When Artist's Identity Speaks Louder

LIFESTYLE

VOGUE SCOOP | รวมลิสต์ศิลปินที่แสดงความหลากหลายทางตัวตนผ่านบทเพลงและดนตรี

ในยุคที่สังคมเปิดกว้าง เราน่าจะได้เห็นศิลปินอีกหลายคนที่ทำให้เรื่องตัวตนของเพศสภาพพัฒนาเป็นความหลากหลายและกลายเป็นความลื่นไหลทางเพศในที่สุด

โดย Achiraya Duangkaew
25 มิถุนายน 2568

ในยุคที่เส้นแบ่งระหว่างศิลปะ แฟชั่น และอัตลักษณ์เริ่มเลือนลาง ศิลปินหัวก้าวหน้าบางคนก็กล้าที่จะข้ามกรอบของคำว่า ‘เพศ’ ถ่ายทอดผ่านการแต่งกาย การแสดงออก ไลฟ์สไตล์ที่สะท้อนจุดยืนของตัวเองอย่างชัดเจน พวกเขาไม่เพียงแต่สร้างสรรค์เพลงที่โลกจำแต่ยังจุดประกายไฟและเปิดประตูให้สังคมมีอิสระในการเป็นตัวเองและเสรีภาพในการใช้ชีวิตมากขึ้น ผ่านทุกจังหวะของเสียงดนตรี ทำนอง ทุกเฉดสีของการแต่งกาย หรือทุกเวทีที่ขึ้นแสดง ล้วนเป็นการปลุกเหล่าคนฟังให้ตื่นมาเฉลิมฉลองให้แก่การเปิดกว้างและความหลากหลายในโลกที่ ‘ความแตกต่าง’ ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่กลับเป็นพลังแห่งการสร้างสรรค์และ ‘ผู้สร้างตำนาน’ ที่เปลี่ยนแปลงให้เรื่องเพศในวงการดนตรีไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

 

Article

Supermodel (You Better Work) by Rupaul

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการแสดงอัตลักษณ์ทางเพศในวงการดนตรีนั้นมีมาตั้งแต่ยุค 70s หรือก่อนหน้านั้น กับใบเบิกทางของตำนานศิลปินคนแรกที่ปรับเปลี่ยนค่านิยมตัวตนของเพศสภาพให้มีความหลากหลายมากขึ้นอย่าง David Bowie กับการวางภาพลักษณ์หรือสร้างคาแร็กเตอร์ที่แปลกแยกจากชีวิตส่วนตัว และเรื่องเพศก็ถูกผลักดันโดยเหล่าศิลปินหัวก้าวหน้าเรื่อยมาจนถึงยุค 2000 ที่อาจจะไร้ซึ่งความขบถทางเพศอย่างปีที่ผ่านมา โดยส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะเจตนารมณ์ของการต่อสู้และความท้าทายของคนรุ่นก่อนกำลังถูกส่งผ่านมายังคนรุ่นต่อไป ทำให้อาจจะยังไม่มีศิลปินคนใดที่จะเข้ามามีบทบาทเรื่องเพศมากนัก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มี หนึ่งในศิลปินที่โดดเด่นอย่างน่าเหลือเชื่อกับการใช้ศิลปะ Drag สุดโต่งที่เป็นภาพสะท้อนของความคิดสร้างสรรค์และความเท่าเทียมผ่านตัวตนที่ไร้ขอบเขต Rupaul ศิลปินแดร็กที่เริ่มเข้าวงการมาตั้งแต่ปลายยุค 1980 พอมาถึงยุค 1990 เขาก็เริ่มมีผลงานของตัวเองในแวดวง Clubbing อย่างเพลง Supermodel (You Better Work) มาจนถึงปลายยุค 2000 ที่เขาได้สร้างอาณาจักร Drag Queen ให้กลายเป็นอาณาจักรกว้างใหญ่และมีอิสระเสรีในการเป็นตัวเอง ทั้งยังจุดประกายให้เกิดการตระหนักรู้และสร้างความเข้าใจในเรื่องอัตลักษณ์ทางเพศผ่านรายการโด่งดังอย่าง RuPaul’s Drag Race เวทีประชันตัวตนผ่านความคิดสร้างสรรค์ทางศิลปะและความบันเทิงที่อยู่นอกเหนือคำว่าเพศ และกลายมาเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการป็อปคัลเจอร์

 

Article

Stay With Me by Sam Smith

เจตนารมณ์จากศิลปินรุ่นเก่าที่เป็นใบเบิกทางให้เหล่าศิลปินรุ่นใหม่เริ่มเห็นผล เมื่อมาถึงยุคของอินเทอร์เน็ต โซเชียลมีเดีย และสตรีมมิ่งที่ทำให้การแสดงออกทางอัตลักษณ์หลากหลายยิ่งขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องอยู่ในกรอบของคำว่า ‘หญิง’ หรือ ‘ชาย’ อีกต่อไป ปัจจุบันมีศิลปินหลายคนที่มีหลายเพศสภาพในตัวเอง Sam Smith ก็เช่นกัน เขาเป็นหนึ่งในศิลปินที่เปิดเผยอัตลักษณ์ทางเพศว่าตนเป็น Non-Binary ทั้งยังเคยให้สัมภาษณ์ว่าเหมือนมีสงครามขนาดย่อมในร่างกายและความคิด โดยเขายังเป็นกระบอกเสียงให้กับคอมมูนิตี้ LGBTQ+ มาตลอดพร้อมทั้งคอยผลักดันให้ทุกคนรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเองไม่ว่าจะเป็นคนเพศไหนก็ตาม Sam Smith ดังเป็นพลุแตกตั้งแต่อัลบั้มแรกอย่าง In The Lonely Hour ที่เพิ่งครบรอบปีที่ 10 ไปไม่นานมานี้ ซึ่งในอัลบั้มเขาได้เขียนเนื้อเพลงแบบเป็นกลางเรื่องเพศยกเว้นเพียงแต่ซิงเกิล Stay With Me ที่ระบุเรื่องสรรพนามทางเพศผ่านเนื้อเพลง But I still need love ‘cause I’m just a man ต่อมาเขาได้ดัดแปลงเนื้อเพลงใหม่มาเป็น But I still need love, baby understand เพื่อครอบคลุมและไม่เจาะจงเพศใดเพศหนึ่ง ทั้งยังเผยอีกว่า มันเป็นเรื่องที่ดีมากเลยนะที่ในบางครั้งเราก็สามารถเปลี่ยนแปลงอดีตได้’ นอกจากนี้เขายังสร้างประวัติศาสตร์ร่วมกับ Kim Petras ศิลปินทรานส์เจอเดอร์อีกคนหนึ่งที่น่าสนใจในยุคนี้

 

Article

TRANSylvania by Kim Petras

ศิลปินคลื่นลูกใหม่อย่างสาวผมบลอนด์ตัวน้อยร่างเล็กคล้ายตุ๊กตากับความจัดจ้านด้านแฟชั่นไม่แพ้ศิลปินแนวหน้าคนอื่นๆ โดยเธอเป็นศิลปินข้ามเพศคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ประสบความสำเร็จในแวดวงเพลงป็อปเป็นอย่างมาก กับการขึ้นคว้าอันดับ #1 Billboard Hot 100 ด้วยยอดสตรีมกว่า 2 พันล้านครั้งทั่วโลก โดยสร้างประวัติศาสตร์ร่วมกับ Sam Smith ผ่านเพลง Unholy ซิงเกิลแรกจากศิลปิน Non-Binary และ Transgender ที่ขึ้นครองชาร์ตอันดับหนึ่ง และทั้งคู่ยังจับมือกันคว้ารางวัลบนเวทีสุดยิ่งใหญ่ในอุตสาหกรรมเพลงอย่าง Grammy Awards 2023 ในสาขา Best Pop Duo/Group Performance โดยก่อนหน้านั้นคิมเคยเป็นที่รู้จักในฐานะ ‘คนข้ามเพศที่อายุน้อยที่สุดในโลก’ ซึ่งหลังจากกระบวนการเปลี่ยนแปลงได้มีสื่อตั้งคำถามกับเธอว่าเธอรู้สึกเป็นผู้หญิงมากขึ้นไหม? ซึ่งเธอได้ตอบกลับว่า ‘ฉันรู้สึกเป็นผู้หญิงมาตลอดแค่ก่อนหน้านี้ฉันอยู่ผิดร่างเท่านั้น’ ด้วยเรื่องราวเบื้องหลังและความสำเร็จจึงไม่แปลกที่กลุ่ม LGBTQ+ บางคนจะมองคิมเป็นไอดอล โดยเธอเคยกล่าวว่า ‘ฉันแค่อยากเป็นแบบอย่างให้กับเด็กที่แปลงเพศ ช่วงชีวิตวัยรุ่นที่ผ่านมาของฉันต้องอุทิศไปกับการป่าวประกาศว่า ดูนี่สิ! ฉันเป็นผู้หญิงข้ามเพศ ทั้งๆ ที่ฉันก็เป็นคนปกติธรรมดาทั่วไป ฉันไม่แคร์หรอกว่าใครจะมองฉันเป็นแบบอย่าง เพราะฉันแค่อยากเป็นรู้จักในฐานะศิลปินผู้ยิ่งใหญ่มากกว่า’

 

Article

MONTERO by Lil Nas X

หนึ่งในความขบถที่ท้าทายความเป็นชายในวงการฮิปฮอปอเมริกาผ่านสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์กับการเปิดเผยเรื่องราวทางเพศอย่างสนุกสนานและการแสดงออกถึงความรักร่วมเพศอย่างชัดเจน ในขณะที่เพลง Old Town Road กำลังดังเป็นอย่างมาก Lil Nas X ก็ได้ออกมาเปิดตัวว่าตนเป็นเกย์ผ่านสถานะศิลปินฮิปฮอปผิวดำ โดยการประกาศตัวครั้งนี้นับเป็นการสร้างแรงกระเพื่อมขนาดใหญ่ให้กับวงการ เพราะอย่างที่รู้กันดีโดยเฉพาะเมื่อเขาเป็นคนผิวดำ วงการฮิปฮอปแทบจะครอบครองโดยคนดำที่มีระบบชายเป็นใหญ่และโฮโมโฟเบียค่อนข้างสูง เห็นได้จากมิวสิกวิดีโอที่มักจะมีผู้หญิงนุ่งน้อยห่มน้อยหรือเนื้อเพลงที่เหยียดเพศจนแทบเป็นภาพจำของวงการไปแล้ว แต่ดูเหมือนว่าสังคมจะไม่มีผลต่อเขาเท่าไรนัก เพราะหลังจากนั้นเขาก็ยังคงปล่อยเพลงในคอนเซปต์ที่เป็นตัวเองอยู่เรื่อยมา นับเป็นความท้าทายของการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่รวมถึงความกล้าของ Lil Nas X ท่ามกลางสังคมที่ยากต่อการมีเสรีภาพด้านอัตลักษณ์ทางเพศ

 

Article

Strawberries & Cigarettes by Troye Sivan

ศิลปินป็อปรุ่นใหม่ที่มีความกล้าหาญในการเปิดเผยเรื่องทางเพศอย่างตรงไปตรงมา ทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ให้กล้าแสดงออกตัวตนอย่างตรงไปตรงมาเช่นเดียวกันกับเขา โดยทรอยเคยออกมาเปิดเผยในปี 2013 ผ่านช่องยูทูบส่วนตัวว่าเขาเป็นเกย์ ซึ่งหลังจากนั้นก็ได้กลายมาเป็นปรากฏการณ์ครั้งใหญ่ที่ทำให้เขาถูกยกย่องว่าเป็น 1 ใน 25  วัยรุ่นทรงอิทธิพลที่สุดในโลก ณ ขณะนั้น ทรอยเป็นศิลปินที่จงใจสื่อสารกับโลก มอบพลังให้กับชาว LGBTQ+ ผ่านการสื่อสารเรื่องราวความรักและเซ็กซ์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเพศใดก็ตาม ก่อนหน้านั้นทรอยเคยร้องเพลง Strawberries & Cigarettes เพลงประกอบภาพยนตร์ Love, Simon ภาพยนตร์ Coming of Age ที่เกี่ยวกับการค้นหาและยอมรับตัวเอง นับเป็นหนึ่งในศิลปินที่ซัพพอร์ต LGBTQ+ มาตลอด โดยครั้งหนึ่งเขาเคยออกมาเป็นกระบอกเสียงผ่านการพูดถึงการสเตอริโอไทป์เพศสภาพที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์ของเขาเอง อันเป็นการสะท้อนว่าสังคมยังคงติดหล่มภาพลักษณ์ทางเพศ

 

Article

Ice Slippin by Omar Apollo

ศิลปินผู้ออกมาเปิดเผยว่าเป็นเกย์โดยนำเสนอความลื่นไหลทางเพศได้อย่างกลมกล่อมผ่านผลงานเพลงและภาพลักษณ์ที่ไม่ตายตัว นอกจากผลงานเพลงแล้ว Omar ยังได้แสดงภาพยนตร์เรื่อง Queer ที่ฉายในปี 2024 ซึ่งหลังจากนั้นเขาได้แชร์ภาพฉากที่เขามีเซ็กซ์กับ Daniel Craig ส่งผลให้มีหลายคนไม่พอใจกับฉากเปลือย แม้ภายหลังเขาได้ออกมาตอบโต้โดยไม่สะทกสะท้ายถึงแม้ว่ายอดอินสตาแกรมจะลดลงก็ตาม ท่าทีของเขากลายเป็นสัญลักษณ์ของการยืนหยัดเพื่อความหลากหลายทางเพศและเสรีภาพทางศิลปะ ไม่ใช่แค่ในฐานะศิลปินที่เป็นเกย์เท่านั้น แต่ในฐานะผู้ที่ไม่ยอมให้ขอบเขตของเพศ ความคาดหวัง หรืออคติ มาปิดกั้นพลังการเล่าเรื่องราวผ่านร่างกายและเสียงดนตรี

 

Article

Gay Angels by Perfume Genius

ศิลปินที่สำรวจความเปราะบางและความซับซ้อนของอัตลักษณ์ทางเพศผ่านบทเพลงและการแสดงที่อัดแน่นแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์อย่างทรงพลัง Michael Hadreas ไม่เพียงแต่ร้องเพลงแต่กำลังใช้ศิลปะเป็นเครื่องมือในการขุดลึกลงไปในจิตใจทั้งของตัวเขาเองและคนฟัง เพื่อสำรวจถึงคำถามสำคัญเกี่ยวกับตัวตน ความรัก ความกลัว และการเปิดเผยตนเองผ่านประสบการณ์ชีวิตจริงของเขา โดยเขาได้เปิดเผยว่าเป็นเกย์ผ่านการสอดแทรกอัตลักษณ์ในผลงาน ความเป็นเกย์นับเป็นส่วนประกอบในดนตรีของเขา ในขณะที่โลกกำลังเคลื่อนไปสู่ความหลากหลายและการยอมรับที่ทำให้เกย์ไม่ใช่ ‘ความแตกต่าง’ หรือคำที่น่ากลัวอีกต่อไปทั้งยังได้รับการยอมรับในสังคมมากขึ้น มีตัวละครเกย์กำเนิดขึ้นมากมายและเกย์ในชีวิตจริงที่สามารถใช้ชีวิตเป็นตัวเองได้มากขึ้น แต่เขากลับกำลังนำเสนอให้ผู้คนเข้าใจถึง ‘ความแตกต่าง’ นั้น แทนที่จะทำให้เกย์กลืนหายไปพร้อมกับความปกติของกระแสโลกหลัก เขาได้เน้นย้ำถึงความเฉพาะ ความเปราะบาง ความไม่ลงรอย และความรู้สึกของการเป็นบุคคลชายขอบที่ยังคงปรากฏให้เห็นอยู่ในสังคมทั้งในระดับปัจเจกและเชิงวัฒนธรรม

 

Article

Nonbinary by Arca

อีกหนึ่งศิลปินข้ามเพศชาวเวเนซุเอลาที่สร้างสรรค์ผลงานเซอร์เรียล ทำดนตรีและมีรูปลักษณ์ที่ท้าทายขอบเขตของเพศอย่างสุดขีด โดย Arca เป็นศิลปินและโปรดิวเซอร์มือทองที่เคยร่วมโปรดิวซ์หรือเขียนเนื้อเพลงให้กับศิลปินดังมากมาย อาทิ Kanye West, Frank Ocean หรือ FKA Twigs ที่ผสมผสานความแปลกใหม่เข้ากับความป็อปได้อย่างลงตัว ทว่าในผลงานเพลงของเขาเองกลับมีความสุดโต่งสุดขั้วที่ไม่เหมือนใครและเฉพาะกลุ่ม เขามีลายเซ็นผ่านดนตรีที่ฉายภาพมนุษย์กลายพันธุ์หรือสิ่งมีชีวิตที่มาจากภาพยนตร์ไซไฟ ด้วยองค์ประกอบซาวด์ ดนตรี รวมถึงการแสดง และวิชวลอาร์ตส่งให้ Arca เป็นศิลปินที่มีคาแร็กเตอร์น่าสนใจ ก่อนหน้านั้น Arca เคยออกมาเปิดเผยว่าเคยมีปัญหากับการยอมรับตัวตนความเป็นเกย์ของตัวเอง เวลาจดบันทึกไดอารี่มักจะลงชื่อตัวเองว่า Xen ตัวตน Alter Ego ไร้เพศที่ผสมผสานความซับซ้อนหลายด้านและไร้ซึ่งนิยาม ตัวตน Xen เป็นดั่งการก้าวพ้นเพศสภาพและก้าวข้ามกรอบ

 

Article

Pink Pony Club by Chappell Roan

ปิดท้ายด้วยอีกหนึ่งศิลปินเควียร์หัวขบถผู้ประกาศตัวตนอย่างโจ่งแจ้งว่าเธอชอบเพศเดียวกัน โดยสร้างสรรค์ผลงานที่พูดถึงความรักระหว่างเพศเดียวกัน รวมถึงจุดขายอันเป็นเอกลักษณ์อย่างการแต่งแดร็กสุดโต่ง เธอมักปรากฏตัวอย่างโดดเด่นที่สะท้อนตัวตนจัดจ้านผ่านลุคสุดโต่งที่ได้แรงบันดาลใจในการรังสรรค์ลุคมาจากเพื่อที่เป็นทั้งแดร็กควีนและนักแสดงละครเวที ซึ่ง Chappell คลุกคลีกับวัฒนธรรมแดร็กมาหลายปี โดยก่อนหน้าที่จะโด่งดังเธอเคยเลือกให้ศิลปินแดร็กควีนในท้องถิ่นมาร่วมคอนเสิร์ตจนกลายมาเป็นธรรมเนียมของเธอเอง ด้วยลุคที่เล่นใหญ่และจัดเต็มทุกครั้งที่ขึ้นโชว์คอนเสิร์ตอันสะท้อนถึงการแสดงออกอัตลักษณ์และตัวตนของเธอรวมถึงคอมมูนิตี้ LGBTQ+ ส่งให้ Chappell กลายเป็นศิลปินป็อปที่เป็นขวัญใจ Gen Z และ LGBTQ+ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบสุดโต่ง

 

ปฏิเสธไม่ได้ว่าในสังคมที่เปิดกว้างทำให้ศิลปินหลายคนได้แสดงออกถึงความหลากหลายทางเพศได้อย่างเสรี ตัวตนและเพศสภาพกลายมาเป็นความสร้างสรรค์ที่ให้อิสระและการเบ่งบาน ไม่ว่าจะเป็นการแสดงออก ท่าทาง การแต่งตัว มิวสิกวิดีโอ หรือเนื้อเพลงที่มีกลิ่นอาย ลายเซ็น หรือตัวตนของศิลปินสอดแทรกอยู่เสมอ ซึ่งในฐานะศิลปินและแฟนคลับแล้ว ดนตรีเป็นเครื่องมือที่จะสามารถปลอบประโลมหรือสื่อสารตัวตนของพวกเขาไปยังเหล่าผู้ฟังได้ดีที่สุด

 

กราฟิก: สุกฤตา ว่องวัฒนพิบูลย์

(สามารถตามไปอ่านบทความ 'VOGUE SCOOP | Life After the Rainbow ‘สมรสเท่าเทียม’...เท่ากันแล้วหรือแค่เริ่มต้น?' ได้ที่นี่)