SKINCARE

รวม ‘ครีมวิตามินอี’ บำรุงผิวให้เนียนนุ่ม ชุ่มชื้น พร้อมลดเลือนริ้วรอยให้ดูจางลง

นี่คือครีมวิตามินอีที่โว้กบิวตี้อยากแนะนำ

     อย่างที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า “วิตามินอี (Vitamin E)” เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์อย่างมากต่อสุขภาพผิว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดจากแสงแดดและมลภาวะต่างๆ รวมถึงช่วยให้ผิวเรียบเนียน ชุ่มชื้น และลดริ้วรอยให้แลดูจางลงด้วย นั่นทำให้ครีมวิตามินอีเป็นอีกหนึ่งสกินแคร์ที่ควรใส่ในรูทีนดูแลผิว โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งกร้าน ผิวคล้ำเสีย มีริ้วรอย จุดด่างดำ หรือมีรอยแผลเป็น และต่อไปนี้คือครีมวิตามินอีใช้ดีที่โว้กบิวตี้อยากแนะนำ

 

 

1. MEDMAKER Vitamin E Cream (ขนาด 20 กรัม ราคา 150 บาท / ขนาด 50 กรัม ราคา 250 บาท)

     ครีมวิตามินอีจาก MEDMAKER ใช้บำรุงได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย มาพร้อมวิตามินอีเข้มข้น 5.5% รวมถึงส่วนผสมของโจโจ้บาออยล์และวิตามิน B5 ช่วยลดเลือนรอยแผลเป็น รอยแดงรอยดำจากสิว ริ้วรอย ให้ผิวเรียบเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น ริ้วรอยต่างๆ ดูจางลง ทั้งนี้ยังช่วยปรับและฟื้นฟูเซลล์ผิวให้แข็งแรงขึ้น จากการเสื่อมสภาพอันเนื่องมาจากวัยที่เพิ่มขึ้น มลภาวะ และสภาพอากาศ รวมถึงช่วยลดอาการระคายเคืองผิวจากแสงแดดได้ดี เนื้อครีมมีความเนียน ซึมและ เกลี่ยง่าย ไม่ทำให้รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ

 

 

2. Inkey List B, C, and E Moisturizer (ขนาด 50 มิลลิลิตร ราคา 440 บาท)

     มอยส์เจอไรเซอร์ที่ผสานส่วนผสมวิตามินจำเป็นหลากชนิดที่ช่วยบำรุงผิวให้มีผิวสุขภาพดี ไม่ว่าจะเป็นวิตามิน B3 ที่ช่วยปรับสมดุลผิว วิตามิน C ทำหน้าที่เพิ่มความกระจ่างใส และที่สำคัญคือวิตามิน E ซึ่งทำหน้าที่ปลอบประโลมผิว มาพร้อมเนื้อสัมผัสบางเบา ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว และที่สำคัญยังให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวโดยไม่ทำให้ผิวมัน เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว รวมถึงผิวแพ้ง่าย และสามารถใช้ได้เป็นประจำทุกวัน

 



WATCH



 

3. The Body Shop Vitamin E Moisture Cream (ขนาด 50 มิลลิลิตร ราคา 720 บาท)

     มอยส์เจอไรเซอร์จาก The Body Shop ที่โดดเด่นด้วยประสิทธิภาพในการมอบชุ่มชื้นได้ยาวนาน 48 ชั่วโมง โดยมีส่วนผสมของวิตามินอี กรดไฮยาลูโรนิก และน้ำมันจมูกข้าวสาลี ที่ทั้งช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ในผิว ทำให้ผิวรู้สึกนุ่ม ชุ่มชื้น และยืดหยุ่นตลอดทั้งวัน ทั้งยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ชวนผ่อนคลาย นอกจากนี้ยังเป็นวีแกนและปราศจากพาราเบน เหมาะกับทุกสภาพผิว รวมถึงผิวบอบบางแพ้ง่ายสามารถใช้ได้อย่างไร้กังวล

 

 

4. Smooth E Cream 100% Nature-Source (ขนาด 40 กรัม ราคา 470 บาท)

     ไม่พูดถึงคงไม่ได้สำหรับ Smooth E Cream ครีมบำรุงผิวจากธรรมชาติ 100% ที่แค่ชื่อแบรนด์ก็รู้ทันทีว่ามีวิตามินอีเป็นส่วนผสมหลัก โดยครีมมีประสิทธิภาพในการเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิวที่แห้งและขาดน้ำ ใช้แล้วผิวจะสัมผัสได้ถึงความนุ่มนวล พร้อมกันนั้นวิตามินอีที่เป็นส่วนผสมสำคัญในครีมยังช่วยฟื้นฟูผิวที่ได้รับความเสียหายจากแสงแดด มลภาวะ รวมถึงช่วยลดเลือนรอยแดง รอยดำ ริ้วรอย และแผลเป็นด้วย

 

 

5. Skinceuticals C E Ferulic Serum (ขนาด 30 มิลลิลิตร ราคาประมาณ 6,600 บาท)

     เซรั่มที่ดูแลผิวได้รอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นปกป้องผิวจากความเสียหายจากอนุมูลอิสระ ลดเลือนริ้วรอยและจุดด่างดำ ปรับโทนสีผิว และเพิ่มความชุ่มชื้น ทรงพลังด้วยส่วนผสมของวิตามิน C และ E ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน และปกป้องผิวจากความเสียหายจากอนุมูลอิสระ อาทิ แสงแดดและมลภาวะต่างๆ นอกจากนี้ยังมีกรดเฟอริลิกที่เข้ามาเสริมทัพให้วิตามิน C และ E ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

 

     วิตามิน E เป็นส่วนผสมสำคัญที่พบได้ในสกินแคร์หลายประเภท นอกเหนือไปจากในครีม มอยส์เจอไรเซอร์ และเซรั่มแล้ว ยังมักถูกใช้เป็นส่วนผสมในครีมกันแดด มาสก์หน้า และลิปบาล์ม ซึ่งการเลือกใช้ ควรพิจารณาประเภทผิว ปัญหาผิว และความต้องการของผิวเป็นหลักเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีวิตามินอีที่เหมาะสมกับตนเองที่สุด

 

ภาพ : Courtesy of brands

WATCH