การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มคือการฉีดสารเติมเต็มกรดไฮยาลูรอนิกเข้าไปเติมเต็มใต้ผิวหนังบริเวณร่องแก้ม โดยฟิลเลอร์จะทำหน้าที่ช่วยกักเก็บน้ำไว้ในชั้นใต้ผิวหนัง และเติมเต็มในส่วนที่ยุบตัวลง ช่วยปรับใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ ผิวดูสดชื่นขึ้น โดยสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาในการพักฟื้น เหมาะสำหรับที่มีปัญหาร่องแก้มลึก ผิวแห้ง ผิวหย่อนคล้อย ใครกำลังตัดสินใจอยากฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม นี่คือ 6 ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจทำหัตถการ

 

อาการข้างเคียง

     อาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังฉีดฟิลเลอร์คืออาจมีรอยแดงจากเข็ม แต่จะหายไปเองได้ใน 2-3 วัน ส่วนอาการบวมหลังฉีดเป็นเรื่องปกติ สามารถหายบวมไปเองได้ ประมาณ 7-14 วัน ซึ่งเป็นเวลาที่ฟิลเลอร์จะเข้าที่และเห็นผลลัพธ์ชัดเจนได้มากขึ้น โดยแนะนำให้หลีกเลี่ยงการแตะ เกา และกดนวดในจุดที่ฉีด เพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบได้

 

งดรับประทานอาหารบางชนิด

     ควรงดทานอาหารบางอย่างที่ส่งผลต่อการอักเสบและบวม ได้แก่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด อาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อนๆ เช่น หมูกระทะ ชาบู อาหารหมักดอง อาหารดิบจากร้าน พร้อมทั้งงดสูบบุหรี่ เพราะจะทำให้หน้าหายบวมช้าและส่งผลให้ฟิลเลอร์อยู่ได้สั้นลงด้วย

 

ใช้ปริมาณฟิลเลอร์เพียงเล็กน้อย

     โดยทั่วไปแล้วการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มถ้ามีปัญหาไม่มากจะใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 1-2 CC แต่บางคนที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป มักมาพร้อมกับปัญหาร่องแก้มลึกที่เกิดจากการยุบของกระดูกใต้ตาค่อนข้างมาก ทำให้เนื้อแก้มด้านบนหย่อนลงมากองที่เหนือร่องแก้ม ทำให้ร่องแก้มดูลึก จึงต้องใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 3-4 CC นั่นเอง

 

เหมาะสำหรับคนที่มีผิวแห้งมาก

     ฟิลเลอร์ร่องแก้มจะช่วยแก้ปัญหาผิวแห้งหรือตากแดดบ่อย เพราะผิวประเภทนี้จะมีชั้นผิวที่บางลง เกิดรอยพับได้ง่าย สามารถใช้ฟิลเลอร์เติมความชุ่มชื้นลงในชั้นผิวหนัง โดยเลือกใช้ฟิลเลอร์โมเลกุลเล็กเพื่อให้เรียบเนียนไปกับผิวไม่เป็นก้อน เก็บรายละเอียดในผิวชั้นตื้นได้ดี

     เมื่อร่องแก้มลึกก็จะทำให้ใบหน้าดูโทรม มีอายุ ไม่สดชื่น ฉะนั้นการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มจะช่วยให้ใบหน้ากลับมาดูอ่อนกว่าวัย ร่องแก้มดูตื้นขึ้น ใบหน้ายกกระชับ ผิวบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ชุ่มชื้นขึ้น ผิวจึงเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น ทั้งยังไม่ต้องเจ็บตัวผ่าตัดหรือใช้เวลาพักฟื้นนาน ตอบโจทย์สำหรับคนที่อยากเสริมความมั่นใจแบบทันใจ