WELLNESS

บอกต่อสูตรดีท็อกซ์ลําไส้ธรรมชาติ รีเซ็ตระบบย่อยอาหารให้สุขภาพดี

คืนความสมดุลให้ระบบย่อยอาหารด้วยการดีท็อกซ์ลำไส้ธรรมชาติ ช่วยลดอาการท้องผูก ท้องอืด ท้องเฟ้อ รวมถึงช่วยให้ผิวพรรณสดใสขึ้น

     เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า “ลำไส้” เป็นอวัยวะสำคัญในระบบย่อยอาหาร โดยจะทำหน้าที่ย่อยอาหาร ดูดซับสารอาหาร และกำจัดของเสียออกจากร่างกาย แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ลำไส้ไม่สะอาด นั่นอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพต่างๆ เช่น ท้องผูก ท้องอืด ท้องเฟ้อ ส่งผลไปจนถึงผิวพรรณหมองคล้ำ ฉะนั้นการดีท็อกซ์ลำไส้ธรรมชาติจึงเป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการคืนความสมดุลให้กับระบบย่อยอาหารและปรับปรุงการทำงานของสุขภาพโดยรวม ซึ่งการดีท็อกซ์ลำไส้ทำได้อย่างไรนั้น โว้กบิวตี้ก็มีสูตรมาบอกต่อกันในบทความนี้

 

 

ประโยชน์ของการดีท็อกซ์ลำไส้

     การดีท็อกซ์ลำไส้ไม่เพียงเป็นการทำความสะอาดและเซ็ตระบบการทำงานของลำไส้เท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ต่อร่างกายในด้านอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น

  • การย่อยอาหารทำงานดีขึ้น: การล้างลำไส้ช่วยในการกำจัดสารพิษและของเสียออกจากระบบทางเดินอาหาร ซึ่งจะช่วยในการย่อยอาหารและลดปัญหาท้องผูก
  • ภูมิคุ้มกันดีขึ้น: ลำไส้ที่แข็งแรงช่วยให้ร่างกายดูดซับและใช้สารอาหารจากอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงเช่นกัน ซึ่งจะช่วยปกป้องร่างกายจากการติดเชื้อและโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ 
  • ลดการอักเสบ: การดีท็อกซ์ลำไส้ช่วยกำจัดสารพิษและของเสียออกจากลำไส้ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการอักเสบ
  • ผิวพรรณสดใสขึ้น: การดีท็อกซ์ลำไส้ช่วยกำจัดของเสียและสารพิษออกจากลำไส้ พร้อมช่วยปรับปรุงการดูดซึมสารอาหารให้ดีขึ้น เช่น วิตามิน A, C และ E ซึ่งเป็นสารอาหารที่ช่วยให้ผิวสุขภาพดี
  • น้ำหนักลดลง: การดีท็อกซ์จะช่วยปรับปรุงระบบการเผาผลาญแคลอรี่ ซึ่งช่วยลดความอยากอาหาร นำไปสู่การบริโภคที่น้อยลงและน้ำหนักลดลงตาม

 

 

สูตรที่ 1: หัวบีทรูท ขิง ขมิ้น พริกไทยดำ และน้ำมะนาว

     สูตรแรกนี้มีส่วนผสม 5 อย่าง ได้แก่ บีทรูทหั่นบาง, ขิง, ผงขมิ้น, พริกไทยดำ และน้ำมะนาว นำทุกอย่างไปปั่นจนเนียน และดื่มสดๆ ภายใน 1 ชั่วโมง โดยสูตรนี้มีประโยชน์ต่อลำไส้ไปเต็มๆ ไม่ว่าจะเป็น

  • หัวบีทรูท: อุดมไปด้วยไฟเบอร์ ช่วยกระตุ้นการขับถ่ายและล้างสารพิษออกจากร่างกาย 
  • ขิง: มีคุณสมบัติต้านการอักเสบและช่วยบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ
  • ขมิ้น: มีสารเคอร์คูมินที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ช่วยปกป้องเยื่อบุลำไส้
  • พริกไทยดำ: ช่วยเพิ่มการดูดซึมสารเคอร์คูมินในขมิ้น และกระตุ้นการย่อยอาหาร
  • น้ำมะนาว: อุดมไปด้วยวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยกระตุ้นการขับถ่ายและปรับสมดุลค่า pH ในร่างกาย

 

สูตรที่ 2: แอปเปิลไซเดอร์ + น้ำผึ้ง + น้ำอุ่น

     สูตรนี้จะช่วยดีท็อกซ์ลำไส้และบรรเทาอาการท้องผูกได้ดี เพียงผสมน้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ และแอปเปิ้ลไซเดอร์ 2 ช้อนโต๊ะ ลงในในน้ำอุ่น 240 มิลลิลิตร และนำมาดื่มก่อนนอน โดยส่วนผสมทั้งสองอย่างนี้มีคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์อยากมากต่อระบบย่อยอาหาร ได้แก่

  • แอปเปิ้ลไซเดอร์: มีกรดอะซิติกซึ่งช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ไม่ดีในลำไส้ ช่วยย่อยโปรตีนและไขมัน ทำให้การย่อยอาหารง่ายขึ้น ทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์ในลำไส้
  • น้ำผึ้ง: มีคุณสมบัติเป็นพรีไบโอติก ซึ่งเป็นอาหารสำหรับแบคทีเรียที่ดีในลำไส้ ช่วยบรรเทาอาการท้องผูกโดยกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ให้ทำงานได้ดีขึ้น

 

สูตรที่ 3: น้ำเกลือ 

     น้ำเกลือถูกนำมาใช้ดีท็อกซ์ลำไส้กันมานานหลายปีแล้ว โดยน้ำเกลือจะเข้าไปทำความสะอาดลำไส้ และบังคับร่างกายให้ขับถ่าย โดยสูตรนี้เหมาะมากสำหรับผู้ที่รับประทานอาหารที่ไม่ค่อยดี และมีของเสียสะสมในลำไส้เป็นเวลานาน ซึ่งสูตรนี้ทำได้ง่ายๆ เพียงเติมเกลือทะเล 2 ช้อนชาลงในน้ำอุ่น 1 ลิตร (สามารถเติมมะนาวได้เล็กน้อยเพื่อรสชาติที่ดื่มง่ายขึ้น) จากนั้นคนให้ละลายเข้ากัน และนำน้ำเกลือที่ได้มาดื่มในขณะท้องว่าง สูตรนี้จะช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ใหญ่ และทำให้รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำภายในไม่กี่นาที 

 

Editor’s Tips: การดีท็อกซ์ลำไส้ไม่เหมาะสำหรับทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเรื้อรังหรือกำลังรับประทานยาใดๆ ก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ก่อนจะดีที่สุด นอกจากนี้การดีท็อกซ์ลำไส้ยังเป็นเพียงวิธีทำความสะอาดลำไส้ที่ปลายทางเท่านั้น ทว่าระบบย่อยอาหารจะมีสุขภาพดีได้ควรเริ่มต้นที่การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพและมีวิถีชีวิตที่สมดุล

 



WATCH



WATCH

TAGS : Detox