วิน เมธวิน prada, บิวกิ้น gucci, โฟร์ท เจมีไนน์, นานิ, มิลานแฟชั่นวีก, milan fashion week
FASHION

สรุปรวบยอด Milan Men's Fashion S/S 2025 ที่เปิดฉากฤดูกาลใหม่ของโลกแฟชั่นอย่างเป็นทางการ

เหล่าแบรนด์แอมบาสเดอร์และเซเลบริตี้จากประเทศไทยบินลัดฟ้าสู่เมืองมิลาน พร้อมกับบรรยากาศและการนำเสนอโชว์แฟชั่นที่อัดแน่นด้วยความน่าตื่นเต้น

     เป็นประจำทุกปีในช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ตารางแฟชั่นวีกจะกลับมาคึกคักอย่างเป็นทางการสำหรับการเปิดหัวคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน ซึ่งในปีนี้กับคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน เริ่มต้นขึ้นกับมิลานแฟชั่นวีกสำหรับฝั่งแฟชั่นผู้ชาย ซึ่งตารางโชว์อัดแน่นด้วยแบรนด์สำคัญพร้อมแบรนด์หน้าใหม่น่าติดตามมากมาย รวมถึงเหล่าแบรนด์แอมบาสเดอร์และคนดังที่ตบเท้ากันเข้าชมโชว์อย่างแน่นอน โว้กจะสรุปรวบยอดโมเมนต์ของเหล่าคนดังที่บินลัดฟ้าจากประเทศไทยสู่มิลานในฐานะแขกคนสำคัญ และโชว์แบรนด์ระดับแถวหน้าที่ตัดริบบิ้นเปิดฤดูกาลแฟชั่นครั้งใหม่อีกครั้ง

  • THAI TALENTS

สำหรับแบรนด์แอมบาสเดอร์และเหล่าคนดังจากประเทศไทยกลายเป็นที่จับตามอง และนำมาสู่การพูดถึงและบัญญัติคำว่า ‘Thai Power’ ซึ่งในช่วงมิลานแฟชั่นวีกที่นำเสนอคอลเล็กชั่นเสื้อผ้าบุรุษ ฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2025 นี้ ก็มีเหล่าคนสำคัญจากประเทศไทยที่บินลัดฟ้าเพื่อร่วมชมโชว์เปิดฉากฤดูกาลใหม่อย่างเป็นทางการ นำทัพโดย วิน-เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร แบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Prada และ บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล แบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุดของ Gucci นอกจากนี้ยังมี เจมีไนน์-นรวิชญ์ ฐิติเจริญรักษ์ และ โฟร์ท-ณัฐวรรธน์ จิโรชน์ธิกุล ที่ร่วมชมโชว์ Zegna ปิดท้ายด้วย นานิ-หิรัญกฤษฎิ์ ช่างคำ ที่เดินทางสู่เมืองมิลานเพื่อร่วมชมโชว์และดินเนอร์กับ Dolce & Gabbana



WATCH




  • MOSCHINO

เปิดฉากตารางแฟชั่นวีกคอลเล็กชั่นเสื้อผ้าบุรุษ ฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2025 แบรนด์ที่หลายคนจับตามองมากที่สุดคือ Moschino ที่กุมบังเหียนโดย Adrian Appiolaza หลังจากแบรนด์ต้องเผชิญความยากลำบากช่วงรอยต่อระหว่างการอำลาแบรนด์ของ Jeremy Scott และการเสียชีวิตของ Davide Renne ครั้งนี้แบรนด์กลับมาอัดแน่นด้วยความพร้อมเต็มขีดอีกครั้ง นำเสนอผ่านผลงานตามมิติมุมมองของเอเดรียน สาวกแฟชั่นได้เห็นแนวทางการนำเสนอที่แปลกใหม่ สอดแทรกความทันสมัยตามเหตุการณ์โลก และการสร้างรูปทรงของเสื้อผ้าบุรุษที่มีกลมกล่อมลงตัวมากขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้เอเดรียนแทบไม่เคยรังสรรค์มาก่อนเลย การพัฒนาตัวเองครั้งสำคัญนี้จึงยกระดับความน่าสนใจของแบรนด์ได้อย่างยอดเยี่ยม อีกทั้งยังมีการผลิไอเดียนำเสนอที่สอดคล้องกับ Franco Moschino ผู้ก่อตั้งแบรนด์อีกด้วย

  • MSGM

แบรนด์ที่น่าสนใจในครั้งนี้คือ MSGM ที่มาพร้อมการเปิดฉากด้วยการสอดแทรกสีแดงจัดจ้าน ริเริ่มจากการเฉลิมฉลองครบรอบ 15 ปีในช่วงเดือนมิถุนายนพอดิบพอดี Massimo Giorgetti ต้องการย้อนความทรงจำอันหอมหวานซึ่งหมายถึงเศษเสี้ยวแห่งความสุข แบรนด์ต้องการนำเสนอภาพลักษณ์เพื่อกลุ่มคนรุ่นใหม่ รูปแบบแฟชั่นจึงมีความคลาสสิกที่สอดแทรกความขบถ มาพร้อมเซ็ตติ้งที่เชื่อมโยงกับแนวทางเป็นอย่างดี การเลือกใช้สี แพตเทิร์น และการเลเยอร์สะท้อนความจัดจ้านสนุกสนานผสมผสานผ่านไอเท็มคลาสสิกให้มีมิติความสลับซับซ้อนสะท้อนตัวตนของแบรนด์เป็นอย่างดี

  • DOLCE & GABBANA

สำหรับมิลานแฟชั่นวีกคงจะขาดสุดยอดแบรนด์ระดับตำนานอย่าง Dolce & Gabbana ไปไม่ได้ โดยคอลเล็กชั่นนี้หยิบยกเอาแรงบันดาลใจจากช่วงฤดูร้อนยุค 1950s มารื้อสร้างและนำเสนอใหม่ให้สอดคล้องกับแฟชั่นยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเน้นย้ำความเบาสบายและผ่อนคลาย ไล่ระดับตั้งแต่เสื้อผ้าจากวัสดุผ้าลินิน ผ้าทอคุณภาพสูง และซิลูเอตที่ถูกปรับให้หลวมโคร่ง สวมใส่สบายยิ่งขึ้น มาพร้อมกับการตีความมนต์เสน่ห์สไตล์อิตาเลียน ที่แม้จะผ่อนปรนความเนี้ยบกริบแต่ยังคงความสง่างามไว้อย่างไร้ที่ติ

  • FENDI

ไม่เคยพลาดหัวข้อข่าวแฟชั่นระดับโลกสำหรับ Fendi ฝีมือการรังสรรค์ของ Silvia Venturini Fendi ซึ่งครั้งนี้แบรนด์เลือกนำเสนอด้วยการถอดรหัสองค์ประกอบต่างๆ ของเมซงแปรเปลี่ยนสู่เสื้อผ้าบนรันเวย์ที่ชวนย้อนให้นึกถึงกลิ่นอายแฟชั่นสมัยหลายทศวรรษก่อน ทั้งรายละเอียดของลวดลายตาราง โลโก้ และสัญลักษณ์ต่างๆ รวมถึงการสไตลิ่ง มีการหยิบยกลวดลาย ‘Pequin’ มาเป็นแกนหลักสำคัญในการสร้างสรรค์ทั้งเสื้อผ้าและกระเป๋า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระเป๋ารุ่น Peekaboo และ Baguette อิทแบ็กใบโปรดของสาวๆ ทั่วโลกที่มีการปรับแต่งด้วยรายละเอียดที่แปลกใหม่ มากไปกว่านั้นยังสอดแทรกเทคนิคการตัดเย็บกระเป๋าอันซับซ้อน แสดงถึงงานฝีมือคุณภาพสูงที่เฟนดิไม่เคยละเลย

  • PRADA

“โลกความจริงหรือการลวงหลอก” นิยามของโชว์ Prada คอลเล็กชั่นเสื้อผ้าบุรุษ ฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2025 โดย Miuccia Prada และ Raf Simons ถือกำเนิดขึ้นด้วยแนวคิดการตีความอันร่วมสมัยของนิยามขั้วตรงข้าม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความจริงหรือการลวงหลอก ซึ่งราฟมองว่าแฟชั่นฉบับการตั้งคำถามนี้เป็นเหมือนตัวอย่างสะท้อนภาพของความคิดในการรวมข้อสงสัยและหาหนทางเผชิญกับมัน สีเขียว ฟ้า เหลือง และอื่นๆ อีกมากมายมาในเฉดที่บ่งบอกถึงปราด้าได้เป็นอย่างดี ซิลูเอตและวิธีการเลเยอร์ยังสร้างสัดส่วนที่แปลกตา ไม่ว่าจะเป็นความยาวของแขนและชายเสื้อ ทรงกางเกง เรื่อยไปจนถึงชุดจั๊มพ์สูท มีการสอดแทรกลวดลายกราฟิกและภาพศิลปะ รวมถึงการรังสรรค์ความเรียบง่ายที่เปี่ยมด้วยรายละเอียดอันน่าสนใจ

  • GUCCI

ความคาดหวังของคอแฟชั่นกับ Sabato De Sarno ในการรังสรรค์คอลเล็กชั่นใหม่ของ Gucci นั้นถือว่าหนักอึ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคอลเล็กชั่นเสื้อผ้าบุรุษที่ครั้งก่อนเขาสร้างสรรค์โดยยึดโยงคอนเซปต์มาจากคอลเล็กชั่นเสื้อผ้าสตรีก่อนหน้า ทำให้หลายคนมองว่าคอลเล็กชั่นนี้คือผลงานการออกแบบเสื้อผ้าบุรุษที่แท้จริงของเขา ซึ่งครั้งนี้ซาบาโต้มาพร้อมแนวคิดการสรรสร้างคอลเล็กชั่นเสื้อผ้าที่เชื่อมโยงระหว่างกลิ่นอายชีวิตในเมืองกับบรรยากาศของชายหาดช่วงฤดูร้อน ผลผลิตจากแนวคิดดังกล่าวจึงมาพร้อมรูปแบบแฟชั่นเรียบง่ายเบาสบาย พร้อมสัญญะของช่วงฤดูร้อนอย่างกางเกงขาสั้นและเสื้อชายพิมพ์ลาย นอกจากนี้ยังมีการตีความเชิงคอนเซปต์ด้วยการจำลองคลื่นบนผืนทะเลผ่านรายละเอียดฟริงก์ นำเสนอพร้อมกลิ่นอายความสนุกผ่านสีสัน ลวดลาย และแพตเทิร์นการตัดเย็บอันแปลกใหม่ และที่ขาดไม่ได้คือรองเท้าและกระเป๋าที่ มีตั้งแต่โลเฟอร์คู่คลาสสิก สนีกเกอร์ทรงแปลกตา เรื่อยไปจนถึงกระเป๋าหลากหลายรูปทรง ถือเป็นการเผยโฉมคอลเล็กชั่นเสื้อผ้าบุรุษอย่างสมบูรณ์แบบครั้งแรกโดยไม่ได้ผูกโยงกับคอลเล็กชั่นก่อนหน้าเหมือนครั้งก่อนแต่อย่างใด

  • ZEGNA

Zegna กับแนวทางแห่งการนำเสนอความคลาสสิกที่อมตะเหนือกาลเวลาผ่านการผสมผสานความร่วมสมัยคือหัวใจสำคัญที่ทำให้โชว์โดดเด่นและสะท้อนอัตลักษณ์ของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี โดย Alessandro Sartori ผู้อำนวยการสร้างสรรค์ต้องการเฉลิมฉลองวิวัฒนาการของ Oasi Lino วัสดุผ้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับช่วงฤดูร้อน ความโดดเด่นของวัสดุชนิดนี้คือผ้าลินินที่ถูกทออย่างประณีตให้ทั้งมิติพลิ้วไหวเป็นธรรมชาติและสวมใส่สบายอย่างยิ่ง อเลสซานโดรจึงใช้ผ้าดังกล่าวรังสรรค์คอลเล็กชั่นนี้ด้วยการจับคู่กับงานเทเลอริ่งชั้นครู และรูปแบบสไตล์อันคลาสสิกที่สอดแทรกความร่วมสมัย มาพร้อมกระเป๋าหนังที่เป็นดั่งผลงานชูโรงอีกไลน์ของเมซง เฉลิมฉลองช่วงฤดูร้อนด้วยสไตล์อมตะเหนือกาลเวลา

  • MARTINE ROSE

วิธีการฉีกกรอบแฟชั่นของ Martin Rose นั้นแตกต่างจากแนวคิดทั่วไป เพราะบนรันเวย์ครั้งนี้เขาต้องการนำเสนอความโดดเด่นเชิงจิตวิทยาตั้งแต่แรกเห็น การเนรมิตลุคของนายแบบให้สวมจมูกจำลอง เพราะเขาศึกษาว่าคนทั่วไปมักจะมองจมูกและสนใจเป็นอันดับแรก หลังจากดึงความสนใจตรงนั้นได้แล้วจึงนำเสนอลุคแฟชั่นที่จัดจ้านเหนือคำบรรยายได้อย่างอิสระ ความขบถและกลิ่นอายแบบวัฒนธรรมรองถูกสื่อสารผ่านเสื้อผ้าที่ไม่ได้เนี้ยบเรียบร้อย ทว่ากลับเปี่ยมด้วยเสน่ห์และสัญญะแห่งความอิสระ ลุคสตรีตถูกผสมผสานด้วยองค์ประกอบแปลกใหม่ รวมถึงการสไตลิ่งที่ฉีกกรอบแนวทางแบบเดิมๆ นำมาสู่โชว์ที่จัดจ้านและแตกต่างที่สุดในช่วงมิลานแฟชั่นวีกประจำฤดูกาลนี้

  • JW ANDERSON

ปิดท้ายกันด้วย JW Anderson แบรนด์ของ Jonathan Anderson ที่ฉีกกรอบแนวคิดการสร้างสรรค์จนสร้างความประหลาดใจให้แฟนแฟชั่นพันธุ์แท้อยู่เสมอ แน่นอนว่าสำหรับโชว์แบรนด์นี้ที่ขาดไม่ได้คือเรื่องซิลูเอตที่มาฉีกล้ำไม่ซ้ำใคร ผสมผสานเข้ากับเทคนิคการตัดเย็บและการเลือกใช้วัสดุที่หลากหลาย เหมือนเป็นสนามการทดลองของโจนาธานอย่างไรอย่างนั้น เขาต้องการสร้างภาพแปลกใหม่จากภาพที่ทุกคนคุ้นเคย เราจะเห็นเสื้อผ้าที่มีความเบสิกธรรมดาที่ถูกแปรเปลี่ยนให้เป็นไอเท็มโดดเด่นเหนือระดับ มาพร้อมกับความเคลื่อนไหวที่มีเอกลักษณ์ นอกจากนี้ยังสอดแทรกมนต์เสน่ห์ของโลกอดีตด้วยการสอดแทรกรายละเอียดต่างๆ จากหลากยุคหลายสมัย และเขาก็ไม่ลืมเรื่องสีสันและลูกเล่นแปลกตาต่างๆ เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ชม นับเป็นผลงานแฟชั่นเชิงศิลป์ที่ออกมาพร้อมความตื่นเต้นจนทำให้ทุกคนได้สัมผัสมันอีกครั้งในคอลเล็กชั่นนี้

WATCH