Moschino แบรนด์ในดวงใจของใครหลายคน ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสนุกสนาน และการจับคู่สีสันได้อย่างลงตัว เปิดตัวคอลเล็กชั่นเสื้อผ้าผู้ชายใหม่ล่าสุดประจำฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน ปี 2025 ในช่วงสัปดาห์ที่สำคัญอย่าง มิลานแฟชั่นวีก นับว่าคอลเล็กชั่นนี้เป็นคอลเล็กชั่นแรกของ ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ Adrian Appiolaza ที่ออกแบบเครื่องแต่งกายของบุรุษอันมีเรื่องราวเบื้องหลังเกี่ยวกับอัตชีวประวัติของเอเดรียน เนื่องจากงานแรกในประเทศอาร์เจนตินา เขาได้ทำงานในบริษัทประกันภัยที่เจ้านายบังคับให้เขาใส่สูทของบริษัทอยู่เสมอซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเศร้าและน่าเบื่อหน่ายสำหรับเอเดรียนอย่างมาก เขาจึงมีความมุ่งมั่นในการทำงานเพื่อเดินทางไปลอนดอนแล้วก็ปารีสถัดไปเป็นมิลาน คอลเล็กชั่นนี้จึงมีคอนเซปต์ว่า “lost and found” ที่สะท้อนถึงการเดินทางและการค้นพบ เอเดรียนสร้างคาแร็กเตอร์ให้กับโมชิโน ให้เป็นผู้สำรวจและผู้ค้นหามุมมองใหม่ๆด้วยความรู้สึกเป็นอิสระเสรี

     บนรันเวย์มีกระเป๋าเดินทางหลากสีหลายรูปทรงวางซ้อนกันอย่างไม่ตั้งใจ และถ้ามองไปดีๆจะเห็นว่าเป็นกระเป๋าเดินทางทั้งแบบโมเดิร์นและแบบวินเทจ พร้อมเปิดโชว์ด้วยเครื่องแต่งกายสไตล์ออฟฟิศ แล้วในลุคต่อๆไปก็เป็นการแต่งกายสไตล์ออฟฟิศแต่เพิ่มสัมผัสที่แปลกใหม่มากขึ้นเรื่อยๆเมื่อโชว์ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง จะมีหลายชุดสไตลิ่งด้วย ชุดสูทที่อัดแน่นไปด้วยสิ่งของที่จำเป็นสำหรับชาวออฟฟิศ ตกแต่งด้วยช่องกระเป๋าหลายสิบช่อง คีย์การ์ด ปากกา โทรศัพท์ บัตรเครดิต และอื่นๆ และชุดทำงานที่ดูเกือบทางการ แต่สวมเครื่องประดับกล้วย ไข่ดาว และครัวซองก์ที่เหล่านี้อันเป็นสัญลักษณ์ของอาหารเช้า สังเกตอย่างละเอียดจะเห็นได้ว่า ส่วนใหญ่จะปรากฏในรูปแบบของเครื่องประดับที่สามารถถอดแยกชิ้นส่วนได้ ลองนึกถึง เข็มกลัดกล้วยบนชุดสูท หมวกใบเล็กซ้อนกันหลายใบ และสร้อยคอมุกที่ติดกับครัวซองก์

     แน่นอนว่า DNA ของโมชิโนนั้นมักมีการเสียดสีเล่นตลกอยู่เสมอ อาทิการอ้างอิงถึงชีวิตประจำวันของชาวอิตาลีอย่างชัดเจน ทั้งวัฒนธรรม อาหาร และฟุตบอลซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในอิตาลี ผสานเฉดสี ธงสีแดงขาวและสีเขียว ของอิตาลีพร้อมลายพิมพ์ฟุตบอล เสื้อกล้ามที่มีซอสสีแดงสาดกระเซ็น ทั้งยังมีลุคที่กลายเป็นชิ้นใครหลายๆคนอยากครอบครองอย่างกระเป๋าที่เหมือนลูกฟุตบอลไม่มีผิดเพี้ยน

     สร้างสรรค์ไปจนถึงลุคที่สวมเครื่องบินจำลองไว้บนหมวก และลุคที่คล้ายคลึงกับเทพบนสวรรค์ ด้วยเฉดสีฟ้าอ่อนและสีขาวบริสุทธิ์ เปรียบเหมือนการนั่งเครื่องบินเดินทางย้ายจากชีวิตที่วุ่นวายไปยังสรวงสวรรค์ที่ถูกเลือก แล้วในโชว์ยังมีอีกหลายลุคที่ดูสนุกสนานและออกนอกกรอบอันน่าสนใจไม่แพ้กัน ซึ่งนั่นก็สอดคล้องกับมุมมองของ Franco Moschino ผู้ซึ่ง ไม่เคยจริงจังกับตัวเองหรือแฟชั่นมากจนเกินไป เพราะเชื่อว่า “ความสนุก” เป็นสิ่งสำคัญมากในการแต่งตัว ถึงแม้เป็นงานที่ได้ใส่พลังความคิดสร้างสรรค์อันแปลกใหม่ไปอย่างเต็มที่ เอเดรียนยังคงพิจารณาถึงการสวมใส่ได้จริง ซี่งนั้นเป็นสิ่งที่น่าสนใจที่เพราะไม่ใช่สิ่งที่ง่ายนัก ที่ดีไซเนอร์จะสามารถสร้างคอลเล็กชั่นออกมาได้อย่างสมดุล มันจะกลายเป็นไอเท็มที่ทุกคนสามารถสวมใส่ได้และสนุกสนานมีชีวิตชีวาตามสไตล์ของแบรนด์