
FASHION
ทำไมคนแฟชั่นต้องหันมาสนใจ Donald Trump หลังประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสูงสุดในรอบ 100 ปี!การประกาศขึ้นภาษีศุลการนำเข้าครั้งนี้ของอเมริกา ส่งผลกระทบไปทั่วทั่ว Supply Chain ของอุตสาหกรรมแฟชั่น ตั้งแต่การลงทุนผลิต เรื่อยไปจนถึงบริการสินค้าถึงมือลูกค้า ที่จะกลายเป็นความท้าทายครั้งใหม่ของโลกแฟชั่นที่กำลังซบเซา |
กลายเป็นหนึ่งในกระแสข่าวใหญ่ระดับโลกช่วงข้ามคืน เมื่อล่าสุดประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกาประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างประเทศครั้งใหม่ จากทุกประเทศที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้รับการขนานนามว่ามากที่สุดในรอบศตวรรษ โดยหนึ่งในนั้นยังรวมไปถึงประเทศไทยที่ถูกตั้งกำแพงภาษีสูงถึง 36 เปอร์เซ็นต์ ที่จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสินค้าส่งออกทุกประเภทของไทย
ในกระดานลิสต์ประเทศที่ถูกประกาศขึ้นภาษีนำเข้าการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา โดย โดนัลด์ ทรัมป์ ในครั้งนี้ ยังรวมไปถึง 12 ประเทศที่เป็นที่ตั้งฐานการผลิตหลักสำคัญของสินค้าแฟชั่น ไม่ว่าจะเป็น ประเทศจีน, สหพันธ์ยุโรป, เวีนดนาม, ญี่ปุ่น, อินเดีย, อินโดนีเซีย, กัมพูชา, บังกลาเทศ, ฟิลิปปินส์, ปากีสถาน, ตุรเคีย และ ศรีลังกา ซึ่งนั่นหมายรวมถึงผลกระทบด้านราคาสินค้าแฟชั่นที่จะพุ่งสูงขึ้นตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นประเทศที่นำเข้าสินค้าแฟชั่นอย่างเสื้อผ้ามากถึง 98 เปอร์เซ็นต์ และรองเท้า 99 เปอร์เซ็นต์ ตามสถิติอ้างอิงจาก CNN Style
ผลกระทบดังกล่าวยังไม่จบเท่านั้น แต่ยังจะส่งผลกระทบไปทั่วทั้ง 'ห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมแฟชั่น' (Supply Chain) กล่าวคือส่งผลกระทบเป็นห่วงโซ่ตั้งแต่การผลิต การขนส่ง ไปจนถึงการบริการจนถึงมือลูกค้า ที่ตอนนี้หลายบริษัทในอเมริกาได้เริ่มประกาศเจตนารมณ์ที่ต้องการจะเจรจากับซัปพลายเออร์และขอให้พวกเขาลดต้นทุน โดยรับภาระบางส่วนด้วยตัวเอง ซึ่งโดยปกติแล้วโรงงานต่างๆ มักคำนึงถึงการดำเนินงานด้านการผลิตด้วยอัตรากำไรที่ต่ำอยู่แล้ว และความต้องการลดราคาจะยิ่งบีบให้โรงงานเหล่านี้ได้รับผลกระทบมากยิ่งขึ้น ปรากฏการณ์ดังกล่าวจึงอาจส่งผลกระทบไปถึงผู้ผลิตสิ่งทอและกลุ่มเกษตรกร เนื่องจากในเวลานี้ทุกคนต่างแสวงหาราคาที่ต่ำลงเพื่อประหยัดต้นทุนทั้งสิ้น และจะสร้างความปั่นป่วนอันท้าทายให้กับอุตสาหกรรมแฟชั่นที่กำลังซบเซาในเวลานี้
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องจับตาหลังจากนี้ก็เห็นจะหนีไม่พ้นนโบายโต้กลับของแต่ละประเทศ รวมถึงรัฐบาลของประเทศไทยเอง ว่านโยบายของแต่ละประเทศจะเป็นอย่างไร และการเจรจาต่อรองกับสหรัฐอเมริกาของหลายประเทศจะเป็นผลหรือไม่ อีกทั้งอุตสาหกรรมแฟชั่นจะเดินเกมต่อไปอย่างไร นับเป็นเรื่องที่น่าติดตาม...
(สามารถตามไปอ่านเรื่องเรื่อวเพิ่มเติมเกี่ยวกับธุรกิจแฟชั่นได้ที่ https://www.vogue.co.th/fashion/inspirations/article/fashion-week-fall-winter-2025-review)
ภาพ : Getty Images
WATCH