ปรับผังภูมิทัศน์แห่งอารมณ์ขันเสียใหม่ เมื่อ Awkwafina ดาวตลกแห่งเอเชียก้าวไกลไปกว่าเสียงหัวเราะเดิมๆ

     “ฉันจำได้ว่าเคยสมัครเพื่อทำงานกับฝรั่งเจ้าของภาษา แต่เขาปฏิเสธเพราะไม่ต้องการคนเอเชียสำหรับตำแหน่งนี้” Awkwafina เผยถึงความเกลียดชังที่จับต้องได้ซึ่งเธอเคยเผชิญมาก่อน กว่าจะมาเป็นแร็ปเปอร์และนักแสดงตลกที่โด่งดัง หญิงเก่งวัย 33 ปีคนนี้ต้องเผชิญเส้นทางที่โหดร้ายมากมาย ชื่อจริงของเธอคือ Nora Lum แม้เธอจะเกิดและเติบโตในอเมริกา แต่บรรพบุรุษของเธอคือชาวเอเชียที่อพยพข้ามน้ำข้ามทะเลมา ปู่ทวดของเธอเดินทางมาจากจีน ในขณะที่ตระกูลฝั่งแม่เดินทางมาจากเกาหลี เธอคือลูกผสมของเชื้อชาติตะวันออกที่เติบโตในวัฒนธรรมแบบคนตะวันตก เธอเคยเดินทางกลับไปเรียนต่อที่จีน แต่กลับพบว่าตนเองไม่เหมาะกับที่นั่น “ตลอดชีวิตมีแต่คนบอกฉันว่าเธอต้องกลับไปที่นั่น แต่พอกลับไปฉันกลับพบว่านี่ไม่ใช่บ้านของฉันเลย ฉันรู้สึกเหมือนคนล้มเหลว”

Ocean's 8

     นอราใช้ชื่ออะควาฟินาเป็นชื่อสำหรับการแสดงครั้งแรกเมื่ออายุ 15 ปี หลังจากเธอเริ่มต้นร้องเพลงแรปตอนอายุ 13 และทำเพลงเองสมัยเรียนมัธยม เธอทุ่มเทให้ดนตรีแนวนี้ จนกระทั่งเริ่มเป็นที่รู้จักใน YouTube แต่เส้นทางของเธอก็ไม่ง่ายนัก เพราะอะควาฟินาเคยถูกไล่ออกจากงานหลังจากที่เจ้านายเห็นวิดีโอเพลงแรปของเธอ (เพราะมันมีคำหยาบคายและเนื้อหาที่ตรงไปตรงมา) แต่นั่นก็ทำให้เธอมุ่งมั่นมากยิ่งขึ้น เริ่มทำรายการวิดีโอขนาดสั้น และแววของการเป็นพิธีกรและนักแสดงตลกก็เริ่มต้นขึ้น

Crazy Rich Asians

     อะควาฟินาร่วมแสดงในหนังฮอลลีวู้ดเรื่องแรก Bad Neighbours 2 ก่อนจะประกบนักแสดงหญิงแถวหน้ามากมายใน Ocean’s 8 และดังเป็นพลุแตกในหนังโรแมนติกเบาสมอง Crazy Rich Asians เธอปรากฏตัวในภาคต่อของ Jumanji พากย์เสียงในหนังดิสนีย์ Raya and the Last Dragon รวมถึงนำแสดงในหนังมาร์เวลฟอร์มยักษ์ Shang-Chi and the Legend of Ten Rings ดูเหมือนไม่มีอะไรจะหยุดความแรงของเธอในแวดวงภาพยนตร์ได้แล้ว จากบทตัวประกอบสู่บทนักแสดงนำ อะควาฟินาได้พิสูจน์แล้วว่าเธอมีฝีมือมากกว่าแค่ด้านตลก

The Farewell

     ภาพยนตร์ที่ทำให้อะควาฟินาถูกมองในฐานะนักแสดงอย่างเต็มตัวคือ The Farewell (2019) หนังที่ถ่ายทอดความผูกพันของหลานสาวกับอาม่าที่กำลังป่วยเป็นโรคร้าย ในชีวิตจริงเธอใกล้ชิดกับอาม่ายิ่งกว่าในหนัง เพราะสูญเสียคุณแม่ไปตั้งแต่ 4 ขวบ และถูกเลี้ยงดูโดยญาติผู้ใหญ่ อะควาฟินาเผยว่าอาม่ามีส่วนสำคัญในการใช้ชีวิตสำหรับเธอมาก “ฉันคุยกับอาม่าทุกวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำงานในอุตสาหกรรมนี้ คุณต้องปลูกฝังความมั่นคงด้านอื่นๆ ในชีวิต ฉันจึงพยายามใกล้ชิดกับครอบครัวให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้”