FASHION

ย้อนรอยความสุดยอดของ Coco Chanel เมื่อรากฐานทั้งหมดถูกสร้างด้วย 'หมวก'

เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าแบรนด์ที่โด่งดังที่สุดแบรนด์หนึ่งตลอดกาลในโลกแฟชั่นคือ Chanel ด้วยรากฐานของแบรนด์ที่ถูกสอดแทรกด้วยเรื่องราวชีวิต พัฒนาการ การเคลื่อนไหวทางสังคม ศิลปะ และอีกหลายต่อหลายปัจจัยประกอบรวมกัน ด้วยความคลาสสิกที่มาพร้อมอายุแสดงความเจนจัดในสนามแฟชั่น ชาเนลจึงไม่ใช่แค่แบรนด์แฟชั่นแต่เป็นเหมือนวิถีชีวิตของหญิงสาวชาวปาริเซียง ชาเนลเป็นห้องเสื้อไม่มากนักที่คนสามารถจดจำและพูดได้ว่า “นี่คือความสวยแบบชาเนล” แต่ที่มาของ Coco Chanel ผู้ก่อตั้งไม่ได้เลือกเดินบนเส้นทางเสื้อผ้าและกระเป๋าเป็นอันดับแรก แต่เธอสร้างสีสันให้โลกแฟชั่นด้วย “หมวก” วันนี้โว้กพร้อมพาย้อนถึงรากลึกแห่งชาเนลไปกับเรื่องหมวกๆ ของโคโค่

Coco Chanel ในวัยเด็ก / ภาพ: Timetoast

ย้อนกลับไปกลับไปสู่ห้วงชีวิตเด็กกำพร้าเด็กสาวจากฝรั่งเศสอับจนในทุกด้านแต่สิ่งที่เธอร่ำรวยเพียงอย่างเดียวคือ “ศิลปะ” เด็กน้อยในสถานกำพร้า Aubazine มีภาพสวยงามในจินตนาการเป็นเพื่อนร่วมสุข จากภาพฝันกลายมาสู่ภาพความเป็นจริง แม้คำว่า “สถานกำพร้า” จะดูโหดร้ายแต่สำหรับโคโค่กลับกลายเป็นแสงสว่างทางเดียวที่คอยนำพาเด็กน้อยด้อยโอกาสก้าวขึ้นมามีตัวตน อย่างน้อยก็รู้จักการให้คุณค่าในตัวเอง พอเธอเข้าใจสถานะตัวเอง ยอมรับ พร้อมเปิดหัวสมองสั่งสมเรื่องการยับปักถักร้อยและวัสดุผ้าต่างๆ รากฐานเหล่านี้ทำให้ชาเนลสร้างจุดเริ่มต้นในเส้นทางของตัวเอง

Coco Chanel กับลุคสวมหมวกที่เราคุ้นตา / ภาพ: Britannica

พอเข้าสู่แวดวงของผ้าและการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะในยุคนั้นย่อมต้องเกี่ยวโยงกับเรื่องแฟชั่นอย่างแน่นอน โคโค่ถือเป็นเด็กสาวเปี่ยมพรสวรรค์ที่มีแนวคิดเรื่องสไตล์ในหัวพอมาเจอกับคนรักแรก Étienne Balsan เธอก็เริ่มดีไซน์หมวกโดยใช้พื้นฐานทางด้านงานหัตถศิลป์มานำทาง หมวกซึ่งเป็นไอเท็มชิ้นสำคัญในการบ่งบอกฐานะทางสังคมในสมัยก่อนมักถูกออกแบบเพื่อแสดงถึงคุณภาพและความซับซ้อนจนสามารถบ่งบอกได้ว่านี่คือหมวกชั้นยอดสำหรับคนชั้นเยี่ยม โคโค่ฝึกปรือฝีมือคลุกเคล้าเข้ากับพรสวรรค์จนออกมาเป็นหมวกดีไซน์แปลกใหม่แต่ยังคงคอนเซปต์ซับซ้อนและคุณภาพสูงตอบโจทย์คนชนชั้นสูงสมัยนั้นอยู่ ช่วงเวลาที่อยู่กับเอเตียงเธอเปรียบเสมือนหญิงสาวในวัยเรียนเริ่มหารายได้จากการทำหมวกด้วยการขายใต้อพาร์ตเมนต์ของแฟนหนุ่มในปี 1909 พอถึงปี 1910 โคโค่ผันเปลี่ยนสถานะสู่สาววัยทำงานโดยมีรักอมตะอย่าง Boy Chapel หนุ่มชนชั้นสูงจากอังกฤษเป็นผู้สนับสนุนเงินทุนเปิดร้านหมวกในชื่อ “Chanel Modes” ณ 21 rue Cambon และหลังจากนั้นชื่อของบอยก็ถูกจารึกเคียงคู่แบรนด์ชาเนลเสมอมา

WATCH

Gabrielle Dorziat ในแคมเปญ Les Modes ของ Chanel Modes / ภาพ: Les Modes

อย่างที่กล่าวไปว่าหมวกของคนชนชั้นสูงย่อมมีรายละเอียดความซับซ้อนที่น่าทึ่ง ขนนกเส้นยาวปีกหมวกอันแข็งแรงแต่กลับดูอ่อนโยนในเวลาเดียวกัน กราฟชีวิตของโคโค่กำลังสั่นเป็นสัญญาณว่ามันกำลังจะทะยานขึ้น เอกลักษณ์ที่ทุกคนสัมผัสได้ในขณะนั้นคือหมวกปีกกว้างตกแต่งรายละเอียดเฉพาะตัว ของชิ้นนี้จึงกลายเป็นสมบัติล้ำค่าทางประวัติศาสตร์แฟชั่นในเวลาต่อมา และเหมือนกราฟชีวิตของดีไซเนอร์สาวพุ่งขึ้นเป็นแนวชันเพราะ Gabrielle Dorziat นักแสดงละครเวทีชื่อดังสวมหมวกของชาเนลขึ้นแสดง และแล้วโคโค่ก็เล็งเห็นถึงโอกาสครั้งนี้จึงเชิญให้กาเบรียลมาถ่ายแบบหมวกให้แบรนด์และเผยแพร่ลง “Les Modes” กลายเป็นแคมเปญตำนานที่ตราตรึงใจเราถึงทุกวันนี้

แม้ขณะทำงานในอาคาร Coco Chanel ก็มักสวมหมวกอยู่เสมอ / ภาพ: Angela Van Rose

เราจะเห็นว่าหมวกของชาเนลมีพัฒนาการปรับเปลี่ยนมาตามยุคสมัย แต่รายละเอียดต่างๆ ยังคงถูกรักษาไว้ให้คงความคลาสสิกจากฝีมือของโคโค่ไว้เช่นเดิม เราจะเห็นภาพมาดามโคโค่หยิบจับหมวกด้วยอย่างระมัดระวังทุกครั้ง หรือเวลาเธอสวมหมวกเองก็จะกลายเป็นลุคที่ทุกคนต้องจำได้ว่านี่คือโคโค่และนี่คือหมวกของเธอ นอกจากหมวกปีกกว้างที่สามารถปรับแต่งได้หลากหลายแล้ว ดีไซเนอร์คนเก่งยังสรรสร้างหมวกหลายรูปทรงเพื่อนำมามิกซ์แอนด์แมตช์กับลุคแบบสาวชาเนลได้อย่างหมดจดงดงาม

หมวก Chanel จากยุค 1930s / ภาพ: Stella DiFabio

หลังจาก Chanel Modes ไปได้อย่างรุ่งโรจน์ รากฐานฝีมือการทำหมวก เคล็ดลับวิชาที่เธอหมั่นฝึกฝนเพื่อพัฒนาตัวเอง และพรสวรรค์จากพระเจ้าหลอมรวมกันผลักให้ดีไซเนอร์สาวหมั่นทำหมวกอันวิจิตรขึ้นมาเสมอ ไม่ว่าจะตั้งแต่เริ่มต้นในช่วงสาวๆ ไปจนถึงบั้นปลายชีวิตหมวกยังคงเป็นเรื่องหลักของสาวปาริเซียงผู้นี้ ก็ไม่แปลกที่ทุกคนจะจดจำโคโค่ในภาพสวมหมวกอยู่ตลอดเวลา และภาพที่เธอถูกจารึกในประวัติศาสตร์ก็มีหมวกเข้ามาข้องเกี่ยวเสมอเช่นกัน

ความสวยงามของหมวกพิเศษของ Chanel ในยุค 1940s ที่ถือเป็นความคลาสสิกของแบรนด์เสมอมา / ภาพ: Tina McManus

พอมาดามโคโค่เสียชีวิตลงช่วงรอยต่อระหว่างผู้ก่อตั้งแบรนด์กับหัวเรือใหญ่คนใหม่นั้นหลายคนกังวลถึงทิศทางการเปลี่ยนแปลง แต่สาวกชาเนลก็โล่งใจเพราะเหล่าทีมงานของโคโค่เก็บความเป็นชาเนลไว้ครบทุกระเบียดนิ้ว เพราะฉะนั้นหมวกจึงยังปรากฏให้เห็นโดยไม่หายไปจากหน้าประวัติศาสตร์แบรนด์สักยุคเดียว กำแพงน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่ทีมงานปิดกั้น Karl Lagerfeld จนแทบจะเหมือนสงครามเย็น (อ่านบทความวันแรกที่ชาเนลของคาร์ลได้ ที่นี่) กลับมีข้อดีคือแบรนด์รักษาไอคอนิกพีซชิ้นนี้ไว้ได้อย่างเหนียวแน่น

ลุคสวมหมวกสไตล์จีนสุดประณีตจากคอลเล็กชั่น Métiers d'Art 2010 ที่รังสรรค์โดย Maison Michel / ภาพ: Vogue Runway

และแล้วดีไซเนอร์ระดับตำนานอย่างคาร์ลก็ทำต่อ หมวกแต่ละใบล้วนถูกออกแบบและขึ้นทรงอย่างประณีต ในช่วงยุคก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะกี่คอลเล็กชั่น กี่แคมเปญของชาเนลจะต้องมีหมวกปรากฏให้เห็นอย่างน้อยก็ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์จากทั้งหมดเลยก็ว่าได้ และกระโดดข้ามเวลามาถึงปี 1997 แบรนด์ผนึกกำลังจับมือกับ Maison Michel ช่างทำหมวกเลื่องชือเพื่อผลิตหมวกให้กับแบรนด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับโชว์ Métiers d'Art ทำให้แฟนๆ รอลุ้นทุกครั้งว่าจะได้เห็นเครื่องประดับศีรษะรูปทรงใดในโชว์ครั้งหน้า ถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่สาวกชาเนลเฝ้าคอยในทุกๆ ซีซั่น

หมวกประดับดอกไม้จากคอลเล็กชั่น Spring/Summer 2020 ผลงานการออกแบบของ Virginie Viard / ภาพ: Vogue Runway

พอถึงยุคของ Virginie Viard ความซับซ้อนของเสื้อผ้าบางจุดถูกลดทอนลงไปทำให้แฟชั่นแบบชาเนลยุคใหม่เข้าใจง่ายขึ้น เสื้อผ้าดูเหมือนจะเรียบแต่สอดแทรกกลิ่นอายความพิเศษของแบรนด์ไว้อย่างเต็มเปี่ยมเช่นเดิม เรื่องหมวกก็เดินตามวิถีทางนี้เช่นกัน คอลเล็กชั่น Spring/Summer 2020 เราได้เห็นนางแบบสวมหมวกทรงคล้ายส่วนผสมระหว่างทรง “Porkpie” กับ “Boater” พร้อมติดประดับดอกไม้เป็นเหมือนการย้อนรำลึกถึงรายละเอียดบนหมวกที่โคโค่ใส่ใจมาตลอดชีวิต นับตั้งแต่วันแรกของโคโค่จนถึงวันนี้ความพิเศษของหมวกของชาเนลยังคงเป็นไอคอนิกพีซของโลกแฟชั่นเสมอมา แฟนๆ ต่างเฝ้ารอเครื่องประดับศีรษะในทุกๆ คอลเล็กชั่น จากรายละเอียดการทำหมวกชนชั้นสูงสู่แบรนด์แฟชั่นระดับตำนาน ทั้งหมดเริ่มจากฝีมือเธอคนนี้ เราขอน้อมรำลึกครบรอบการจากไปครบ 49 ปี “โคโค่ ชาเนล”