WATCHES & JEWELLERY
Van Cleef & Arpels เผยจิวเวลรีชั้นสูงคอลเล็กชั่น 'Treasure Island' จากหนังสือเกาะมหาสมบัติจากหนังสือ “เกาะมหาสมบัติ” หรือ Treasure Island นิยายอันเปี่ยมไปด้วยจินตนาการ และพรสวรรค์ทางวรรณศิลป์อันล้นหลาม ถ่ายทอดมาสู่คอลเล็กชั่นเครื่องประดับชั้นสูง ประดับไปด้วยรัตนชาติหลากตระกูล ทั้งอัญมณี และรงคศิลาต่างเฉดสีที่ผสานด้วยเทคนิคอันเชี่ยวชาญ |
สำหรับเครื่องประดับชั้นสูงคอลเล็กชั่น "Treasure Island" แบรนด์จิวเวลรี Van Cleef & Arpels ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวการผจญภัยในหนังสือนิยาย ’Treasure Island‘ หรือ ‘ล่าขุมทรัพย์เกาะมหาสมบัติ’ ภายใต้ชื่อนิยายแปล ได้รับการจัดให้เป็นหนังสือประเภทระทึกขวัญและผจญภัย งานประพันธ์โดยนักเขียนและกวีสัญชาติสกอตแลนด์ โรเบิร์ต หลุยส์ สตีเวนสัน ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1883 ความประทับใจในเนื้อหาของนวนิยายชิ้นนี้ นำไปสู่จินตนาการร่วมระหว่างทีมนักออกแบบ ช่างศิลป์งานฝีมือ และผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆ ของเมซง รังสรรค์ขึ้นเป็นจิวเวลรีที่บอกเล่าเรื่องราวการผจญภัยครั้งใหม่ด้วยจิตวิญญาณที่กล้าหาญเพื่อค้นหาเครื่องประดับตระการตาซึ่งซุกซ่อนบนเกาะลึกลับ โดยทางเมซงแบ่งเรื่องราวออกเป็น 3 บท
บท 1 ผจญภัยกลางทะเล Adventure at sea
โดยบทแรกสะท้อนถึงความงดงามของมหาสมุทร นำมาซึ่งสีฟ้าหลากเฉด ตั้งแต่สีฟ้าจากเทอร์ควอยซ์ ไล่เฉดไปจนถึงสีเขียวของมรกต อาทิ เข็มกลัด 'ลำนำมหรรณพ' Poésie de la mer clip อันได้แรงบันดาลใจจากหยดจากน้ำทะเลที่มาปรากฏบนตัวเรือนเข็มกลัดทองคำสีขาว ผสานกับทัวร์มาลีนสีเขียวน้ำทะเลขนาดที่ใหญ่ถึง 61.73 กะรัต ด้วยงานเจียระไนหลังเบี้ยทรงหยดน้ำ เผยให้เห็นความงดงามตามธรรมชาติในเนื้อพลอยกระจ่างใสดั่งน้ำทะเล ที่เป็นถิ่นของนางเงือกสาวสวมรัดเกล้าทรงกระบัง โดยมีเพชรน้ำกับไพลินสีน้ำเงินหลากเฉดร่วมกันเติมรายละเอียดจากเรือนผมยาวสลวยไปจนถึงปลายหาง ตลอดจนขดโค้งเกลียวคลื่นของท้องทะเล
WATCH
บท 2 สำรวจเกาะ Exploring the island
ในขณะที่บทที่สอง อาศัยงานออกแบบจำลองชีวิตธรรมชาติอย่างเปลือกหอยเหลือบเฉดสีรุ้ง เช่นในผลงาน 'เข็มกลัดเปลือกหอยซ่อนหนามเตย' Coquillage Mystérieux ถือเป็นผลงานประติมากรรมสัจนิยม ถ่ายทอดแง่มุมทุกมิติของฝาเปลือกหอยธรรมชาติมาสู่ตัวเรือนเครื่องประดับล้ำค่าได้อย่างไร้ที่ติ จากโค้งเปลือกซึ่งอาศัยเทคนิคซ่อนหนามเตยฝังทับทิมทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสเจียระไนยกหน้าตัดก่อประกายเรืองรองละมุนตาดุจกำมะหยี่สีแดงสด ร่วมกับงานฝังเพชรเหลี่ยมเกสรเดินขอบ และตัดลายแง่สบเปลือกหอยแผ่วงรัศมีดุจพัดคลี่ ในขณะที่ส่วนขั้วเปลือกต้องแสงทอประกายสลับเฉดระยิบระยับจากงานฝังเพชรน้ำร่วมกับเพชรสีชมพู ทั้งด้านหน้าชิ้นงานยังใช้เทคนิคหลากหลายการฝังอัญมณีเพื่อเสริมส่งความงามให้แก่กัน ไม่ว่าจะเป็นฝังจิกไข่ปลา, ฝังจม, ฝังสอด, ฝังหุ้มหัวท้าย หรือกระทั่งฝังหุ้มมุมเหลี่ยม และเมื่อพลิกกลับไปด้านหลัง แอ่งเว้าฝาในของเข็มกลัดเปลือกหอยพลันสะท้อนถึงความวิจิตรบรรจงต่อเนื่องมาจากโค้งฝา โครงสร้างโลหะตัวกลัดทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าประหนึ่งกรอบล้อมประติมากรรมนางอัปสรทองคำสีขาวถือมรกตเขียวส่องไว้ด้วยสองมือ ยืนกายอยู่บนไข่มุกเลี้ยงขาวกระจ่างกลางแนวปะการังทำจากทองคำสีเหลืองดุนลายประดับเพชร
บท 3 ล่าสมบัติ The treasure hunt
บทที่สามบทส่งท้ายเป็นเรื่องราวการไล่ล่าหาสมบัติตั้งแต่ยุคก่อนโคลัมบัสค้นพบทวีปอเมริกา จนถึงอารยธรรมอันรุ่งเรืองของเอเชีย ล้วนถูกรังสรรค์มาสู่ผลงานเครื่องประดับสุดวิจิตรบรรจง ผลงานชิ้นโดดเด่น อาทิ สร้อยคอยาว 'ร้อยประทีบซ่อนหนามเตย' Lanternes Mystérieuses long necklace คือผลงานสุดเลอค่าจากงานประกอบลูกปัดหยกพม่าสีม่วงลาเวนเดอร์อันถือว่าหาได้ยากยิ่งถึง 31 เม็ด ขนาดเสมอกันแสดงให้เห็นถึงทักษะเฉียบคมของนักอัญมณีวิทยาซึ่งร่วมกันคัดเลือกและตรวจสอบคุณลักษณ์อย่างพิถีพิถัน เช่นเดียวกับความชำนาญของช่างฝีมือร้อยสายสร้อยของเมซง ผู้บรรจงสลับคั่นลูกปัดหยกพม่าด้วยโมทีฟทองคำสีกุหลาบฝังทับทิมเพื่อป้องกันการขัดสีที่จะส่งผลให้รัตนชาติมีรอยขีดข่วน บั่นทอนประกายวาววาม ขณะเดียวกันก็มอบผลลัพธ์สะกดสายตาจากความขัดแย้งทางเฉดสี พร้อมทั้งออกแบบให้สามารถดัดแปลงสวมใส่ได้หลายสไตล์ ให้เป็นได้ทั้งสร้อยคอเส้นยาว และสร้อยคอเส้นสั้น โดยอาศัยโมทีฟเครื่องประดับสามชิ้นรูปทรงวงรีจำลองแบบมาจากโคมประทีปของชาวจีน ซึ่งหนึ่งในนั้นติดตั้งกลไกตัวกลัดอยู่ภายใต้งานฝังทับทิมซ่อนหนามเตย และด้วยงานฝังทับทิมเจียระไนยกหน้าตัดไว้ด้านหนึ่ง ในขณะที่อีกด้านเป็นงานฝังเพชรร่วมกับไพลินเจียระไนยกหน้าตัด นำมาซึ่งความหลากหลายในการจัดตำแหน่งโมทีฟต่างจี้สร้อยคอ หรือย้ายไปไว้เป็นระย้าประดับท้ายทอย
(สามารถอ่านเรื่อง Horoscope พร้อมค้นหาเครื่องประดับตามราศีที่ช่วยเสริมสไตล์ของแต่ละบุคคล! ได้ที่นี่)
รูปภาพ และ ข้อมูล : Courtesy of Van Cleef & Arpels
WATCH