แนะนำ 5 แบรนด์หูฟังออกกำลังกายที่สายฟิตต้องมี
มาดู ‘หูฟังออกกำลังกาย’ ที่มีคุณสมบัติพิเศษตอบโจทย์ทุกกิจกรรมฟิต
กระแส Health Concious ยังคงเป็นกระแสหลักของโลกซึ่งผู้คนตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกรับประทานอาหาร หรือการออกกำลังกาย แต่แน่นอนว่าการออกกำลังกายนั้นคือการทำสิ่งเดิมๆ ซ้ำๆ หลายๆ ครั้ง เช่น การยกน้ำหนัก หรือการวิดพื้นก็ตาม หลายครั้งชวนให้เกิดความเบื่อหน่าย จังหวะเพลงระหว่างออกกำลังกายจึงช่วยให้การทำอะไรซ้ำๆ นั้นดูมีสีสันและเพลิดเพลินมากขึ้น ทว่าการออกกำลังกายนั้นหลีกเลี่ยงเรื่องเหงื่อ หรือความชื้นที่เป็นศัตรูกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หูฟังออกกำลังกายจึงต้องมีคุณสมบัติพิเศษเพื่อตอบรับการออกกำลังกาย วันนี้เรามี 5 แบรนด์ของหูฟังออกกำลังกายให้สายออกกำลังกายมาเลือกใช้กันได้ตามความต้องการ
ภาพ: T3.com
1. หูฟังออกกำลังกาย Bose Sport Earbuds
หูฟังออกกำลังกายที่ออกแบบมาเพื่อคนรักการออกกำลังกายโดยเฉพาะ ด้วยขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา สวมใส่กระชับแน่นหูแบบอินเอียร์ไม่ว่าจะออกกำลังกายโลดโผนเพียงใดก็ไม่หลุดง่ายแน่นอน ส่วนเรื่องเสียงนั้นโดดเด่นเรื่องเบสที่มีความหนักแน่น เสียงนุ่ม จับจังหวะง่าย ฟังสนุกทุกแนวเพลงตามสไตล์ Bose ตัวหูฟังมาพร้อมคุณสมบัติกันน้ำกันเหงื่อตามมาตรฐาน IPX4 มีไมโครโฟนในตัว สามารถรับเสียงพูดได้คมชัด ความอึดของแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้สูงสุด 15 ชั่วโมง (รวมเคสชาร์จ) ที่ขาดไม่ได้ของแบรนด์ Bose คือการรองรับการทำงานร่วมกับแอปพลิเคชั่น Bose Music สำหรับเข้าไปปรับตั้งค่าหูฟังได้อย่างละเอียด
ภาพ: lifeinthesaddle.cc, cfbbike.com
2. หูฟังออกกำลังกาย Shokz OpenRun
หูฟังออกกำลังกายแบบเปิดหู สวมใส่แบบคาดศีรษะ กระชับไม่หลุดง่าย สามารถออกกำลังกาย เคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างอิสระ หูฟังออกกำลังกายรุ่นนี้ใช้การนำเสียงแบบ Bone Conduction หรือการขับเสียงผ่านการสั่นสะเทือนเข้าสู่กระดูกแก้มนั่นเอง มาพร้อมกับฟังก์ชัjนที่หลากหลายทั้งเสียงที่คมชัด อีกทั้งยังสามารถได้ยินเสียงสภาพแวดล้อมรอบตัวได้ชัดเจนอีกด้วย เพื่อความปลอดภัยในการทำกิจกรรมในที่สาธารณะ เพิ่มเติมด้วยความสามารถในการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.1 ที่มีความเสถียร ดีเลย์น้อย ที่สำคัญสามารถจุ่มล้างน้ำได้แต่ไม่ถึงขั้นใส่ว่ายน้ำได้
WATCH
ภาพ: gadgetguy.com.au
3. หูฟัง Klipsch T5 II Sport
Klipsch T5 II Sport เป็นหูฟังออกกำลังกายที่มีความโดดเด่นเรื่องดีไซน์เป็นอย่างมาก ด้วยความเท่ของโทนสีที่มีคาแร็กเตอร์ มาพร้อมคุณสมบัติกันน้ำและฝุ่น IP67 เป็นความเท่ที่พร้อมลุยทุกสนาม นอกจากนี้ยังมีจุกหูฟังและ Ear fin ออกแบบพิเศษที่ช่วยล็อกตัวหูฟังให้แน่นกระชับหูตลอดเวลา ส่วนคุณภาพเสียงนั้นหายห่วงแน่นอน เพราะให้ในระดับมาตรฐานระดับสูง โดดเด่นด้วยเบสที่รุกเร้า นอกจากนี้ย่านเสียงกลางและแหลมยังคมชัดทุกรายละเอียด ทั้งยังมีไมค์รับเสียงสนทนา 4 ตัวที่มาพร้อมฟังก์ชั่นตัดเสียงรบกวนแทรก cVc 8.0 รับเสียงพูดได้ชัดเจน แบตเตอรี่อึดทนใช้งานลากยาวได้สูงสุดถึง 32 ชั่วโมง (รวมเคสชาร์จ)
ภาพ: eloutput.com
4. หูฟัง Sony LinkBuds WF-L900
Sony LinkBuds WF-L900 หูฟังออกกำลังกายทรงวงแหวนให้ความล้ำสมัยดูแปลกตา ซึ่งมีจุดเด่นที่การสวมใส่แบบเปิดโดยไม่ต้องยัดตัวหูฟังเข้าไปในรูหู ทำให้ผู้ใช้งานสามารถได้ยินเสียงรอบตัวตลอดเวลา แต่ไม่ได้หมายความว่าจะหลุดออกจากหูง่าย เพราะยังคงมีความแน่น กระชับ ไม่หลุดง่าย มาพร้อมคุณสมบัติกันน้ำกันเหงื่อได้ดี ควบคุมการทำงานอย่างง่ายดายด้วยระบบสัมผัส สำหรับเรื่องคุณภาพเสียงนั้นมวลเสียงมีความแน่นและชัดเจน ไม่บางแบน ผนวกกับฟีเจอร์ DSEE ช่วยเสริมคุณภาพเสียงให้ดีขึ้น อีกทั้งยังรองรับการสั่งงานด้วยเสียงอีกด้วย สามารถเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth 5.2 สัญญาณเสถียร ดีเลย์ได้น้อย และที่ขาดไม่ได้สำหรับแบรนด์นี้คือ รองรับการใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชั่น Sony | Headphones Connect สำหรับตั้งค่าการทำงานต่างๆ แบบละเอียด
ภาพ: Jabra.com
5. หูฟังออกกำลังกาย Jabra Elite 2
Jabra Elite 2 เป็นหูฟังออกกำลังกายราคาจับต้องได้ที่สุดของแบรนด์ แต่ผู้ใช้สามารถสัมผัสถึงฟังก์ชั่นที่จัดเต็มได้เหมือนรุ่นอื่นๆ ด้วยดีไซน์ที่ดูเรียบหรูพรีเมียม สวมใส่สบาย แน่นกระชับกำลังดี มาพร้อมกับคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่น IP55 สำหรับเรื่องคุณภาพของเสียงนั้น รุ่นนี้มีบาลานซ์เสียงที่ค่อนข้างดี ฟังได้ชัดเจนทุกย่านเสียง มีเบสที่กลมกล่อม สามารถเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.2 ได้ สัญญาณมีความเสถียร เมื่อดูหนังหรือฟังเพลงนั้นมีความดีเลย์น้อย นอกจากนี้ยังมีไมค์รับเสียงสนทนาที่คมชัด และสำหรับฟังก์ชั่นที่ขาดไม่ได้คือผู้ใช้สามารถปรับแต่งตั้งค่าการใช้งานได้ผ่านแอปพลิเคชั่น Jabra Sound+ แบตเตอรี่ใช้งานได้ต่อเนื่อง 7 ชั่วโมง ชาร์จจากเคสได้อีก 2 ครั้งอีกด้วย
ภาพ : cfbbike.com, Jabra.com
ข้อมูล : Mercular
WATCH