#VogueMore เมื่อเสื้อผ้าผู้ชายกลายเป็นชิ้นโปรดของผู้หญิง เพราะอะไรคุณจึงควรแวะเวียนไปดูคอลเล็กชั่น Menswear บ้าง

คำอธิบายภาพปก: สเวตเตอร์แขนยาวตกแต่งฮู้ด ผ้าฝ้าย ใส่กับกางเกงวอร์มขายาว ผ้าฝ้ายเข้าชุด ทั้งสองจาก BALENCIAGA คลุมทับด้วยเสื้อโค้ต ทรงตรงปกสูท ผ้าไหมพิมพ์ลาย จาก SALVATORE FERRAGAMO รองเท้าส้นสูงหัวแหลมหนังพิมพ์ลาย จาก CHRISTIAN LOUBOUTIN

 

ช่างภาพ: สุดเขต จิ้วพานิช 
สไตล์ไดเร็กเตอร์: จิรัฏฐ์ ทรัพย์พิศาลกุล
นางแบบ: เนนน่า นโวชู, มนตรา ตัณฑวรรณ
แต่งหน้า: วันสุข บุญประเสริฐ
ทำผม: พรพรรณ ชาญชลสมุทร
ผู้ช่วยสไตลิสต์: ฐิตาภรณ์ พุกพัก

 

ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าในโลกแฟชั่นที่มีผู้หญิงถือครองพื้นที่ส่วนใหญ่กว่า 70% โดยเฉพาะในกลุ่มลักชัวรีจะทำให้ตลาดแฟชั่นผู้หญิงนั้นคึกคักกว่าถนัดตา และเมื่อเราเอ่ยปากพูดถึงคอลเล็กชั่น Menswear เมื่อใดมันอาจทำให้สุภาพสตรีหลายคนก้มหน้ากดโทรศัพท์ตอบไลน์เพื่อนเพราะเข้าใจว่าไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน แต่ความน่าสนใจของตลาดเสื้อผ้าผู้ชายในตอนนี้คือการเติบโตอย่างพุ่งทะยาน อันจะเห็นเป็นประจักษ์จากการมาถึงของ Virgil Abloh ที่ Louis Vuitton ซึ่งกวาดกระแสนิยมอย่างล้นหลาม ไปจนถึงคอลเล็กชั่นผู้ชายผลงาน Demna Gvasalia ที่ Balenciaga ซึ่งโกยเงินในกระเป๋าของชายหนุ่มและหญิงสาวทั่วโลกจนขึ้นแท่นเป็นแบรนด์ขายดี แน่นอนว่าสาเหตุหนึ่งมาจากการตื่นตัวทางแฟชั่นของบุรุษที่จัดจ้านด้านสไตล์กันมากขึ้น แต่อีกหนึ่งข้อสังเกตคือ…เม็ดเงินเหล่านั้นมาจากผู้หญิงด้วยเช่นกัน

คำอธิบายภาพ: แจ็กเก็ตสูทแขนยาวทรงตรงผ้าวูล ใส่กับกางเกงขายาวทรงตรงผ้ากำมะหยี่ ทั้งสองจาก GUCCI ดอกไม้ประดิษฐ์สำหรับประดับหมวกและชุด จาก  PERMAFLORA

 

ถ้าจะเล่าต้นตอกันถึงรากคงต้องย้อนกลับไปไกลในช่วงปี 1870s การปรากฏตัวของนักแสดงสาวชื่อดังอย่าง Sarah Bernhardt ในชุดสูทกางเกงแบบผู้ชายที่ได้รับการขนานนามว่า boy's clothes ทำเอาแตกตื่นทั้งปารีส เธอคือคนดังรายแรกๆ ที่ได้รับการจารึกชื่อไว้ในหน้าประวัติศาสตร์แฟชั่นว่าเป็นผู้บุกเบิกการหยิบเอาเสื้อผ้าบุรุษมาใส่แบบไม่แคร์กระแสสังคม สำหรับผู้หญิงปารีสในตอนนั้นคงต้องใช้คำว่า “ใหม่มาก” เพราะหญิงสาวในยุคนั้นยังคงนิยมการรัดรึงดึงคอร์เซ็ทอวดเอวคอดสะโพกผายซึ่งถูกซุกซ่อนไว้ภายใต้กระโปรงบานฟูฟ่อง ทำให้การหยิบสูทมาสวมออกงานของซาราห์กลายเป็นลุคที่น่าจดจำอย่างมาก ซึ่งนั่นก็ส่งให้เธอได้รับบทนำในละครประพันธ์ขึ้นหิ้งอย่าง Hamlet ของ William Shakespeare ในเวลาต่อมา

คำอธิบายภาพ: เสื้อคลุมกิโมโน ผ้าไหมพิมพ์ลาย ใส่กับกางเกงขายาวทรงตรง ผ้าไหมพิมพ์ลายเข้าชุด ทั้งสองจาก DOLCE & GABBANA รองเท้าส้นสูงและกระเป๋าถือจาก CHRISTIAN LOUBOUTIN

 

เมื่อซาร่าห์ได้กรุยทางถางหญ้าให้กับหญิงสาวทั่วปารีสแล้ว เล่าสุภาพสตรีจึงได้รับอนุญาตจากชนชั้นปกครองให้สวมแจ็กเก็ตสูทในโอกาสสำคัญกันมากขึ้น ถึงแม้จะยังไม่รุดหน้าถึงขั้นลุกขึ้นมาสวมกางเกงเดินถนน แต่นี่ถือเป็นก้าวแรกที่ทำให้เส้นแบ่งทางเพศนั้นเริ่มเลือนรางมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งช่วงกลางศตวรรษที่ 19 เหล่าดีไซเนอร์ที่มีชื่อลือกระฉ่อนที่สุดในกรุงปารีสอย่าง Christian Dior, Cristóbal Balenciaga และ Coco Chanel ต่างก็ทยอยกันนำเสนอลุคหญิงสาวที่นำสมัยมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะมาดมัวแซลโกโก้ ชาเนลซึ่งเป็นต้นตำรับแจ็กเก็ตทวีดตัวหลวม ไร้ซึ่งการพยายามรัดรึงใดๆ และมันทำให้หญิงสาวหายใจหายคอกันได้คล่องขึ้นมากทีเดียว ไปจนถึงตำนานสูทชื่อก้องโลกอย่าง Le Smoking Suit ผลงานของ Yves Saint Laurent ที่เปลี่ยนบรรทัดฐานแฟชั่นหญิง-ชายไปตลอดกาล

คำอธิบายภาพ: แจ็กเก็ตแขนยาวทรงโอเวอร์ไซซ์ จัมป์เอว ผ้าไหมมัดย้อม จาก ZEGNA

 

ต้นแบบของผู้หญิงยุคใหม่ที่แม้จะเกิดในยุค ‘40s แต่หัวขบถกว่าใครเห็นจะเป็นนักแสดงสาวชาวอเมริกันอย่าง Diane Keaton ผู้เป็นที่จดจำจากลุคคันทรีบอยในเสื้อทีเชิ้ตตัวหลวม กางเกงยีนส์ขาม้า และแจ็กเก็ตสูทผู้ชายที่ขอเน้นย้ำว่า “ถูกหยิบมาจากคอลเล็กชั่นเสื้อผ้าผู้ชายจริงๆ” ไม่ใช่แจ็กเก็ตตัวหลวมที่ออกแบบมาเพื่อสุภาพสตรีแต่อย่างใด และแม้เพื่อนนักแสดงหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันจะเลือกแต่งองค์สวยสะพรั่งในชุดราตรียาวมาอวดโฉมที่งานพรมแดงกี่ทศวรรษ แต่ไดแอนน์ก็ยังคงยืนหยัดสวมชุดสูทตัวโคร่งของเธอไปเยือนพรมแดงทุกงาน พร้อมกับผ้าพันคอและหมวกทรงสูงคู่ใจ ไม่นับรวมเน็กไทเส้นใหญ่ผืนกว้างที่ขนาดผู้ชายร่างเล็กยังจนปัญญา ซึ่งทั้งหมดเป็นชิ้นแฟชั่นจากเมนส์แวร์ทั้งสิ้น และแน่นอนเธอยังคงขึ้นหิ้งสไตล์ไอคอนแม้จะเดินทางมาถึงปีที่ 75 แล้ว ดังที่ปรากฏตัวเป็นมิวส์คนล่าสุดในแคมเปญฉลอง Beloved Lines ของแบรนด์ Gucci ผู้นำด้านแฟชั่นไร้เพศในยุคนี้

คำอธิบายภาพ: เสื้อเชิ้ตแขนยาวผ้าเดนิม สวมทับด้วยแจ็กเก็ตสูทแขนยาวเข้ารูป ผ้าไหม ทั้งสองจาก SAINT LAURENT สวมทับอีกชั้นด้วยเสื้อคลุมแขนยาว ผ้าฝ้ายพิมพ์ลาย จาก KASA' MAYA ใส่กับกางเกงวอร์มขายาวผ้าไนลอน จาก ADIDAS

 

การเปิดตัวคอลเล็กชั่นเสื้อผ้าผู้ชายประจำฤดูกาล Fall 2021 ของ Balenciaga โดย Demna Gvasalia แม้จะถ่ายทอดโดยเหล่านางแบบหญิงสำหรับคอลเล็กชั่นสุภาพสตรี และนายแบบชายสำหรับคอลเล็กชั่นสุภาพบุรุษ ซึ่งดูเหมือนว่าจะได้รับการแบ่งแยกอย่างชัดเจน แต่เมื่อมาพินิจดูดีไซน์ในแต่ละลุคอย่างดีแล้ว รวมถึงได้ลองหลับตาจินตนาการถึงเสื้อผ้าแต่ละชิ้นที่ถูกจับแยกออกจากสไตลิ่งหน้าผมในรูปแบบเกมมิ่งซึ่งอาจจะดูล้นไปสักนิดสำหรับชีวิตประจำวันในกรุงเทพฯ คุณจะพบว่าของทุกชิ้นคือไอเท็มที่สุภาพสตรีสามารถหยิบจับมาสวมได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเสื้อทีเชิ้ต กางเกงยีนส์ แจ็กเก็ตโลโก้นาซ่าตัวเปรี้ยว ไปจนถึงชุดวอร์มหลากสีที่ตอนนี้กำลังขึ้นหม้อในกลุ่มสาวๆ

คำอธิบายภาพ: เสื้อเชิ้ตแขนยาวผ้าลูกไม้ จาก GUCCI ใส่กับกางเกงขายาวทรงตรง ผ้าวูล สวมทับด้วยจัมป์สูทขาสี่ส่วน เว้าช่วงเข่า ทั้งสองจาก BURBERRY รองเท้าส้นสูงหัวแหลมหนังพิมพ์ลาย จาก CHRISTIAN LOUBOUTIN

 

ฟากคอลเล็กชั่นเสื้อผ้าผู้ชายเปิดฤดูใบใม้ผลิ 2021 จากแบรนด์ฝั่งแดนผู้ดีอย่าง Burberry เองก็เลือกนำเสนอลุคชายหนุ่มในรูปแบบและสีสันที่จัดจ้านมากขึ้นกว่าครั้งไหนๆ ไม่ว่าจะเป็นสเวตเตอร์เปลือยไหล่คาดสายรัดเข็มขัดดีไซน์คล้ายเสื้อสายเดี่ยวของผู้หญิง ไปจนถึงจัมป์สูทกางเกงขายาวสีส้มสดที่เมื่อสาวๆ นำมาสวมแมตช์กับเสื้อลูกไม้แสนหวานจะได้ลุคที่ดูชวนฝันแต่ไม่หวานเลี่ยน อีกชิ้นที่น่าจับตามองคือเหล่าเสื้อเชิ้ตพิมพ์ลายจากคอลเล็กชั่นบุรุษของ Gucci ประจำซีซั่น Pre-Fall และ Spring 2021 ที่นอกจากจะเป็นไอเท็มคลาสสิกสวมได้ตลอดกาลแล้ว ขนาดตัวโคร่งและไหล่กว้างจากคอลเล็กชั่นบุรุษยังเป็นซิลูเอตที่หาได้ยากในคอลเล็กชั่นสตรี ที่สำคัญคือไม่ค่อยซ้ำใคร และยังเป็นการเปิดโลกการสไตลิ่งของสาวๆ ให้สนุกสนานขึ้นไปอีกขั้น ดังที่หญิงสาวฮอลลีวู้ดหลายคนเคยสร้างชื่อในฐานะสไตล์ไอคอนจากการหยิบเสื้อผ้าบุรุษมาสวมแล้วนักต่อนัก

คำอธิบายภาพ: เสื้อเชิ้ตแขนยาว ผ้าไหมพิมพ์ลาย แจ็กเก็ตสูทแขนยาว ผ้าวูลตกแต่งกระเป๋าและหนัง ทั้งสองจาก GUCCI เสื้อเชิ้ตแขนสั้นผ้ามัสลินพิมพ์ลาย จาก KASA' MAYA

 

ถึงเวลาแล้วหรือยังที่คุณจะลองเปิดใจไปสำรวจคอลเล็กชั่น Menswear ดูบ้าง เช่ื่อสิ...ว่าการสไตลิ่งของคุณจะสนุกขึ้นอีกหลายเท่าตัว

 

พบกับ #VogueMore ปกดิจิทัลของโว้กประเทศไทย และสกู๊ปพิเศษบน Vogue.co.th ได้ทุกเดือน