WELLNESS

Gut Health Focus ผิวที่ดีเริ่มจากการปรับสมดุลลำไส้

ผิวที่ดีเริ่มต้นจากการปรับสมดุลลำไส้ แล้วอาหารประเภทไหนที่ดีต่อลำไส้ของเรา

Gut Health หรือ สุขภาพของระบบทางเดินอาหารหรือลำไส้ เป็นอวัยวะที่ประกอบไปด้วยจุลินทรีย์และแบคทีเรียหลากหลายชนิด โดยประกอบไปด้วยกลุ่มที่่เป็นอันตรายและกลุ่มที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย หากจุลินทรีย์ขาดความสมดุลก็อาจจะก่อให้เกิดความผิดปกติทางร่างกายที่ตามมาได้ โดยอาหารที่เรารับประทานเข้าไปในแต่ละวันก็ล้วนส่งผลต่อจุลินทรีย์ในร่างกายของเรา ดังนั้นการเลือกรับประทานอาหารจึงเป็นส่วนสำคัญอย่างมากในการช่วยสร้างสมดุลให้ลำไส้ของเรานั่นเอง

Gut Health ส่งผลต่อผิวของเราอย่างไร

แล้วทำไมการสร้างสมดุลให้ลำไส้ถึงทำให้เรามีสุขภาพผิวที่ดีขึ้นได้? หลายคนอาจจะเคยประสบปัญหาผิวเป็นสิวซ้ำซาก ผิวหมองคล้ำ ขาดความสดใส ไม่ว่าจะดูแลด้วยครีมบำรุงหรือหัตถการใดๆ ก็ดูเหมือนจะไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาให้ดีขึ้น เพราะแบบนี้การดูแลผิวแค่ปัจจัยภายนอกเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอ การหันมาดูแลเรื่องสุขภาพจากภายใน โดยเฉพาะการดูแลสุขภาพลำไส้จึงเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ จุลินทรีย์ในลำไส้ของเราจะส่งผลต่อการทำงานของระบบหลายๆ อย่างในร่างกายรวมไปจนถึงผิวของเราด้วย รวมทั้งยังทำให้การดูดซึมวิตามินและสารอาหารดีขึ้นอีกด้วย

อาหารที่ช่วยเสริมการทำงานของลำไส้

1. โพรไบโอติกส์ (Probiotic)

โพรไบโอติกส์ คือ จุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ ช่วยในการทำงานของระบบทางเดินอาหาร พร้อมสร้างเกราะป้องกันเยื่อบุลำไส้ ทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของลำไส้ให้สามารถดูดซึมสารอาหารที่มีประโยชน์ได้ดียิ่งขึ้น โดยโพรไบโอติกส์ พบได้ในอาหารอย่าง โยเกิร์ต นมเปรี้ยว ดาร์กช็อกโกแลต ชาหมัก(kombocha) ซุปมิโสะ ผักดองและกิมจิ

 

2. อาหารที่มีไฟเบอร์สูง (Hight-Fiber)

อาหารที่มีไฟเบอร์สูงหรือกากใยอาหารสูงมีส่วนสำคัญในการทำงานของระบบลำไส้ ทั้งยังมีส่วนประกอบของวิตามินและเเร่ธาตุ สามารถช่วยบรรเทาอาหารท้องผูก ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและมะเร็งลำไส้ได้ดีอีกด้วย โดยอาหารที่มีไฟเบอร์สูงพบได้ใน ผักสด อย่าง บร็อกโคลี ถั่วฝักยาว ผักกวางตุ้ง ผักคะน้า ผลไม้สด อย่าง กล้วย มะม่วง แอปเปิ้ลหรืออะโวคาโด รวมไปถึงธัญพืช อย่าง ข้าวโอ๊ต เมล็ดเจียและข้าวโพด

 

3. อาหารที่ช่วยรักษาความชุ่มชื้น (Hydrating)

อีกหนึ่งเคล็ดไม่ลับการดูแลสุขภาพลำไส้ให้แข็งแรง คือการรักษาความชุ่มชื้นให้ร่างกาย โดยวิธีที่ง่ายที่สุดคือการดื่มน้ำสะอาดในปริมาณที่เพียงพอต่อวัน จะช่วยในการกระตุ้นการขับถ่าย ช่วยขับสิ่งสกปรกที่ตกค้างในลำไส้ รวมไปถึงช่วยป้องกันอาหารท้องผูกได้ดีอีกด้วย โดยนอกจากการดื่มน้ำแล้ว เราสามารถรับประทานอาหารที่ช่วยเพิ่มน้ำหรือความชุ่มชื้นให้กับร่างกายได้ อย่าง แตงโม แตงกวา โยเกิร์ตและส้ม

 

4. งดอาหารแปรรูปและน้ำตาล (Avoid processed food)

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงถ้าหากไม่อยากให้ส่งผลเสียต่อร่างกายและลำไส้ นั่นคือ อาหารแปรรูปต่างๆ เนื่องจากอาหารแปรรูปส่วนใหญ่มักจะมีน้ำตาลและโซเดียมในปริมาณที่สูง ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยกระตุ้นการอักเสบของร่างกาย โดยอาหารแปรรูปในตลาดนั้นมีอยู่จำนวนมาก อาทิ อาหารกระป๋อง ผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ เช่น เบคอน ไส้กรอก ซอสปรุงรสต่างๆ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซึ่งควรเน้นการบริโภคในปริมาณที่ไม่มากจนเกินไป หรือควรหันมาบริโภคอาหารที่ปรุงสดใหม่ ไม่ผ่านการแปรรูป



WATCH



ข้อมูล: MedPark Hospital

Cover Photo : Design by freepik

WATCH