวหายได้ไวขึ้นและไม่ทิ้งร่องรอยเอาไว้กวนใจ
- สิวไม่อักเสบ หรือสิวอุดตัน
สิวไม่อักเสบ คือ จะตรงข้ามกับสิวที่อักเสบ จะไม่มีอาการเจ็บปวด เพราะเป็นสิวที่เกิดจากการอุดตันของรูขุมขน โดยประกอบไปด้วยสิวที่มีหัวและสิวที่ไม่มีหัว ซึ่งสิวประเภทนี้มักสร้างปัญหาให้ผิวไม่เรียบเนียน ในกรณีที่มีสิวอุดตันหัวปิดเยอะๆ แนะนำให้เข้ารับบริการกดสิว จะช่วยกำจัดสิวได้อย่างหมดจดยิ่งขึ้น
WATCH
วิธีการรักษาสิวที่แก้ม
- เลือกใช้สกินแคร์สูตรลดสิว
การเลือกใช้สกินแคร์สูตรลดสิวเป็นวิธีที่สามารถทำเองได้ง่ายที่สุด โดยแนะนำให้เลือกใช้ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า ทั้งเคลนซิ่ง เคลนเซอร์ เซรั่ม มอยส์เจอไรเซอร์ ควรเลือกเป็นสูตรที่อ่อนโยน ปราศจากสารอันตรายและมีคุณสมบัติในการช่วยลดปัญหาสิวได้ดี
- ใช้ยาหรือเจลแต้มสิว
หากการใช้สกินแคร์ยังไม่สามารถช่วยรักษาปัญหาสิวได้ แนะนำให้ใช้ยา Benzoyl peroxide ซึ่งจะเป็นยาสำหรับการรักษาสิวโดยเฉพาะ ตัวนี้มีฤทธิ์ทำให้สิวแห้งได้ไว ลดการอักเสบของสิวได้ดี หรือจะเป็น Retinoids ตัวนี้เป็นยากลุ่มอนุพันธ์กรดวิตามินเอที่มีคุณสมบัติในการช่วยลดการอักเสบของผิวหนัง ลดการเกิดเชื้อบนผิว ซึ่งเป็นกลุ่มยาที่ต้องมีการปรึกษาแพทย์ก่อนใช้งาน
- กดสิว
สำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวเรื้อรัง โดยเฉพาะสิวประเภทไม่อักเสบและแบบหัวปิด สิวประเภทนี้ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้จากการใช้สกินแคร์ เพราะเป็นสิวที่อยู่ในชั้นผิวหนัง ดังนั้นวิธีการรักษาสิวประเภทนี้จึงควรใช้วิธีการกดสิวที่จะช่วยเปิดหัวสิวและช่วยลดการอุดตันให้ใบหน้าดูเรียบเนียนขึ้น
- เลเซอร์
สำหรับใครที่มีปัญหาสิวรุนแรง และอยากรักษาสิวให้หายขาดโดยเร็ว แนะนำวิธีการเลเซอร์สิวซึ่งการเลเซอร์จะเป็นวิธีการยิงคลื่นแสงที่จะช่วยลดการสะสมของเชื้อสิว ช่วยลดโอกาสในการเกิดสิวซ้ำซาก และช่วยลดวงจรการเกิดสิว นอกจากนี้ยังสามารถแก้ปัญหารอยสิวบนใบหน้า ให้ผิวดูเรียบเนียน ไม่ทิ้งร่องรอยกวนใจอีกด้วย
การป้องกันสิวที่แก้ม
- รักษาผิวหน้าให้สะอาด
ควรรักษาความสะอาดบนใบหน้าเป็นประจำโดยเฉพาะสาวๆ ที่แต่งหน้า ควรใช้เคลนซิ่งเช็ดเครื่องสำอางเพื่อทำความสะอาดผิวหน้าก่อนการล้างหน้า นอกจากนี้หลังล้างหน้าเสร็จแนะนำให้ใช้โทนเนอร์เช็ดซ้ำอีกรอบ เพื่อการคลีนหน้าที่สะอาดหมดจดยิ่งขึ้น
- ทำความสะอาดเครื่องนอนเป็นประจำ
เครื่องนอน ทั้งหมอน ผ้าห่ม ผ้าปู เป็นแหล่งสะสมฝุ่น หากมีปัญหาสิวแนะนำให้หมั่นทำความสะอาดเครื่องนอนเป็นประจำเพื่อลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว
- ล้างแปรงแต่งหน้าบ่อยๆ
แปรงแต่งหน้าถือเป็นไอเท็มที่ขาดไม่ได้ในการแต่งหน้าแต่ละครั้ง ดังนั้นเมื่อเราใช้แปรงแต่งหน้าบ่อยๆ เป็นประจำก็จะทำให้แปรงมีโอกาสสะสมพวกไรฝุ่นที่เกิดจากเครื่องสำอางได้ไม่น้อย ดังนั้นจึงควรทำความสะอาดแปรงแต่งหน้าเป็นประจำ เพื่อที่จะช่วยลดเชื้อโรคที่อาจทำให้เกิดสิวได้
- ทำความสะอาดโทรศัพท์เป็นประจำ
โทรศัพท์เป็นอุปกรณ์ที่เราใช้เป็นประจำดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจหากจะเรียกโทรศัพท์มือถือเครื่องโปรดของเรานั้นว่าเป็นแหล่งเชื้อโรคชั้นดี เพราะมือเราที่สัมผัสกับโทรศัพท์และมาสัมผัสใบหน้าก็ทำให้สิ่งสกปรกมาเกาะที่ผิวหน้าได้ ดังนั้นควรเช็ดทำความสะอาดที่หน้าจอ รวมถึงบริเวณอื่นๆ ตามเครื่องและเคส เพื่อลดการสะสมเชื้อโรคจากโทรศัพท์
ภาพ : Canva
WATCH