
CELEBRITY
เปิดบทสัมภาษณ์ 'มิลลิ-ดนุภา' กับครั้งแรกบนปกโว้กไทยแลนด์ และการเติบโตในแวดวงดนตรีมิลลิบอกกับโว้กว่า อุปสรรคมีเข้ามาเสมอ ปัญหาส่วนใหญ่ที่เข้ามาอาจจะเป็นเรื่องภายนอกที่เราควบคุมไม่ได้ ณ วันนี้หนูอาจจะยังก้าวข้ามผ่านไม่ได้ในบางเรื่อง แต่หนูก็มั่นใจว่าทุกอุปสรรคที่เข้ามามีแนวโน้มที่จะพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น |
ช่างภาพ: ธาดา วาริช
สไตล์ไดเร็กเตอร์: จิรัฏฐ์ ทรัพย์พิศาลกุล
นางแบบ: ดนุภา คณาธีรกุล
แต่งหน้า: สันติ กิจเจริญ
ทำผม: อัครชัย ดีดพิณ
ทำเล็บ: ศิราณี ศักดิรัตน์
จัดฉาก: ไชโย โล่ห์อมรปักษิน
____________________________________________________
ถ้าจะให้พูดถึงศิลปินหญิงชาวไทยที่สร้างอิทธิพลระดับโลกด้วยการแทรกซอฟต์พาวเวอร์อย่าง “ข้าวเหนียวมะม่วง” คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก มิลลิ-ดนุภา คณาธีรกุล แถมสไตล์การแรปและทัศนคติของเธอยังเป็นต้นแบบให้เด็กรุ่นใหม่ด้วย ตามไปรู้จักเธอให้มากขึ้นทั้งในภาคของศิลปินและไอคอนของยุคนี้
Vogue: รู้สึกอย่างไรบ้างตั้งแต่เริ่มแข่งขัน ประกวด จนชนะ และ ณ วันนี้ชื่อของมิลลิดังไปไกลถึงต่างประเทศแล้ว
Milli: หนูออดิชั่นมาตลอดเพราะหนูแค่รู้สึกว่าชอบ พอเราทำในสิ่งที่ชอบแล้ว ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรก็ไม่เสียใจ เพราะหนูรู้สึกว่าหนูชอบและอยากทำไปเรื่อยๆ ทุกวันนี้เมื่อมองหันหลังกลับไปหนูไม่เคยนึกเสียใจอะไรเลย หันไปรอบข้างก็เจอครอบครัว เพื่อน แฟนคลับคอยซัปพอร์ต สิ่งนี้ทำให้รู้สึกว่า “You never walk alone.”
V: ตั้งแต่เข้าวงการมามีผลงานไหนที่รู้สึกภาคภูมิใจที่สุด
M: อัลบั้มใหม่ (หัวเราะ) อัลบั้มแรกๆ จะค่อนข้างบ้าพลังเพราะว่าเราพยายามใส่ทุกอย่างที่เราสามารถทำได้ เหมือนตะโกนใส่คนฟังว่าเราทำได้นะ แต่พอมาอัลบั้มนี้รู้สึกว่าเราโตขึ้น หนูแต่งเพลงเองด้วย เพราะฉะนั้นเพลงในอัลบั้มนี้ก็จะโตขึ้นตามเรา ซึ่งจะไม่ใช่การตะโกนเหมือนเดิม
V: วงการเพลงเปลี่ยนแปลงเร็วมาก มิลลิมีวิธีปรับตัวและพัฒนาสไตล์ของตัวเองอย่างไร
M: ความเปลี่ยนแปลงคือเทรนด์ค่ะ และเป็นเรื่องที่เราเลี่ยงไม่ได้ หนูคิดว่าความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้ แต่เราไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนไป เราพัฒนาตัวเองขึ้นได้ในแบบที่เราอยากจะเป็นโดยไม่จำเป็นต้องตามเทรนด์เสมอไป หนูจะโฟกัสไปที่เรื่องที่เราต้องการเล่าผ่านดนตรีมากกว่า
V: มุมมองของมิลลิเวลาเจออุปสรรคและวิธีการรับมือ
M: อุปสรรคมีเข้ามาเสมอ ปัญหาส่วนใหญ่ที่เข้ามาอาจจะเป็นเรื่องภายนอกที่เราควบคุมไม่ได้ ณ วันนี้หนูอาจจะยังก้าวข้ามผ่านไม่ได้ในบางเรื่อง แต่หนูก็มั่นใจว่าทุกอุปสรรคที่เข้ามามีแนวโน้มที่จะพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น (ยิ้ม)
V: ถ้าให้เลือกหนึ่งเพลงของตัวเองที่สะท้อนตัวเรามากที่สุด จะเลือกเพลงไหน และเพราะอะไร
M: ยากมา...ก (ลากเสียง) ถ้าเอาแบบว่าไม่รู้จักมิลลิเลยและอยากรู้จักมิลลิ อาจจะดูตลกในแง่ของคอนเซปต์แต่ว่าเพลง Welcome เป็นเพลงที่ทำให้หนูร้องไห้เยอะมากๆ เพราะเป็นเพลงที่พูดถึงทุกเหตุการณ์ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในอดีต เพลงนี้เล่าถึงการที่หนูแบ่งตัวเองเป็น 4 คนในวง Minus คือมินจี มินนี่ มิลลิ และมินนวย ซึ่งใน 4 คนนี้จะมีเรื่องราวที่ต่างกัน เป็นช่วงเวลาต่างๆ ในชีวิตของหนู เช่น มินจีบกพร่องทางด้านการร้องเพลง คำพูดบางคำของคุณแม่ทำให้เราหยุดร้องเพลงไป มินนี่เป็นความบกพร่องทางด้านบิวตี้สแตนดาร์ด เรารู้สึกว่าเราไม่ได้อยู่บนมาตรฐานความงามทำให้เราไม่พอใจกับตัวเองมากๆ มินนวยเป็นความบกพร่องของตัวเองทางด้านการเต้น หนูเคยอยู่วงคัฟเวอร์แดนซ์มาก่อนและหนูรู้สึกว่าตัวเองเป็นจุดด่างพร้อยในวง ส่วนมิลลิในการเป็นแร็ป เหมือนเป็นการเอาตัวเองกระโดดลงไปในบ่อเอนเตอร์เทนเมนต์แล้วสิ่งที่เราต้องทำให้ได้คือทำให้ความสามารถของเราเติบโตให้ได้มากกว่าหรือเท่ากับชื่อเสียงที่กำลังเข้ามา เพลงนี้จึงเป็นเพลงที่รู้สึกว่าบอกถึงตัวตนในทุกมุมของเรา...
สามารถตามไปอ่านบมสัมภาษณ์เจาะลึก และแฟชั่นเซ็ตเต็มได้ในนิตยสารโว้กประเทศไทย ฉบับเดือนเมษายน 2025
WATCH