
LIFESTYLE
VOGUE SCOOP | รวมศิลปินหญิงแห่งยุคที่สร้างปรากฏการณ์และนิยามใหม่ให้กับอุตสาหกรรมเพลงปฏิเสธไม่ได้ว่าตั้งแต่เปิดศักราชใหม่ 2025 มานี้ ศิลปินหญิงได้สร้างปรากฏการณ์ต่างๆ มากมายในอุตสาหกรรมเพลง พวกเธอไม่เพียงแค่ขับเคลื่อนวงการเท่านั้นแต่ยังขับเคลื่อนสังคมผ่านเนื้อเพลงที่แฝงความเป็นจริงในสังคมหรือสปีชแรงบันดาลใจอันทรงพลังที่จะถูกส่งต่อไปยังใครอีกหลายคน |
ท่ามกลางความคึกคักของอุตสาหกรรมเพลงและดนตรีฝั่งสากลนับตั้งแต่เปิดศักราช 2025 เป็นต้นมา เราได้เห็นศิลปินหญิงก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนแนวเพลงใหม่ๆ และสร้างอิทธิพลอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการแสดงสุดตระการตาบนเวทีประกาศรางวัลระดับโลก หรือการปล่อยเพลงที่กลายเป็นกระแสไวรัลในชั่วข้ามคืนจนส่งให้พวกเธอกลายเป็นไอคอน ณ ช่วงเวลานั้น ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าศิลปินหญิงนับเป็นตัวแปรสำคัญในการกำหนดทิศทางใหม่ของวงการเพลง ทั้งในแง่ของเนื้อหา ดนตรี หรือแนวคิดที่ก้าวข้ามกรอบดั้งเดิมผ่านการสะท้อนความเป็นจริงในสังคม รวมถึงแรงบันดาลใจจากศิลปินรุ่นเก่าที่ส่งต่อมายังศิลปินรุ่นใหม่ให้กล้าที่จะเฉิดฉายท่ามกลางอุตสาหกรรมที่เคยถูกครอบงำโดยเสียงของผู้ชายเป็นหลัก ด้วยพลังแห่งการสร้างสรรค์ของเหล่าศิลปินหญิงทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ส่งให้พวกเธอไม่เพียงเป็นดาวเด่นแห่งยุคแต่ยังเป็นผู้พลิกโฉมและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมดนตรีในอนาคต
Run the World (Girls) by Beyoncé
หากกล่าวถึงศิลปินหญิงที่ขับเคลื่อนวงการเพลงสากลก็คงต้องเอ่ยถึงราชินี R&B แห่งยุคที่ยังครองวงการอยู่ ณ ขณะนี้อย่าง Beyoncé ศิลปินหญิงผู้เป็นแรงบันดาลใจและไอคอนแห่งวงการเพลงสากลที่แท้จริง โดยเธอขึ้นแท่นเป็นศิลปินที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในวงการกับเอกลักษณ์และความสามารถผ่านสไตล์ดนตรีอันทรงพลังบนเวทีต่างๆ ที่ส่งให้เธอมีชื่อเข้าชิง Grammys รางวัลอันทรงเกียรติในอุตสาหกรรมเพลงมากถึง 99 ครั้ง โดยล่าสุดเธอได้จารึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่โดยการคว้ารางวัลใหญ่อย่าง ‘Album of the Year’ สาขาที่แม้จะมีชื่อเข้าชิงมากที่สุดในวงการแต่กลับเพิ่งได้ครอบครองโดยสมบูรณ์ แม้ก่อนหน้านี้จะมีดราม่าและคำครหามากมายถึงการตัดสินที่ส่งความเคลือบแคลงใจให้แก่เหล่าแฟนๆ หรือแม้แต่ตัวศิลปินเองอย่างในปี 2016 กับทอล์กออฟเดอะทาวน์ ภาพการหักครึ่งรางวัลของ Adele ดีว่าฝั่งอังกฤษผู้ท้าชิงที่ส่งให้ไอดอลในดวงใจของเธอต้องผิดหวังจากรางวัลสาขานี้ โดยเธอได้กล่าวชื่นชม Beyoncé ผ่านสปีชที่เรียกน้ำตาและความซาบซึ้งให้แก่ผู้คนในฮอลล์ แม้จะชวดรางวัลไปอย่างน่าเสียดายแต่ก็เป็นการแสดงถึงความเคารพนับถือที่ Adele มีต่อศิลปินในดวงใจของเธออย่างแท้จริง โดยล่าสุดในงาน Grammys ครั้งที่ 67 ได้ส่งให้ความฝันเป็นจริงกับการที่ Beyoncé สามารถคว้ามาได้ 2 สาขาใหญ่จากอัลบั้ม Cowboy Carter เป็นการสร้างประวัติศาสตร์ที่วงการเพลงต้องจารึกว่า ‘Beyoncé เป็นศิลปินหญิงผิวดำคนแรกที่ชนะรางวัล Best Country Album และ Album of the Year’ นับเป็นเวลาอันยาวนานกว่า 16 ปีในการปิดฉากข้อครหาและความเคลือบแคลงใจของเหล่าแฟนๆ ที่สะสมมานานหลายปี และเป็นข้อพิสูจน์สิ่งสะท้อนว่า Beyoncé ไม่มีสิ่งใดติดค้างกับเวที Grammys อีกต่อไป
MAYHEM by Lady Gaga
อีกหนึ่งศิลปินที่นับว่าจัดจ้านมาก่อนกาลตั้งแต่สิบปีที่แล้วอย่าง Lady Gaga ได้กลับมาทวงบัลลังก์ราชินีป๊อปไอคอน Mother Monster กับการปล่อยอัลบั้มใหม่ที่รอคอยมายาวนานถึง 5 ปีในชื่อ MAYHEM เธอได้เซอร์ไพรส์แฟนๆ ด้วยการประกาศเปิดตัวซิงเกิลใหม่จากอัลบั้มนี้ในช่วงเบรกโฆษณาระหว่างงานประกาศรางวัล Grammys 2025 ที่เธอเองก็คว้ารางวัลสาขา Best Pop Duo / Group Performance กับผลงานเพลง Die With A Smile ที่ร่วมงานกับ Bruno Mars โดยเธอได้กล่าวสปีชขณะขึ้นรับรางวัลถึงการสนับสนุนกลุ่ม LGBTQ+ “คนข้ามเพศไม่ใช่คนล่องหน คนข้ามเพศควรได้รับความรัก ชุมชนเควียร์ควรได้รับการยกย่อง บทเพลงคือความรัก ขอบคุณ” และสปีชที่อุทิศแด่ผู้อพยพในประเทศสหรัฐฯ “ฉันขออุทิศรางวัลนี้ให้กับพี่น้องผู้อพยพทุกคนในประเทศนี้ พวกคุณเป็นที่รัก ควรค่าแก่การถูกรักและฉันเองก็จะสู้เพื่อพวกคุณเสมอ” ซึ่งสปีชครั้งนี้ของ Lady Gaga เป็นการสะท้อนถึงการไม่เห็นด้วยกับนโยบายใหม่ของสหรัฐฯ หลัง Donald Trump ขึ้นรับตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม ในอัลบั้ม MAYHEM นี้ Lady Gaga ได้เผยถึงเบื้องหลังว่า “อัลบั้มนี้เป็นการเผชิญหน้ากับความกลัวที่มีในการกลับมาทำเพลงป๊อปสไตล์เก่าที่แฟนๆ ชื่นชอบ เหมือนกับการผสานกระจกที่เคยแตกร้าวเป็นเสี่ยงๆ ให้กลับมาเหมือนเดิม ถึงแม้จะไม่สามารถประกอบกลับมารวมกันอย่างสมบูรณ์แบบ แต่ก็สามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ที่สวยงามสมบูรณ์แบบในตัวเองได้” ซึ่งเธอได้เผยว่าอัลบั้มนี้เต็มไปด้วยความรักในดนตรีของเธอผสมผสานแนวเพลง สไตล์ และความฝันเข้าไว้ด้วยกัน รวมทั้งเป็นการรำลึกถึงการตัดสินใจผิดพลาดที่ผ่านมาทั้งหมดในชีวิตแต่สุดท้ายทั้งหมดก็จบลงด้วยความสุข โดยล่าสุดอัลบั้ม MAYHEM ได้ถูกเสนอชื่อเป็นอัลบั้มยอดเยี่ยมประจำเดือนจากเว็บไซต์ Grammys อย่างเป็นทางการ
Good Luck, Babe! by Chappell Roan
ศิลปินดาวรุ่งเจ้าของรางวัล Grammys สาขา Best New Artist ผู้มีความขบถและมักปรากฏตัวในลุคที่โดดเด่นอยู่เสมอจนสื่อใหญ่ต่างเรียกเธอว่า Queer pop superstar in the making ด้วยสไตล์ดนตรีที่จัดจ้านไม่แพ้การแต่งตัว โดยเธอนิยามตัวเองว่าเป็น Queer ผ่านสไตล์ที่สุดโต่งเสมือนแต่งแดร็กควีนขึ้นโชว์ เป็นความจริงที่ Roan คลุกคลีกับวงการแดร็กควีนมาแต่ไหนแต่ไร ตั้งแต่ก่อนหน้าที่เธอจะโด่งดังเธอมักพาศิลปินแดร็กควีนในท้องถิ่นมาร่วมแสดงคอนเสิร์ตอยู่บ่อยครั้งจนกลายเป็นธรรมเนียมที่ยังคงปฏิบัติมาจนถึงทุกวันนี้ นับเป็นการแสดงออกถึงการสนับสนุนกลุ่ม LGBTQ+ ให้มีความกล้าและภาคภูมิใจในสิ่งที่เป็น โดย Roan มองว่าธรรมเนียมการเปิดโชว์ของเธอที่มักมีเหล่าแดร็กควีนมาร่วมเป็นการนำเสนอตัวตนที่เปี่ยมไปด้วยสีสัน แต่ในขณะเดียวกันก็ฉายภาพอันงดงามที่แฝงไปด้วยความพิศวงในแบบที่เธอต้องการ นอกจากนี้ เธอยังเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่ศิลปินผ่านสปีชบนเวที Grammys ขณะรับรางวัล “ฉันเคยบอกกับตัวเองว่าถ้าฉันได้รางวัล Grammys และได้ยืนต่อหน้าผู้คนที่มีอิทธิพลที่สุดในวงการดนตรี ฉันจะเรียกร้องให้ค่ายเพลงต่างๆ ในอุตสาหกรรมที่แสวงหากำไรจากศิลปินเป็นเงินหลายล้านดอลลาร์ เสนอค่าจ้างที่พอเลี้ยงชีพในด้านการดูแลสุจภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับศิลปินที่กำลังพัฒนา” นับเป็นอีกหนึ่งศิลปินน่าจับตามองขวัญใจ Gen Z ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั้งยังมีความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนวงการเพลงและสังคมไปพร้อมๆ กัน
Short n’ Sweet by Sabrina Carpenter
อีกหนึ่งศิลปินมาแรงขวัญใจ Gen Z กับเพลงฮิตทั่วบ้านทั่วเมืองอย่างอัลบั้ม Short n’ Sweet ที่คว้ารางวัลสาขา Best Pop Vocal Album บนเวที Grammys ครั้งที่ 67 Sabrina Carpenter ถูกยกให้เป็นหนึ่งในศิลปินที่มีอิทธิพลมากที่สุดบนโลกโซเชียล ด้วยแนวทางการทำเพลงเปรียบเสมือนตัวแทนของคน Gen Z ที่หยิบจับเรื่องราวความรัก ความเจ็บปวด การค้นพบตัวตน หรือประเด็นทางสังคม อาทิ สิทธิของ LGBTQ+ มาเล่าผ่านบทเพลงได้อย่างกลมกลืนและเป็นธรรมชาติ โดยจุดเริ่มต้นการเป็นศิลปินอย่างจริงจังของ Sabrina มาจากการเบนสายจากนักแสดงตั้งแต่เด็กมาแจ้งเกิดในฐานะศิลปินอย่างเต็มตัวผ่านผลงานแรกในปี 2014 เรื่อยมาจนถึงปี 2024 ที่ผลงานของเธอโด่งดังถึงขั้นสุดกับเพลง Espresso ที่ส่งให้เธอคว้ารางวัลสาขา Song of the Year ในงาน MTV Video Music Awards และเป็นเพลงที่สองบนหน้าประวัติศาสตร์ Spotify ที่ทำยอดสตรีมเกิน 2,000 ล้านครั้ง นอกจากความสามารถด้านดนตรีแล้วอีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ สไตล์การแต่งตัวที่มีความเซ็กซี่แฝงความขี้เล่นในเวลาเดียวกัน ซึ่ง Sabrina เป็นหนึ่งในศิลปินที่ส่งเสริมให้ผู้หญิงมั่นใจใน Sexuality ของตนเอง โดยเธอเคยออกมาตอกกลับโปรดิวเซอร์ที่กล่าวหาเรื่องการแต่งกายของเธอ “ศิลปินหญิงถูกเชมมาตลอด ยุค 00s ก็ Rihanna ยุค 90s ก็ Britney Spears ยุค 80s ก็ Madonna และตอนนี้ก็ฉัน คนที่ทำให้ฉันละอายใจไม่เห็นออกมาพูดถึงการที่ฉันดูแลตัวเอง หรือแสดงความมั่นใจในร่างกายของฉัน พวกเขาเอาแต่พูดถึงด้าน Sexual ของโชว์ฉัน” นับเป็นไม่กี่ศิลปินหญิงที่กล้าออกมาเรียกร้องถึงสิทธิการแต่งกายที่เธอควรได้รับโดยที่ไม่สมควรถูกวิจารณ์
Alligator Bites Never Heal by Doechii
นาทีนี้คงต้องพูดถึงศิลปินแร็ปเปอร์สาวผิวดำที่กำลังมาแรงอย่าง Doechii เจ้าของรางวัล Best Rap Album จากผลงาน Alligator Bites Never Heal ผลงานที่ฉีกสไตล์เดิมของเธอมาสู่ซาวน์ดนตรีแบบ Old School Hip Hop ที่แฝงกลิ่นอาย R&B ผสมกับบีตสไตล์ Modern จนติดส่งให้พุ่งทะยานติด Top 10 บน Billboard’s R&B/Hip-Hop Albums Chart โดยการที่เธอคว้ารางวัลสาขา Best Rap Album ส่งให้ Doechii เป็นศิลปินแร็ปเปอร์หญิงผิวดำคนที่ 3 ต่อจาก Lauryn Hill ที่คว้าไปในปี 1999 และ Cardi B ศิลปินหญิงผิวดำคนที่สองที่คว้าไปในปี 2019 และเป็นผู้มอบรางวัลนี้ให้แก่ Doechii โดยเธอได้กล่าวขณะรับรางวัลว่า “แด่ผู้หญิงผิวสีทุกคนที่กำลังดูฉันอยู่ ฉันอยากบอกพวกคุณว่าคุณทำได้ ทุกอย่างเป็นไปได้ อย่ายอมให้ใครมาตัดสินว่าคุณอยู่ตรงจุดนี้ไม่ได้เพียงเพราะคุณเป็นผิวสี คุณเก่งไม่พอ หรือคุณเรียกร้องมากเกินไป คุณมีสิทธิ์ที่จะยืนในจุดที่อยากจะยืน และฉันคือตัวอย่างนี่ไง” สปีชที่อุทิศแด่ผู้หญิงผิวสีทุกคนที่ต้องการเดินตามความฝัน นับเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ต่อเนื่องจากปี 2019 สำหรับศิลปินแร็ปเปอร์ผิวดำ อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือในอัลบั้มนี้ Doechii ได้ปรับเปลี่ยนสไตล์การแต่งตัวใหม่จนแฟชั่นนิสต้าต่างยกย่องให้เธอเป็นแฟชั่นไอคอนหน้าใหม่ที่จะมาสร้างสีสันให้กับวงการแฟชั่น เธอได้ทำผลงานคอแลบอเรชั่นร่วมกับ Jennie Kim ในชื่อ ExtraL ที่ยอดวิวพุ่งเกือบ 10 ล้านในเวลาไม่ถึง 1 วัน ถือเป็นอีกศิลปินหญิงที่กำลังมาแรงอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด Doechii คว้ารางวัล Billboard Woman of the Year ประจำปี 2025 หลังจากที่คว้ารางวัล Rising Star Award มาแล้วในปี 2023 ส่งให้เธอเป็นศิลปินหญิงคนที่ 3 ที่ก้าวกระโดดจากรางวัล Rising Star Award มาสู่ Woman of the Year ต่อจาก Lady Gaga และ Ariana Grande
RUBY by Jennie Kim
เจ้าของผลงานคอแลบอเรชั่นร่วมกับ Doechii ที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอเองก็กำลังรุ่งอย่างต่อเนื่องจากการปล่อยเพลงไหนก็พุ่งทะยานขึ้นท็อปชาร์ตทั่วโลก โดยเมื่อต้นปีเจนนี่ได้คว้ารางวัล Global Force ในงาน Billboard Women In Music Awards ประจำปี 2025 หนึ่งในงานที่เชิดชูเหล่าศิลปินหญิงผู้ไม่เคยหยุดพัฒนาตนเองและเป็นแรงบันดาลใจให้แก่วงการดนตรี โดยไม่นานมานี้เธอได้ทำผลงานเพลงมากมายและหนึ่งในเพลงที่ถูกพูดถึงมากที่สุดจากอัลบั้ม RUBY อย่าง ZEN เพลงเปิดอินโทรอัลบั้มที่เจนนี่ทำเอ็มวีเพื่อซัปพอร์ตผู้หญิงด้วยกันจากการแฝงแรงบันดาลใจผ่านสัญญะต่างๆ ในเอ็มวีที่สื่อถึงตำนานเทพีอธีนา และล่าสุดกับคอนเสิร์ตเดี่ยวเดบิวต์อัลบั้ม RUBY ที่เธอได้รับกระแสวิจารณ์การแต่งตัว แม้จะเกิดกระแสวิพากษ์ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเจนนี่ก็ยังคงประสบความสำเร็จกับอัลบั้มเดี่ยวชุดนี้อย่างล้นหลาม หลังจากกวาดกระแสบนโลกโซเชียลไปอย่างท่วมท้น ล่าสุดเจนนี่ได้ปล่อยมิวสิกวิดีโอเพลง Handlebars อีกหนึ่งผลงานคอแลบอเรชั่นร่วมกับ Dua Lipa ที่เล่าถึงความสัมพันธ์ที่ไม่เกรงกลัวกับความผิดหวังเพราะใช้ความรักและความรู้สึกนำทางผสานเข้ากับทำนองที่มีความโรแมนติกพร้อมจังหวะชวนโยก
Alter Ego by Lisa
ขอปิดท้ายไปกับศิลปินหญิงที่ทรงอิทธิพล ณ ขณะนี้กับ 'ลิซ่า-ลลิษา' ที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2024 และเปิดศักราชใหม่ 2025 กับการเดบิวต์บทบาทใหม่ในฐานะนักแสดงจากซีรี่ส์ The White Lotus ที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากจากฝีมือการแสดงครั้งแรกที่น่าประทับใจ จนขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในศิลปิน All Rounder ของวงการโดยเฉพาะฝีมือการแสดง Performance บทเวทีที่ได้เฉิดฉายมาตั้งแต่ปี 2024 อย่างการแสดงโชว์ในงาน MTV Video Music Awards และรันเวย์นางฟ้า Victoria’s Secret ที่เป็นกระแสบนโลกโซเชียล และล่าสุดกับการขึ้นแสดงโชว์บนเวทีประกาศรางวัลอันทรงเกียรติของอุตสาหกรรมภาพยนตร์อย่าง Oscars ลิซ่านับเป็นคนไทยคนที่สองต่อจาก 'แก้ม-วิชญาณี' ที่ได้ขึ้นโชว์บนเวทีประกาศรางวัลระดับโลก โดยครั้งนี้ได้แสดงร่วมกับ Doja Cat และ Raye ที่ปล่อยเพลงร่วมกันในชื่อ BORN AGAIN และตามมาด้วยความสำเร็จจากผลงานอัลบั้มเดี่ยวในปีนี้อย่าง Alter Ego ที่สร้างประวัติศาสตร์มียอดสตรีมทะลุ 1 พันล้านวิวบน Spotify หลังจากนั้นไม่นานเกินรอเธอก็ได้ปล่อยซิงเกิลแรกจากอัลบั้มชุดนี้ FXCK UP THE WORLD เพลงที่สะท้อนตัวตนหนึ่งในห้าของลิซ่าในชื่อ VIXI คาแร็กเตอร์ที่เต็มไปด้วยพลัง ความท้าทาย และความบ้าคลั่งที่พร้อมจะทำลายทุกสิ่ง และยิ่งสะท้อนตัวตนของวายร้ายผ่านเนื้อเพลงแร็ปที่ดุดัน นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้นเพราะยังเหลืออีกสี่คาแร็กเตอร์ที่แฟนๆ ต่างรอคอยและจะส่งให้ Alter Ego เป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ครั้งใหญ่ของวงการเพลงระดับสากล
ในช่วงเวลาที่วงการเพลงสากลกำลังเปลี่ยนแปลงและเต็มไปด้วยความหลากหลาย ศิลปินหญิงเหล่านี้ได้พิสูจน์ถึงความสำคัญในการขับเคลื่อนทิศทางใหม่ๆ ของวงการด้วยสไตล์ดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์และการแสดงออกที่กล้าทลายกรอบดั้งเดิม พวกเธอไม่เพียงแค่สร้างผลงานที่โดดเด่นในแง่ของดนตรีแต่ยังเป็นแรงบันดาลใจยิ่งใหญ่ให้กับวงการผ่านการสะท้อนความเป็นจริงในสังคม เรียกได้ว่าศิลปินหญิงเหล่านี้ขับเคลื่อนทั้งวงการเพลงและสังคม และเป็นข้อเท็จจริงที่ว่าศิลปินหญิงในยุคนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้สร้างสรรค์ผลงานเท่านั้นแต่ยังเป็นผู้ที่เปลี่ยนแปลงและสร้างแรงกระเพื่อมให้แก่วงการดนตรีในทุกๆ ด้านอย่างแท้จริง
สามารถตามไปอ่านบทความ VOGUE SCOOP เพิ่มเติมได้ ที่นี่
กราฟิก: สุกฤตา ว่องวัฒนพิบูลย์
WATCH