การเสริมสร้างวัฒนธรรมจนเกิดการตระหนักรู้กับคนรุ่นใหม่ให้รักษาเอาไว้ไม่ใช่เรื่องง่าย นอกจากนี้การสร้างภาพลักษณ์ให้คนรู้จักมรดกทางวัฒนธรรมอย่างชุดประจำชาติก็เป็นโจทย์สำคัญของผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งในปัจจุบันเมื่อโลกเดินหน้าอย่างรวดเร็ว วัฒนธรรมบางอย่างอาจถูกลืมเลือนหากไม่ถูกปรับแต่งให้เหมาะกับยุคสมัย สิ่งเหล่านั้นจะค่อยๆ จางหายไปแบบเงียบๆ ดังนั้นวิธีการประยุกต์รายละเอียดให้มีความน่าสนใจอาจเป็นทางออกให้ชุดประจำชาติกลายเป็นที่จดจำและมีชื่อเสียงขจรขจายไปได้ไกลมากขึ้น

Lee Young Hyun นักสร้างสรรค์คอนเทนต์ผู้เล่าประสบการณ์ความประทับใจเกี่ยวกับพลังทางวัฒนธรรมของ BTS และ BLACKPINK / ภาพ: KBS

     Lee Young Hyun นักสร้างสรรค์คอนเทนต์ผู้เคยพยายามสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมเกาหลีในวันชาตินั้นระบุว่าเธอเคยถูกมองว่าสวมใส่ชุดประจำชาติของชาติอื่นเป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งญี่ปุ่นและจีน ผู้คนต่างประเทศแทบไม่มีใครรู้จักฮันบก ชุดประจำชาติเกาหลีเท่าไรนัก ซึ่งวัฒนธรรมที่แข็งแกร่งของจีนและญี่ปุ่นสามารถสร้างประสบการณ์พื้นฐานในการตัดสินใจให้กับคนทั่วโลกได้มากกว่าในยุคก่อน ศิลปินเคป๊อปเองก็ไม่ได้สวมชุดฮันบกออกรายการหรือขึ้นแสดง ดังนั้นภาพจำของชุดประจำชาติญี่ปุ่นและจีนจึงเข้ามาแทนที่

     เพราะ BTS และ BLACKPINK ชุดฮันบกจึงกลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกมากขึ้น อียองฮยอนเล่าถึงประสบการณ์ว่าพอมีคนจำชุดฮันบกได้ เธอจึงถามกลับไปว่ารู้จักฮันบกได้อย่างไร คนต่างชาติตอบกลับมาว่า “เคยเห็นวงบีทีเอสและวงแบล็กพิงก์สวมมัน” ซึ่งจะว่าไปศิลปินทั้ง 2 วงไม่ได้สวมชุดฮันบกตามฉบับดั้งเดิมเป๊ะๆ มีการดัดแปลงให้เหมาะกับรูปแบบงานมากที่สุด แต่การดัดแปลงดังกล่าวไม่ถูกตำหนิ เพราะมันสร้างความคุ้นเคยให้คนทั่วโลกได้สัมผัสและศึกษารากฐานที่มา การที่คนจำได้ว่าคนเกาหลีใส่ฮันบกกลายเป็นเรื่องปกติ และนั่นแสดงให้เห็นว่าการบิดเกลียววัฒนธรรมที่อาจดูขัดหูขัดตากับเหล่านักอนุรักษ์นิยมไปสักหน่อย แต่เมื่อผลลัพธ์ออกมาเช่นนี้ก็ชัดเจนแล้วว่าการดัดแปลงดังกล่าวส่งผลเชิงบวกอย่างแน่นอน และนี่เป็นพลังอีกด้านหนึ่งของบีทีเอสและแบล็กพิงก์ที่ทำให้วัฒนธรรมเกาหลีได้รับการยอมรับในวงกว้างอย่างแท้จริง