Vogue Thailand

WATCHES & JEWELLERY

Hublot x Daniel Arsham ศิลปะจากน้ำอันนำมาสู่เรือนเวลาแซปไฟร์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นที่สุด

MP-17 MECA-10 Arsham Splash Titanium Sapphire ผลงานนาฬิกาเรือนใหม่ล่าสุดจาก Hublot และ Daniel Arsham ที่ต่อยอดจากนาฬิกาพกทรงหยดน้ำอันหวือหวา

โดย Nattanam Waiyahong
14 ตุลาคม 2568

     เมื่อกำแพงแห่งความสร้างสรรค์ถูกทะลายโดยแบรนด์นาฬิกาและศิลปินผู้เปี่ยมไอเดีย โลกแห่งนวัตกรรมจึงผสมผสานกับศิลปะที่พาอุตสาหกรรมการรังสรรค์เรือนเวลาก้าวไปอีกขั้น Hublot แบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องการเนรมิตนาฬิกาล้ำสมัย พร้อมการเสาะหาความแปลกใหม่โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการใช้วัสดุที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้าน Daniel Arsham คือศิลปินผู้หยิบจับไอเดียมาคลุกเคล้ากับแนวทางของตัวเอง จนเกิดเป็นโปรเจกต์ที่น่าสนใจปี 2025 กับ ‘Hublot x Daniel Arsham’

Article

     ต้องกล่าวก่อนว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่แดเนียลร่วมงานกับอูโบลต์ เพราะก่อนหน้านี้เขาเคยร่วมสรรสร้างนาฬิกา MP-16 Arsham Droplet มาแล้ว ซึ่งเขาได้ไอเดียจากการจำลองลักษณะของหยดน้ำ นำมาสู่การผลิตเรือนเวลาพกที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานอย่างอิสระ ถือเป็นจุดตั้งต้นไอเดียสำคัญที่ทำให้โปรเจกต์ MP-17 MECA-10 Arsham Splash Titanium Sapphire ถือกำเนิดขึ้นมาติดๆ และงานเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่โว้กก็เดินทางสู่สิงคโปร์เพื่อร่วมสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษนี้ด้วยเช่นกัน

     ‘จุดเริ่มต้นจากน้ำ’ รากฐานสำคัญของนาฬิการุ่นใหม่จากอูโบลต์และแดเนียลยังคงข้องเกี่ยวกับน้ำ ครั้งนี้เขาเล็งเห็นความงดงามของการกระจายของน้ำที่มีทั้งไดนามิกของธรรมชาติ รูปทรง และความโปร่งใส เชื่อมโยงระหว่างงานศิลปะและความท้าทายของการผลิตนาฬิกา เพราะด้วยรูปทรงของน้ำหรือการกระจายของน้ำไม่ได้มีลักษณะตามทรงเรขาคณิตทั่วไป แต่เป็นรูปทรงของความไม่แน่นอน ดังนั้นการเริ่มสร้างสรรค์จึงถือกำเนิดพร้อมโจทย์ปัญหาสำคัญ ตั้งแต่การออกแบบไปจนถึงการเลือกใช้วัสดุ

     สำหรับอูโบลต์แซปไฟร์ถือเป็นวัสดุสำคัญที่แบรนด์คิดค้นนวัตกรรมเพื่อมาใช้ในการประกอบเรือนเวลาชั้นยอด และด้วยแนวคิดการปรับแต่งรูปทรงของแดเนียลยิ่งผลักดันขีดจำกัดให้การหยิบยกแซปไฟร์มาใช้ซับซ้อนขึ้นอีกระดับ โดยนาฬิกาขนาด 42 มิลลิเมตร มีความโดดเด่นเรื่องรูปทรงที่ดูพลิ้วไหวราวกับการกระจายตัวของน้ำ มาพร้อมกลไก MECA-10 ที่พัฒนาขึ้นภายในโรงงาน นอกจากนี้สิ่งที่ขาดไม่ได้คือแรงบันดาลใจเบื้องหลังของแดเนียลที่เขาค้นหาวัสดุรูปแบบต่างๆ เพื่อความเหมาะสม จนกระทั่งพบเจอกับแซปไฟร์ที่ไม่ได้ใสทะลุ แต่เป็นแซปไฟร์โปร่งสีที่สามารถจำลองความขุ่นมัวที่ประกอบเข้ากับความใสกริ๊ง สร้างสมดุลเข้ากันอย่างสมบูรณ์แบบ ในขณะที่ฐานไทเทเนียมและรับเบอร์ทำหน้าที่สร้างรูปทรงที่จำลองการเคลื่อนไหวของน้ำ รวมถึงการจำลองรูปแบบของ ‘Splash’ บนหน้าปัดที่พัฒนามาจากนาฬิกาพกรุ่นก่อนหน้า
 

     สี ‘Green Arsham’ สอดแทรกอย่างสะดุดตาในหลายองค์ประกอบตั้งแต่เข็มและหลักบอกเวลา เพิ่มเติมด้วยสกรูว์รูปตัว ‘H’ 6 จุดรอบเบเซล มาพร้อมสายรับเบอร์ลายโมโนแกรมประจำตัวของแดเนียล นอกจากนี้ยังมีหน้าปัดพิเศษบอกการสำรองพลังงานบริเวณตำแหน่ง 3 นาฬิกา ชวนให้สัมผัสถึงวิธีการผสมผสานระหว่างความก้าวหน้าทางนวัตกรรม ศิลปะ และความสร้างสรรค์โดยแท้จริง ส่วนหนึ่งของ Art of Fushion โดยอูโบลต์ถูกสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนกับวิถีการทำงานและผลลัพธ์อันน่าทึ่งจากไอเดียของแดเนียล ซึ่งเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ด้วยเช่นกัน นับเป็นอีกหนึ่งสุดยอดเรือนเวลาสายโมเดิร์นที่สามารถแสดงตัวตนความอิสระและการเดินก้าวหน้าผ่านกรอบเรื่องขนบธรรมเนียมสู่โลกศิลปะได้อย่างเต็มที่ โดยนาฬิกา MP-17 MECA-10 Arsham Splash Titanium Sapphire ผลิตจำกัดเพียง 99 เรือน หากใครเป็นคอนาฬิกาสายนวัตกรรมล้ำสมัย หรือเป็นคอศิลปะ และแฟนคลับของแดเนียล นาฬิกาเรือนนี้อาจเป็นของชิ้นล้ำค่าที่ควรค่าแก่การสะสม (พิเศษสามารถชมบรรยากาศงานเปิดตัว ณ ประเทศสิงคโปร​์ได้ที่ด้านล่าง)

(สามารถอ่านเรื่องราวเพิ่มเติมของแบรนด์อูโบลต์ได้กับบทความ HUBLOT จับมือกับ Takashi Murakami ปล่อยนาฬิกาข้อมือสีใสทั้งเรือนกับดีไซน์ดอกไม้หน้ายิ้มสุดไอคอนิก)

ภาพ : Courtesy of Hublot