LIFESTYLE

คู่มือซักผ้าแบบมือโปร! เปิดผ้าแต่ละประเภทต้องแยกซักให้ถูก หากไม่ต้องการให้ชุดโปรดพัง

ซักผ้าผิดวิธีชุดโปรดอาจพังได้ง่ายๆ เพราะฉะนั้นซักผ้าแค่ให้สะอาดอาจยังไม่เพียงพอ แต่ต้องซักให้ถูกวิธีเพื่อถนอมชุดโปรดของคุณให้ดูใหม่และใช้งานได้ยาวนาน

     เรื่อง: วราภรณ์ หงส์วรางกูร

 

     การซักผ้าดูเหมือนเรื่องง่าย แต่ถ้าโยนทุกชุดเข้าเครื่องซักผ้าโดยไม่แยกประเภทเลยก็อาจเกิดปัญหาตามมาได้ ไม่ว่าจะเป็นผ้าหด ผ้ายืดย้วย สีตก หรือสีซีดจางจนดูเก่า โดยเฉพาะสำหรับเสื้อผ้าที่มี่มูลค่าสูงหรือเนื้อผ้าพิเศษ ที่หากเกิดความเสียหายก็ไม่อาจย้อนหรือซ่อมคืนมาให้เป็นเหมือนเดิมได้ ในบทความนี้โว้กจึงจะมาแนะนำวิธีการซักผ้าแต่ละประเภท เพื่อเป็นการถนอมเสื้อผ้าชุดโปรดของคุณให้คงสภาพดีเหมือนใหม่และใช้งานไปได้อีกยาวนาน

 

ภาพถ่ายโดย Timur Weber จาก Pexels: https://www.pexels.com/th-th/photo/9185784/ 

ก่อนซักต้องอ่านป้ายก่อนเสมอ!

     นี่คือกฎข้อแรกและสำคัญที่สุดในการซักผ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสื้อผ้าราคาสูงหรือเนื้อผ้าพิเศษ เพราะฉลากหรือป้ายที่อยู่บนเสื้อผ้าเปรียบเสมือนคู่มือการใช้งานที่จะบอกวิธีการดูแลรักษาที่ถูกต้อง รวมถึงอุณหภูมิของน้ำที่ควรใช้ วิธีการซัก (ซักมือหรือเครื่อง) และวิธีการอบแห้ง การมองข้ามเรื่องนี้ไปอาจนำไปสู่ความเสียหายกับเสื้อผ้าโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์

 

ภาพ: Freepik.com

1. วิธีซักผ้าฝ้าย (Cotton)

     “ผ้าฝ้าย” หรือที่เรียกกันว่า “ผ้าคอตตอน” เป็นผ้าที่มีความทนทาน ซักง่าย ส่วนใหญ่ผ้าฝ้ายสามารถซักเครื่องได้ โดยใช้ได้ทั้งน้ำอุ่นและน้ำเย็น วิธีการซักให้กลับด้านในออกก่อนซักเพื่อป้องกันสีของเสื้อผ้าซีดจาง และควรแยกซักสีเข้มกับสีอ่อน และสำหรับเสื้อผ้าฝ้ายราคาแพง ควรเลือกใช้โหมดซักผ้าแบบอ่อนโยน หลักจากซักเสร็จแล้วให้ตากในที่ร่มมีลมโกรกหรือจะเข้าเครื่องอบผ้าก็ได้ แต่ควรเลือกอุณหภูมิต่ำ และอบในระยะเวลาสั้นๆ 

 



WATCH




ภาพ: Freepik.com

2. วิธีซักผ้าไหม (Silk)

     ผ้าไหมเป็นผ้าที่บอบบางและต้องการการดูแลเป็นพิเศษ วิธีที่ดีที่สุดในการซักผ้าไหมคือการซักมือ โดยให้แช่ผ้าไหมในน้ำสบู่ หรือผงซักฟอกอ่อนๆ ประมาณ 15-20 นาที จากนั้นซักเบาๆ อย่าขยี้หรือบิดผ้าแรงๆ แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็นหลายๆ ครั้งจนกว่าจะไม่มีฟองสบู่หลงเหลืออยู่ หลังจากซักเสร็จแล้วให้ตากในที่ร่มลมโกรก ห้ามตากโดนแดดโดยตรงเพราะอาจทำให้ผ้าไหมซีดจางได้

 

ภาพถ่ายโดย Monstera Production จาก Pexels: https://www.pexels.com/th-th/photo/7794355/ 

3. วิธีซักผ้าลินิน (Linen) 

     ผ้าลินินเป็นผ้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีความทนทาน ระบายอากาศได้ดี สามารถซักเครื่องได้โดยควรซักด้วยน้ำเย็น เลือกใช้โหมดถนอมผ้า และอย่าลืมกลับด้านในออกก่อนซัก แต่ถ้าใช้วิธีซักมือก็จะช่วยถนอมเนื้อผ้าลินินได้ดีกว่า โดยใช้ได้ทั้งน้ำเย็นและน้ำอุ่น และใช้ผงซักฟอกอ่อนๆ ในการซัก ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงการใช้สารฟอกขาวเพราะอาจทำให้ผ้าลินินซีดจางได้ สุดท้ายตากให้แห้งในที่ร่มลมโกรก

 

ภาพถ่ายโดย Photo By: Kaboompics.com จาก Pexels: https://www.pexels.com/th-th/photo/6757457/ 

4. วิธีซักผ้าขนสัตว์ (Wool)

     ผ้าขนสัตว์เป็นเนื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่น แต่เป็นผ้าที่มีความบอบบางมาก การซักที่ไม่ถูกวิธีอาจทำให้ผ้าขนสัตว์เสียหาย หดตัว หรือเสียรูปทรงได้ วิธีที่ดีที่สุดในการซักผ้าขนสัตว์คือการซักมือด้วยน้ำเย็น และใช้ผงซักฟอกเฉพาะ ขนสัตว์บางชนิดอาจซักเครื่องได้ แต่ต้องเลือกโหมดซักที่อ่อนโยนที่สุด และควรใส่ถุงตาข่ายสำหรับซักผ้าด้วย เพื่อป้องกันความเสียหายที่เกิดจากการเสียดสี และสำหรับเสื้อผ้าขนสัตว์ราคาแพงควรส่งซักแห้งจะปลอดภัยที่สุด

 

ภาพถ่ายโดย Michaela St: https://www.pexels.com/th-th/photo/19903579/ 

5. วิธีซักผ้าเดนิม (Denim)

     ผ้ายีนส์หรือเดนิมเป็นเนื้อผ้าที่ทนทาน ซึ่งการซักที่ถูกวิธีจะช่วยไม่ให้สีซีดจางหรือเสียทรง พร้อมยืดอายุการใช้งานให้ยาวนาน วิธีการซักอันดับแรกให้กลับเอาด้านในออกก่อน จากนั้นนำเข้าเครื่องซักผ้าและเลือกใช้โหมดอ่อนโยนและใช้น้ำเย็นเท่านั้น ห้ามใช้น้ำร้อนและสารฟอกขาวเพราะจะทำให้สีตกและทำให้ผ้าหดตัวได้ หลังจากซักเสร็จให้ตากในที่ร่มลมโกรกจนแห้ง และสำหรับกางเกงยีนส์ที่มีราคาแพง แนะนำให้ซักมือหรือส่งซักแห้งจะดีกว่า 

 

ภาพ: Freepik.com

6. วิธีซักผ้ากำมะหยี่ (Velvet)

     ผ้ากำมะหยี่เป็นเนื้อผ้าที่มีความหรูหรา ละเอียดอ่อน และค่อนข้างบอบบาง จึงไม่แนะนำให้ซักด้วยเครื่องซักผ้าเพราะอาจทำให้ขนกำมะหยี่ยับยู่ยี่ และเสียรูปทรงได้ วิธีที่ดีที่สุดคือการซักมือโดยใช้น้ำเย็นและผงซักฟอกอ่อนโยน อย่าขยี้หรือบิดผ้าแรงเกินไป หากมีคราบสกปรกที่ติดแน่น ควรใช้แปรงขนอ่อนๆ แปรงเบาๆ ก่อนซัก และหลังจากผ้าแห้งสนิทแล้วควรใช้แปรงขนอ่อนแปรงขนกำมะหยี่เบาๆ อีกครั้ง  เพื่อให้ขนกำมะหยี่เรียบสวยงาม

 

WATCH