WELLNESS

นี่คือผลเสียที่จะเกิดขึ้นกับร่างกาย หากคุณนอนหลับไม่เพียงพอ!

การนอนหลับไม่เพียงพออาจสร้างผลเสียกับสุขภาพได้มากกว่าที่คิด

     การนอนหลับเป็นความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ ซึ่งมีความสำคัญต่อสุขภาพที่ดีไปตลอดชีวิต แต่เนื่องด้วยไลฟ์สไตล์ของคนในยุคนี้ที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบและความเครียด อาจส่งผลทำให้นอนหลับได้อย่างไม่มีคุณภาพ ซึ่งหมายรวมถึงการอดนอน การนอนหลับได้ไม่เพียงพอ การหลับไม่สนิท หรือแม้แต่นอนหลับผิดเวลา ล้วนส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายและยังเชื่อมโยงกับปัญหาสุขภาพเรื้อรังหลายอย่าง เช่น โรคหัวใจ โรคไต ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหลอดเลือดสมอง โรคอ้วน และภาวะซึมเศร้า ฉะนั้นสำหรับใครที่อดนอนบ่อยๆ หรือใช้เวลานอนต่ำกว่าที่เหมาะสม ต่อไปนี้คือผลเสียที่คุณอาจต้องเจอ

 

 

1. มีปัญหาเรื่องความจำในระยะยาว

     สมองของคนเราในช่วงกลางวันที่ใช้ทำงานจะมีการสร้าง “ขยะ” ขึ้นมา โดยขยะพวกนี้เรียกว่า “เบต้าอะไมลอยด์” ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่จะค่อยๆ สร้างและสะสมมาเรื่อยๆ ในตอนกลางวัน และในตอนกลางคืนที่เรานอนหลับได้เพียงพอ จะมี “เกลียร์เซลล์” มาทำหน้าที่ขจัดขยะเหล่านี้ออกไปให้มันสะอาดเหมือนเดิมเพื่อพร้อมสำหรับวันต่อไป แต่ถ้าหากเมื่อไหร่ที่นอนน้อย เกลียร์เซลล์จะมีเวลาทำงานน้อยก็จะส่งผลให้ขยะที่สะสมในสมองเป็นดินพอกหางหมูไปเรื่อยๆ ทำให้เกิดปัญหาความจำในระยะยาว หรือบางคนอาจจะพัฒนาไปเป็นอัลไซเมอร์ได้

 

 

2. มีผลต่อฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ทำให้อายุร่างกายแก่กว่าวัย

     “เทสโทสเตอโรน” เป็นฮอร์โมนที่จำเป็นในการเจริญเติบโต ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย และเป็นฮอร์โมนที่สื่อถึงความหนุ่ม ความสาว หรือความเยาว์วัย ซึ่งจากการศึกษามีการค้นพบว่าคนที่นอนน้อยกว่า 5-6 ชั่วโมงต่อวัน (นอนไม่ถึง 8 ชั่วโมง) เมื่อตรวจร่างกายจะพบว่าปริมาณเทสโทสเตอโรนนั้นเท่ากับคนที่แก่กว่าถึงสิบปี ฉะนั้นจึงอาจสรุปได้ว่าหากนอนน้อยกว่า 8 ชั่วโมงก็จะทำให้ร่างกายแก่กว่าอายุจริงถึงสิบปีเลยทีเดียว

 



WATCH



 

3. เพิ่มเปอร์เซ็นต์ของการเป็นมะเร็งมากขึ้น

     การนอนน้อยมีเปอร์เซ็นต์การเป็นโรคมะเร็งได้มากกว่าคนที่นอนปกติ องค์การอนามัยโลกเคยจัดว่าการนอนน้อย หรือคนที่ทำงานที่ต้องอดนอนเวลากลางคืนจะมี Carcinogen หรือหรือสารที่สามารถก่อให้เกิดมะเร็งได้ในระดับ 2 ปี เนื่องจากโดยปกติร่างกายจะมีการตรวจจับเซลล์มะเร็งได้จะมีการส่ง Natural Killer Cell หรืออาจเรียกว่า “เซลล์นักฆ่าตามธรรมชาติ” คือเม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่งที่ทำหน้าที่กำจัดเซลล์เนื้องอกหรือเซลล์ที่ผิดปกติออกไป แต่การนอนน้อยจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันมีปัญหา โดยเฉพาะเซลล์นักฆ่าตามธรรมชาติที่จะลดลงและทำงานได้น้อยลง เพราะฉะนั้นก็มีโอกาสที่จะเป็นมะเร็งมากกว่าคนที่นอนปกติ

 

 

4. มีโอกาสเป็นโรคความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจ

     การนอนหลับลึกเป็นยาลดความดันอย่างดี เพราะช่วงที่นอนหลับลึก ชีพจรและความดันจะลดลง แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่นอนไม่พอ นอนสั้นๆ หรือนอนหลับได้ไม่ลึก ก็มีโอกาสที่จะพัฒนาไปเป็นโรคความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจได้ โดยมีผลการศึกษาวิจัยพบว่าคนที่นอนหลับไม่ถึง 8 ชั่วโมง จะมีโอกาสที่จะเป็นโรคความดันโลหิตสูงและอาจเสี่ยงหัวใจวายได้มากกว่าคนปกติถึง 200 เปอร์เซ็นต์ 

 

 

5. ส่งผลต่ออารมณ์และสุขภาพจิต

     การอดนอนทำให้ประสิทธิภาพในการใช้ชีวิตลดน้อยลง ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การเรียน การขับรถ และการเข้าสังคม รวมถึงมีปัญหาในการเรียนรู้ การมีสมาธิ การตอบสนองต่อสิ่งต่างๆ การตัดสินใจและควบคุมอารมณ์ได้ยากขึ้น อาจมีความรู้สึกหงุดหงิดง่าย หรือวิตกกังวลมากกว่าปกติ นอกจากนี้การอดนอนยังเชื่อมโยงถึงการบาดเจ็บและอุบัติเหตุ เช่น อาการหลับในอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุรถทางถนน หรือในส่วนผู้สูงอายุการอดนอนก็อาจทำให้หกล้มและกระดูกหักได้

 

     การนอนหลับที่มีคุณภาพคือนอนหลับได้ไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมงต่อคืน เพื่อจะได้มีระยะการหลับลึกที่พอเหมาะในการทำให้ร่างกายได้ทำงานอย่างเป็นปกติ และไม่ควรอดนอนมากเกินกว่า 16 ชั่วโมง เพราะทำให้ร่างกายอาจมีอาการมึนงงและเบลอ ทำให้ดำเนินชีวิตได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ และยังเป็นอันตรายต่อสุขภาพในหลากหลายด้านอีกด้วย

 

ข้อมูล : @dr.aonchatpon, Healthline, National Heart and Lung Institute

WATCH

คีย์เวิร์ด: #Sleep