MAKE UP

Exclusive | สิ่งที่มาสเตอร์ Jung Saem Mool อยากบอกกับคนรักเมกอัปและช่างแต่งหน้าในไทย

จากนักศึกษาด้านวิจิตรศิลป์สู่ช่างแต่งหน้าและเจ้าของแบรนด์ที่ผ่านประสบการณ์มาแล้วกว่า 33 ปี เธออยากฝากข้อความถึงช่างแต่งหน้าในเมืองไทยและคนรักเมกอัปทั้งหลาย

ใบหน้าขาวผ่อง ฟินิชฉ่ำวาวคือภาพจำของเมกอัป K-Beauty ที่เข้ามาในไทยช่วงแรกๆ จนเมื่อแบรนด์เมกอัปทั้งหลายเริ่มปรับตัวให้เข้ากับคนไทยที่กลายเป็นอีกหนึ่งตลาดหลักของเมกอัปเกาหลี เฉดสี แพ็กเกจจิ้งและจุดขายจึงปรับให้คนไทยใช้งานได้จริงแบบไม่ใช่หน้าหนึ่งสีคออีกหนึ่งสี หรือฟินิชโกลว์จนไหลเยิ้มมาถึงคอ ซึ่งหนึ่งแบรนด์เมกอัปที่เปลี่ยนภาพจำเดิมๆ ของ K- Beauty และขายความมืออาชีพแบบเข้าใจง่ายคือ จองแซมมุล (JUNG SAEM MOOL) ที่โดดเด่นด้วยการให้เทคนิคการแต่งหน้าและการออกแบบเครื่องสำอางที่ทำให้ผู้ใช้ได้รู้สึกถึงความมืออาชีพแม้ไม่ใช่ช่างแต่งหน้าก็ตาม 

ล่วงเลยมาเกือบ 10 ปีนับตั้งแต่เปิดตัว ปี 2024 นี้แบรนด์ JUNG SAEM MOOL เปิดตัวแคมเปญใหม่ที่พัฒนามาจากเรื่องราวของตัวมาสเตอร์ Jung Saem Mool เองผสมผสานกับเป้าหมายหลักของแบรนด์ที่อยากให้ทุกคนมองเห็นคุณค่าและรักความงามในตัวของเราเอง

“Beauty Starts From You, Just Believe.” 

ปรัชญาของแบรนด์ JUNG SAEM MOOL 

มาสเตอร์จองแซมมุลเดินทางมาเมืองไทยและพูดคุยกับโว้กบิวตี้เนื่องในโอกาสการเปิดตัวแคมเปญ “Youtiful” พร้อมเผยเรื่องราวชีวิตบางส่วนที่จะกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับชาวโว้กบิวตี้ทุกคน

“ความงามทำให้เกิดพลังงานดี”

เวลาเดินผ่านใครสักคนสิ่งแรกที่เห็นคือภาพลักษณ์ภายนอก แต่มากไปกว่านั้นคือความรู้สึกที่เวลาเห็นใครสักคนเราจะสัมผัสได้ถึงพลังงานของคนๆ นั้นเช่นเดียวกัน มาสเตอร์จองมองว่าความงามทำให้เกิดพลังงานดีเวลาที่เรามีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนในสังคม แต่แน่นอนว่าจะเกิดพลังงานดีจากความงามได้ต้องมีความเชื่อในความงามของเราก่อนเสมอ

 

“ใครๆ ก็เคยมียุคมืด”

ระหว่างการเติบโตเราอาจเคยผ่านความรู้สึกแย่กับตัวเองมานักต่อนัก มาสเตอร์จองเองก็เคยเจอเช่นกัน ทั้งความรู้สึกว่าตัวเองไม่สวย ไม่เก่ง ไม่มั่นใจ รวมถึงความผิดหวังที่ทำให้มีทุกข์อยู่ตลอด วันหนึ่งหลังจากเลิกเรียนเธอกลับมาบ้านและหยิบสมุดโน้ตขึ้นมาเขียนความรู้สึกที่เธอมี “ทำไมผิวไม่สวย” “ทำไมไม่มีความสุข” “ทำไมถึงต้องเจอเรื่องราวแบบนี้” ทุกคำถามและความรู้สึกที่ปลดปล่อยผ่านปลายปากกา ทำให้เธอเห็นตัวตนที่ไม่มีความมั่นใจและไม่มีความสุข จึงใช้วิธีแก้ไขเป็นการเขียนตอบคำถามความรู้สึกเหล่านั้นไปที่สมุดโน้ตเล่มเดิม จนเธอเริ่มเข้าใจตัวเองมากขึ้น คลายปมความรู้สึกทีละน้อย “สนิท” กับตัวเองไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นคนที่มั่นใจและมีพลังงานที่ดีภายใน เรื่องราวนี้จึงเป็นส่วนสำคัญของจุดเริ่มต้นในแคมเปญ Youtiful ที่มาสเตอร์จองอยากส่งต่อประสบการณ์และสร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคน



WATCH



jung saem mool thailand

1 / 3

คุชชั่น jung saem mool thailand

2 / 3

พาเลตต์ตา jung saem mool thailand

3 / 3

แม้แคมเปญ Youtiful จะเป็นแคมเปญใหม่ประจำปีนี้ แต่ผลิตภัณฑ์ของ Jung Saem Mool ทุกชิ้นที่ผ่านมาก็ออกแบบให้เข้ากับแคมเปญได้แบบพอดิบพอดี ทั้งอายพาเลตต์ที่ออกแบบสีตาม Personal Color และสีของตา หรือคุชชั่นที่ออกแบบการใช้งานที่อิงจากผิวของเราจริงๆ ที่บริเวณฝาด้านในของคุชชั่นจะมีพื้นที่สำหรับเกลี่ยเนื้อคุชชั่นส่วนเกินออกก่อนที่จะตบลงบนบผิว

“อยากแต่งหน้าสวย อย่างแต่งหน้าเป็นต้องมีกฎหลัก 7 ข้อ”

มาสเตอร์จองเรียนจบด้านวิจิตรศิลป์ เชี่ยวชาญด้านศิลปะและการใช้สี ซึ่งเป็นข้อดีสำหรับการเป็นช่างแต่งหน้าของเธอ เมื่อเก็บประสบการณ์จนชำนาญเธอจึงเริ่มเป็นครูสอนที่มีทฤษฎีโดดเด่น คือ กฎหลักศิลปะการแต่งหน้า 7 ข้อ

  • Thick & Thin: เทคนิคการเลือกลงความหนา-บางของเนื้อผลิตภัณฑ์ตามความหนา-บางของผิว
  • Warm & Cool: ใช้คู่สีตรงข้ามมาปรับสีผิวให้เรียบเนียน และใช้คู่สีที่ส่งเสริมกันเพื่อสร้างฟินิชที่ดูกลมกลืน
  • Wet & Dry: เลือกลำดับการลงผลิตภัณฑ์ให้เหมาะ บางผลิตภัณฑ์สามารถผสมเข้ากันได้
  • Lost & Found: การสร้างมิติผ่านการปกปิดและทำให้ดูโดดเด่น
  • Focal Point: หาจุดโฟกัสบนใบหน้าและสร้างความสมดุล
  • Simply & Complex: เลือกหนึ่งส่วนบนใบหน้าและทำให้ส่วนนั้นดูโดดเด่น
  • Old & New: หยิบลุคเดิมที่เคยแต่งหรือเทรนด์เก่าที่เคยดังมาแต่งอีกครั้งโดยใช้เทคนิคใหม่ๆ

“ช่างแต่งหน้า อาชีพที่ AI ทำแทนไม่ได้”

33 ปีบนเส้นทางของการเป็นช่างแต่งหน้า ครูสอนแต่งหน้า และเจ้าของแบรนด์เมกอัป มาสเตอร์จองเจอกับช่างแต่งหน้าใหม่ๆ ที่เข้ามาเรียนนับไม่ถ้วน เธอบอกกับโว้กบิวตี้ว่า “ช่างแต่งหน้าควรมีระยะเวลาฝึกฝนประมาณ 3-4 ปี จนกว่าจะคุ้นเคยกับวิธีการและทำให้เกิดลายเส้นเมกอัปอันเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง” เพราะช่างแต่งหน้าที่ไปเรียนกับเธอหลายคนมักใจร้อน รู้วิชาแล้วแต่ยังไม่รู้จักการปฏิบัติจริง การแต่งหน้านอกจากทำให้ลูกค้าออกมาสวย ต้องใส่ใจรายละเอียดระหว่างแต่งหน้าด้วย ประสบการณ์ที่มากขึ้นจะทำให้เราได้เจอกับของล้ำค่า นั่นคือสไตล์การแต่งหน้าที่ไม่มีใครเหมือน ที่สำคัญอาชีพนี้แม้ AI จะทำแทนไม่ได้ แต่ช่างแต่งหน้ามือใหม่ที่ฝึกฝีมือจนชำนาญก็อาจมาแทนที่คนที่ไม่พัฒนาตัวเองได้เช่นกัน

เคาต์เตอร์ Jung Saem Mool ณ Beauty Galerie ชั้น G ศูนย์การค้าเซ็นทรัลชิดลม

ภาพ : Courtesy of JUNG SAEM MOOL
สัมภาษณ์ และ เรียบเรียง : ธีรชยา พิมพ์กิติเดช

WATCH

TAGS : Interview