เผย 5 แนวทางชะลอวัย ช่วยรักษาความเยาว์ผิวหน้าไว้ให้นานที่สุด

ภาพถ่ายโดย Maria Orlova จาก Pexels

ทานคอลลาเจนเสริม

     คอลลาเจนเป็นโปรตีนที่ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น เต่งตึง ซึ่งหลังอายุ 25 ปี ผิวของคนเราจะสูญเสียคอลลาเจนไป 1% ต่อปี และสำหรับผู้หญิงจะลดลงเร็วขึ้นในช่วงวัยหมดประจำเดือน เพราะฉะนั้นการรับประทานคอลลาเจนเสริมเป็นหนึ่งในแนวทางช่วยชะลอวัยได้ โดยเฉพาะคอลลาเจนแบบไฮโดรไลซ์ (Hydrolyzed Collagen) ที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่าย และแนะนำให้เลือกคอลลาเจนชนิดผงละลายน้ำดีกว่าแบบเม็ด

ภาพถ่ายโดย cottonbro studio จาก Pexels

รับประทานโปรตีนให้เพียงพอ 

     การรับประทานโปรตีนให้เพียงพอมีความสำคัญต่อการสร้างคอลลาเจน เพราะคอลลาเจนเองก็คือโปรตีนชนิดหนึ่ง ร่างกายของเราไม่สามารถสร้างคอลลาเจนได้เองโดยปราศจากโปรตีน ฉะนั้นการได้รับโปรตีนในปริมาณที่เพียงพอจึงเปรียบเสมือนการเติมเชื้อเพลิงให้กับกระบวนการสร้างคอลลาเจน ทำให้ร่างกายสามารถสร้างคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยชะลอการเสื่อมสลายของคอลลาเจนได้นั่นเอง โดยปริมาณการทานโปรตีนที่แนะนำอยู่ที่ โปรตีน 1 กรัม / น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม / ต่อวัน

ภาพถ่ายโดย Yan Krukau จาก Pexels

ใช้สกินแคร์ 

     ควรเลือกใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน หรือช่วยยับยั้งการสลายตัวของคอลลาเจน 

• Retinol (เรตินอล): มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และช่วยผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวดูเรียบเนียน ลดเลือนริ้วรอย แต่ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้ ควรเริ่มใช้ในปริมาณน้อยๆ และค่อยๆ เพิ่มปริมาณขึ้น ควรทาเฉพาะเวลากลางคืน และควรทาครีมกันแดดในตอนเช้า เพื่อป้องกันแสงแดด ซึ่งอาจทำให้ผิวไวต่อแสงได้
• Peptides (เปปไทด์): มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และช่วยให้ผิวแข็งแรง โดยเปบไทด์นั้นมีหลายชนิด แต่ละชนิดมีคุณสมบัติแตกต่างกันไป ควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสภาพผิว และปัญหาผิว 

ภาพถ่ายโดย Yaroslav Shuraev จาก Pexels

ทาครีมกันแดด

     เพราะรังสี UV จากแสงแดดเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้คอลลาเจนเสื่อมสลาย แบะทำให้ผิวหนังสูญเสียความยืดหยุ่น เกิดริ้วรอยก่อนวัย และอาจนำไปสู่ปัญหาผิวอื่นๆ เช่น ฝ้า กระ จุดด่างดำ ซึ่งการทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง และมีประสิทธิภาพในการปกป้องทั้ง UVA และ UVB จะช่วยลดความเสียหายจากแสงแดด ชะลอการเสื่อมสลายของคอลลาเจน และช่วยให้ผิวคงความอ่อนเยาว์ ดูสุขภาพดี นอกจากนี้ยังควรทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ ทุกวัน แม้ในวันที่ฟ้าปิด หรืออยู่ในร่ม เพราะรังสี UV สามารถทะลุผ่านเมฆและกระจกได้

ภาพถ่ายโดย Yaroslav Shuraev จาก Pexels

การใช้แสง LED สีแดงกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน

     การใช้แสง LED สีแดงจะช่วยกระตุ้นการสร้างเส้นใยคอลลาเจน โดยกลไกการทำงานของแสง LED สีแดงนั้นช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของไมโทคอนเดรีย (Mitochondria) ซึ่งเป็นแหล่งผลิตพลังงานในเซลล์ และเมื่อการทำงานของไมโทคอนเดรียที่ดีขึ้น จะช่วยให้เซลล์มีพลังงานมากขึ้น สามารถซ่อมแซมตัวเองได้ดีขึ้น และชะลอความเสื่อมของเซลล์ ทำให้ผิวหนังดูอ่อนเยาว์ และแก่ช้าลงนั่นเอง โดยวิธีนี้จะซื้อมาสก์มาทำเองที่บ้าน หรือไปทำที่คลินิกก็ได้