ลองตลาดใหม่หรือกู้วิกฤติ...เมื่อ SM Entertainment พร้อมเดบิวต์บอยแบนด์สัญชาติอังกฤษทั้งวง!

     ถือเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่ดีที่ความหลากหลายในอุตสาหกรรมเพลงเริ่มมีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในแง่ของแนวเพลงหรือแม้แต่สัญชาติของศิลปินที่ผู้คนทั้งโลกล้วนได้เห็นกันมาหนาตาว่า ศิลปินจากชาติต่างๆ เริ่มเข้ามามีบทบาทในวงการดนตรีกันมากขึ้น ทั้งยังเห็นความร่วมมือกันระหว่างศิลปินต่างสัญชาติมาอย่างนับไม่ถ้วน รวมถึงการก้าวข้ามวัฒนธรรมของชาติตะวันตกและฝั่งตะวันออกมาผสานเป็นผลงานหนึ่งเดียว เพื่อสร้างความแตกต่างและนำเสนอวัฒนธรรมของแต่ละพื้นเมืองได้อย่างน่าสนใจ ไม่เพียงแต่ฝั่งตะวันตกที่เปิดกว้างมากขึ้น เพราะฝั่งตะวันออกก็เริ่มโอบรับวัฒนธรรมที่แตกต่างอย่างกว้างขวางเช่นกัน

     หลายค่ายเพลงของแต่ละชนชาติเริ่มขยายขอบเขตในการทำเพลงมากยิ่งขึ้น หนึ่งในนั้นคือต้นสังกัดยักษ์ใหญ่แห่งประเทศเกาหลีใต้ ‘SM Entertainment’ ผู้ผลิตศิลปินที่มากคุณภาพให้เป็นที่ประจักษ์บนสายทางดนตรีมานักต่อนักร่วมกว่า 3 ทศวรรษ แรกเริ่มเดิมทีค่ายเพลงนี้ยังคงเน้นผลิตศิลปินสัญชาติเกาหลีเพื่อสร้างสรรค์ผลงานเพลงให้แก่ผู้ฟังในประเทศเป็นส่วนใหญ่ ทว่าเวลาล่วงเลยมาตามยุคสมัยก็มีการปั้นศิลปินต่างสัญชาติมากขึ้นผสมกันไปกับสัญชาติเจ้าบ้านเพื่อตีตลาดให้ทั่วโลกได้เป็นที่รู้จักมากขึ้น แต่นั่นมันก็มีแต่เหล่าคนเอเชียทั้งสิ้น นี่จึงเป็นการสร้างเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ที่เอสเอ็มตัดสินใจเตรียมเดบิวต์ศิลปินบอยแบนด์สัญชาติอังกฤษทั้งวงอย่าง ‘Dear Alice’ ที่ผู้คนให้ความสนใจตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา เมื่อต้นสังกัดได้ประกาศข่าวดังกล่าวออกมาอย่างเป็นทางการ

 

     บอยแบนด์สัญชาติอังกฤษ 'Dear Alice' ที่เตรียมเดบิวต์ในค่าย SM Entertainment /  ภาพ: RBG.ID

     โดยเอสเอ็มประกาศร่วมงานกับ Kakao Entertainment America และ บริษัทบันเทิงสัญชาติอังกฤษอย่าง Moon & Back Media ที่นำโดยไนเจล ฮอลล์ โปรดิวเซอร์รายการแข่งขันชื่อดังของอังกฤษ อาทิ Britain's Got Talent และ The X Factor นอกจากนี้ยังจะเดบิวต์ผ่านสารคดีชุดทั้งหมด 6 ตอนภายใต้ชื่อ “Made in Korea: The K-pop Experience” เกี่ยวกับการเดินทางของเด็กหนุ่มจากอังกฤษทั้ง 5 คนที่เข้ามาเป็นเด็กฝึกหัดของต้นสังกัดเอสเอ็มเป็นเวลา 100 วันเพื่อต้องการเดบิวต์เป็นศิลปินไอดอล ซึ่งสมาชิกวงมี 5 คนประกอบไปด้วย Blaise Noon, Dexter Greenwood, James Sharp, Olly Quinn และ Reese Carter

     เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาแน่นอนว่าเมื่อเอสเอ็มปล่อยคลิปของทั้งห้าหนุ่มผ่านช่องทาง X ในบัญชีอย่างเป็นทางการ ก็ได้กระแสตอบรับอย่างล้นหลามซึ่งส่วนใหญ่เอนไปในทิศทางบวก เพราะนี่ถือเป็นครั้งแรกของค่ายและอุตสาหกรรมเพลงเกาหลีใต้ที่หันมาจับกระแสในฝั่งตะวันตกด้วยการเลือกตัวละครจากฟากนั้นเสียเอง เพื่อเป็นการผสานรอยต่อทางวัฒนธรรมของเคป๊อปที่นำเสนอผ่านเชื้อชาติตะวันตกให้มีความกลมกลืนและยั่งยืนที่สุด นี่จึงถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่น่าสนใจเพราะนอกจากจะกวาดฐานแฟนคลับจากฝั่งตะวันตกได้แน่นอนแล้ว ยังถือเป็นการหยั่งเชิงให้แฟนๆ จากแดนกิมจิค่อยๆ ซึมลึกจากศิลปินต่างชาติผ่านวัฒนธรรมดั้งเดิมของพวกเขาที่มีมาตั้งแต่ต้น

 

  บอยแบนด์สัญชาติอังกฤษ 'Dear Alice' ที่เตรียมเดบิวต์ในค่าย SM Entertainment /  ภาพ: Sanook

     ทว่าก็มีอีกกระแสหนึ่งที่เหมือนเป็นการตั้งคำถามเสียมากกว่า ที่เอสเอ็มเริ่มหันเปลี่ยนรูปแบบการผลิตศิลปินด้วยการดึงเอาศิลปินต่างชาติมาเป็นตัวละครหลักเช่นนี้ เนื่องจากตัวเลขในอุตสาหกรรมเคป๊อปของแต่ละค่ายเริ่มถดถอยลง กล่าวคือเลขหุ้นการลงทุนเริ่มร่วงไปเป็นระยะๆ ไม่ใช่เพียงแค่ค่ายใดค่ายหนึ่งเท่านั้น แต่เป็นการร่วงลงไปตามๆ กันแต่จะมากหรือน้อยก็ยังขึ้นอยู่กับความนิยมและด้านการบริหารภายในต่อไป ซึ่งสาเหตุที่กระแสเคป๊อปเริ่มซบเซาลงไม่เปรี้ยงปร้างเท่าตอนแรกเพราะผู้คนบางส่วนเริ่มมองว่าวิธีการนำเสนอผลงานเพลงเริ่มซ้ำกับที่ผ่านมา ไม่ค่อยมีอะไรดึงดูดใจหรือมีสิ่งแปลกใหม่เพิ่มเติม หลายคนจึงอดสงสัยไม่ได้ว่านี่อาจเป็นอีกหนึ่งเหตุผลหรือเปล่าที่เอสเอ็มเริ่มรู้สึกตัว และหันมาจับทางใหม่ในวงการเพลงเพื่อให้เป็นจุดสนใจมากขึ้น แม้จะต้องฝ่าฟันกระแสของชาตินิยมอันแข็งแกร่งของเกาหลีใต้ก็ตาม

     แต่ผู้เขียนกลับมองว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะนี่เหมือนเป็นการพัฒนาและการก้าวต่อของอุตสาหกรรมเพลงเคป๊อปที่ไม่จำเป็นต้องมีแต่ศิลปินจากสัญชาติเจ้าบ้านเสมอไป ถึงแม้จะมีเหล่าศิลปินจากสัญชาติอื่นๆ(ส่วนใหญ่มาจากเอเชีย)มานานร่วมทศวรรษแล้วก็ตาม ทว่ามันคือสิ่งที่ฉีกกรอบไปจากเดิมที่ต้นสังกัดกล้าที่จะเลือกศิลปินสัญชาติจากฝั่งมหาอำนาจมาเป็นตัวแปรสำคัญเพื่อทวีคูณความแข็งแกร่งของเพลงเคป๊อปมาผสานความหลากหลายทางภาษาเข้าด้วยกัน จนสามารถเกิดเป็นความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ และอาจกลายเป็นการกรุยทางให้แก่ความลื่นไหลทางวัฒนธรรมอย่างแท้จริง ทีนี้ผู้อ่านก็ต้องมาจับตามองกันต่อไปว่าเมื่อผลงานได้ถูกปล่อยออกมาแล้ว กระแสจะสังคมจะโอบรับอย่างที่ผู้คนทั้งโลกหวังไว้หรือไม่...