CHANEL สนับสนุนงานศิลปะสำคัญในเทศกาลหนังทดลองกรุงเทพฯ สานต่อปณิธาน Art and Culture อันแรงกล้า

     หนึ่งในพันธกิจสำคัญของแบรนด์ CHANEL บนหน้าประวัติศาสตร์กว่าศตวรรษที่ผ่านมาในโลกแฟชั่น ชาเนลไม่เพียงวางตัวเองเป็นเมซงแฟชั่นลักชัวรีที่สร้างสรรค์ผลงานด้านเสื้อผ้าเท่านั้น ทว่าชาเนลยังนับเป็นหนึ่งในเมซงแฟชั่นระดับเพชรยอดมงกุฎที่ช่วยส่งเสริมและสนับสนุนงานอาร์ตและคัลเจอร์เรื่อยมา เฉกเช่นเดียวกันกับในปี 2025 นี้ ที่ชาเนลยังคงแน่วแน่ในปณิธานที่ต้องการจะสนับสนุนศิลปะร่วมสมัยและบทสนทนาทางวัฒนธรรมอย่างต่อเนื่อง ด้วยการสนับสนุนกิจกรรมสำคัญ 3 กิจกรรม ในงานเทศกาลหนังทดลองกรุงเทพฯ ครั้งที่ 7 (BEFF7) ไม่ว่าจะเป็น การดื่มด่ำกับประสบการณ์เสมือนจริงของนิทรรศการ A Conversation with the Sun (VR) ตามมาด้วยงานเลี้ยงฉลองในบรรยากาศส่วนตัวให้กับผลงานของอภิชาติพงศ์ในการส่งเสริมภาพยนตร์ทดลอง และสุดท้ายคือการแสดง “บทสนทนา : ภาพสุดท้ายคล้ายหนัง” (An Encounter: The Last Thing You Saw That Felt Like a Movie) ที่ถูกนำเสนอโดย Tilda Swinton นักแสดงระดับโลก ผู้ซึ่งร่วมงานกับอภิชาติพงศ์มาอย่างยาวนาน และยังเป็นแอมบาสเดอร์ของแบรนด์ชาเนลอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนั้นเองที่ช่วยตอกย้ำภาพลักษณ์ของแบรนด์ชาเนลในฐานะของผู้สนับสนุนงานศิลปะร่วมสมัยและบทสนทนาทางวัฒนธรรมให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

 

     A Conversation with the Sun (VR)

 

     เริ่มต้นกันที่ผลงานนิทรรศการ A Conversation with the Sun (VR) โดย ‘เจ้ย-อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล’ หลังจากที่เคยได้รับการเปิดตัวมาแล้วครั้งหนึ่งในจังหวัดเชียงรายเมื่อปีที่ผ่านมา ในงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ ไทยแลนด์เบียนนาเล่ ประจำปี 2023 หนึ่งในผลงานชิ้นมาสเตอร์พีซของอภิชาติพงศ์ก็ถูกนำกลับมาแสดงในกรุงเทพมหานครเป็นครั้งแรก ณ  One Bangkok หลังจากที่โลดแล่นไปมาแล้วทั่วโลก กับการมอบประสบการณ์แบบสมจริงในรูปแบบมัลติมีเดีย ด้วยการผสมผสานเอาเทคโนโลยีเสมือนจริง (VR) การแสดง และภาพเคลื่อนไหว เข้าไว้ด้วยกันได้อย่างกลมกล่อมลงตัว สะท้อนถึงความคิดสร้างสรรค์ที่ทลายทุกพรมแดนแห่งงานศิลปะ เช่นเดียวกับอัตลักษณ์ของแบรนด์ชาเนลที่มักจะก้าวนำไปหนึ่งก้าวเสมอ

     A Conversation with the Sun (VR) ได้พาผู้ชมทุกคนเดินทางเข้าสู่โลกแห่งการสำรวจสมาธิ ที่ว่าด้วยแสง ความทรงจำ และวัฏจักรแห่งการดำรงอยู่ งานศิลปะดังกล่าวถูกเติมเต็มผ่านท่วงทำนองอันลุ่มลึกจากฝีมือการประพันธ์ของ Ryuichi Sakamoto ศิลปินญี่ปุ่นผู้ล่วงลับ เพื่อช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับประสบการณ์ที่สอดประสานไปกับท่วงท่วงทำนองเพลงอิเล็กทรอนิกส์และเพลงคลาสสิก ร่วมด้วย Katsuya Taniguchi ศิลปินชาวญี่ปุ่นที่มีความเชี่ยวาญด้านสื่อดิจิทัลภาพเคลื่อนไหว ที่ยังได้ร่วมเติมแต่งภูมิทัศน์ด้าน VR เพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างแสง เงา และความเคลื่อนไหว เพื่อยกระดับประสบการณ์ของประสาทสัมผัสโดยรวมของผู้ชมให้รู้สึกเหนือความคาดหมาย โดยผลงานดังกล่าวยังเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างบทสนทนาและจุดประกายการคิดต่อยอดของผู้ชมที่สามารถตีความออกมาได้หลากหลายรูปแบบ เชื่อมโยงตามแต่ประสบการณ์ชีวิตของแต่ละคน ในสภาวะของความจริง ความฝัน การดำรงอยู่ การปลดปล่อย และความตาย ซึ่งเป็นงานถนัดของอภิชาติพงศ์

 

     A Journey Through Memory, Light and Cinema

     จากความสำเร็จในการแสดงผลงานอีกครั้งของ เจ้ย-อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล ในประเทศไทย ชาเนลจึงได้จัดงานเฉลิมฉลองให้กับผู้กำกับภาพยนตร์มากความสามารถคนนี้ ณ Bangkok Kunsthalle เพื่อเป็นการยกย่องผลงานของอภิชาติพงศ์ และการนำเสนอนิทรรศการ A Conversation with the Sun (VR) เป็นครั้งแรกในกรุงเทพมหานคร ท่ามกลางแขกคนสำคัญ แบรนด์แอมบาสเดอร์ และเพื่อนคนสนิทของแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น Tilda Swinton, ออกแบบ-ชุเติมณฑ์ จึงเจริญสุขยิ่ง, เบ็คกี้-รีเบคก้า อาร์มสตรอง, ใบปอ-ธิติยา จิระพรศิลป์, แอลลี่-อชิรญา นิติพน, วาเลนติน่า พลอย, เจมส์-ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ และอีกมากมาย ทั้งนักสร้างภาพยนตร์ที่เคยได้ร่วมงานกับอภิชาติพงศ์ เรื่อยไปจนถึงกลุ่มศิลปินที่โลดแล่นอยู่ในวงการศิลปะและคัลเจอร์แขนงต่างๆ ที่เดินทางมาร่วมเฉลิมฉลองและพูดคุยถึงความรู้สึกของพวกเขาหลังจากได้สัมผัสประสบการณ์ผ่านผลงาน A Conversation with the Sun (VR) ด้วยตัวเอง

     งานเลี้ยงฉลองดังกล่าวที่ได้ระบการสนับสนุนโดยชาเนล ไม่ใช่เพียงงานเลี้ยงฉลองเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ทว่างานเลี้ยงฉลองดังกล่าวยังนับเป็นการเฉลิมฉลองให้กับการเดินทางของผลงานและความสำเร็จของอภิชาติพงศ์ตลอดหลายปีที่ผ่านมา และยังเป็นการสร้าชุมชนศิลปินในไทยเพื่อปักหมุดหมาย ขยาย และต่อยอดพัฒนาขอบเขตอุตสาหกรรมภาพยนตร์และศิลปะร่วมสมัยหลายแขนงในประเทศไทย ให้กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกอีกด้วย

 

     An Encounter: The Last Thing You Saw That Felt Like a Movie

     ยังไม่จบเพียงเท่านั้น เพราะในวันต่อมาแขกคนพิเศษของชาเนลหลายคนยังได้ร่วมสัมผัสประสบการณ์ที่ยากจะลืมอีกครั้ง ด้วยการเป็นส่วนหนึ่งของรอบเปิดการแสดง "บทสนทนา: ภาพสุดท้ายคล้ายหนัง (An Encounter: The Last Thing You Saw That Felt Like a Movie)" ที่สนับสนุนโดยชาเนล ซึ่งถูกนำเสนอโดย เจ้ย-อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล และ Tilda Swinton โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน นั่นคือการแสดงสดของ Tilda Swinton โดยการกำกับของอภิชาติพงศ์ ซึ่งนับเป็นหนึ่งในเพอร์ฟอร์แมนซ์ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ชมได้มากที่สุดครั้งหนึ่ง ด้วยการผสานรวมฝีมือการแสดงสดระดับพระกาฬของนักแสดงระดับโลก ตัดสลับพร้อมกับคลังภาพยนตร์เก่า ร้อยเรียงจนเกิดเป็นรูปแบบการแสดงอันทรงพลัง และนับเป็นผลงานที่ก้าวกระโดดไปมากกว่าการจะถูกจำกัดนิยามว่า ‘ภาพยนตร์’ อย่างที่เราคุ้นชินกันได้

 

 

 

 

 

 

ดูโพสต์นี้บน Instagram

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

โพสต์ที่แชร์โดย Vogue Thailand (@voguethailand)

     

     ก่อนที่ ก้อง ฤทธ์ดี จะขึ้นมาทำหน้าที่พาผู้ชมทุกคนเข้าสู่ช่วงของการเสวนา เพื่อถ่ายทอดวิสัยทัศน์ด้านการสร้างสรรค์ผลงานของ เจ้ย-อภิชาติพงศ์ และ Tilda Swinton ผ่านบทสนทนาเชิงลึกเกี่ยวกับงานสร้างสรรค์ ภาพยนตร์ ศิลปะ และบทกวี ซึ่งยังถือเป็นครั้งแรกๆ ในประเทศไทยที่สามารถรวบรวมเอาศิลปะแขนงกวีนิพนธ์มาไว้ร่วมกันได้บนเวทีเสวนาเดียวกัน ผ่านบทกวีที่กล่าวถึงความตาย เชื่อมโยงกับผลงานของอภิชาติพงศ์ ซึ่งมักจะถูกกลั่นกรองออกมาจากความสามารถที่ลึกซึ้ง ซึ่งพร่าเลือนเส้นแบ่งระหว่างความจริงและความฝัน ส่งต่อให้ผู้ชมได้คิดและสำรวจความหมายแห่งการดำรงอยู่ผ่านงานศิลปะของเขา พร้อมทั้งยังส่งต่อแรงบันดาลใจสู่คนรุ่นใหม่ เพื่อจุดประกาย เพื่อบ่มเพาะ และเพื่อรักษากลุ่มศิลปิน และผู้สร้างภาพยนตร์รุ่นใหม่ๆ ดังที่แบรนด์ชาเนลยังคงสานต่อปณิธานของ Gabrielle CHANEL ที่ต้องการยกย่องพลังแห่งภาพยนตร์และศิลปะ ที่จะสามารถจรรโลงและสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับสังคมได้ต่อไป

      (สามารถตามไปอ่านเรื่องราวเพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การเดินทางของการสนับสนุน Art and Culture ของแบรนด์ CHANEL ได้ที่ VOGUE SCOOP | ย้อนปณิธานของ ‘Chanel’ ผู้ผนวกศิลปะและแฟชั่นเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมายาวนานกว่าศตวรรษ)