SKINCARE

‘Double Cleansing’ การทำความสะอาดผิวหน้าที่คนเป็นสิวง่ายหรือคนแต่งหน้าบ่อยควรทำ

ทำความรู้จัก ‘Double Cleansing’ การทำความสะอาดผิวหน้าแบบล้ำลึก 2 ขั้นตอน คืออะไร ทำไมควรทำ และเหมาะกับใคร?

     ‘Double Cleansing’ คือ การทำความสะอาดผิวหน้า 2 ขั้นตอน ซึ่งเป็นเทคนิคการดูแลผิวอย่างล้ำลึกที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด 2 ประเภทเพื่อขจัดสิ่งสกปรกออกจากผิว ซึ่งหลายคนอาจเคยได้ยินเทคนิคนี้มาก่อนแล้ว แต่อาจยังไม่รู้ว่าสำคัญอย่างไร และต้องทำอย่างไร? ในบทความนี้โว้กบิวตี้จะพาไปทำความรู้จักกับ Double Cleansing กันให้มากขึ้น

 

ภาพ: Freepik.com

จุดเริ่มต้นของ Double Cleansing

     อันที่จริงแล้ว ‘Double Cleansing’ ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะวิธีนี้มีมานานแล้ว จุดเริ่มต้นเกิดที่เอเชียตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 14 ที่เกอิชาจะทำความสะอาดผิวหน้าโดยเริ่มจากการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดแบบน้ำมันก่อน จากนั้นจึงใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าแบบน้ำเพื่อล้างน้ำมันออกอีกที ซึ่งในญี่ปุ่นและเกาหลีการใช้น้ำมันเป็นวิธีเดียวที่จะขจัดสีขาวที่ผู้หญิงใช้ทาหน้าตามธรรมเนียมได้ 

 

การทำงานของ Double Cleansing

     ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีส่วนประกอบเป็นน้ำมันจะช่วยละลายและขจัดสิ่งสกปรกที่เป็นน้ำมันออกจากผิว เช่น ครีมกันแดด ผลิตภัณฑ์แต่งหน้า และซีบัมส่วนเกิน ในขณะเดียวกันผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีส่วนประกอบเป็นน้ำจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่ละลายน้ำได้ เช่น เหงื่อ สิ่งสกปรก รวมถึงช่วยชะล้างคราบน้ำมันที่หลงเหลืออยู่บนผิวหลังจากขั้นตอนการล้างหน้าโดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำมัน

 

ภาพ: Freepik.com

ประโยชน์ของการทำ Double Cleansing

     Double Cleansing หรือ การทำความสะอาดผิว 2 ขั้นตอนนั้นมีประโยชน์อย่างยิ่ง โดยเฉพาะสำหรับคนที่แต่งหน้าหรือใช้ครีมกันแดดเป็นประจำ เพราะจะช่วยทำความสะอาดผิวได้หมดจดยิ่งขึ้น ทั้งจากสิ่งสกปรกบนผิวและผิวชั้นลึกที่สะสมจากการทาเครื่องสำอางหนาๆ หรือกันน้ำและครีมกันแดดที่ทามาตลอดทั้งวัน โดยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่มีส่วนประกอบเป็นน้ำมันจะไปสลายสารมันบนผิวและทำให้เครื่องสำอางและครีมกันแดดให้หลุดออก ส่วนผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่มีส่วนประกอบเป็นน้ำจะเข้าทำงานต่อโดยขจัดสิ่งสกปรกและความมันที่เหลือทั้งหมดออกไป ทั้งหมดนี้จะช่วยให้สารออกฤทธิ์ในสกินแคร์ดูแลผิวสามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างล้ำลึกและทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น เนื่องจากการได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่ อีกทั้งยังช่วยป้องกันการอุดตันของรูขุมขนและการเกิดสิวด้วย

 



WATCH



Image by Shiny Diamond: https://www.pexels.com/th-th/photo/3762457/ 

ขั้นตอนการทำ Double Cleanse

  • ใช้เคลนเซอร์ที่มีน้ำมันเป็นส่วนประกอบ: ขั้นตอนแรกของการทำ Double Cleanse ขั้นตอนคือการทำความสะอาดผิวด้วยน้ำมัน เพื่อละลายเครื่องสำอาง ครีมกันแดด และสิ่งสกปรกอื่นๆ ที่มีน้ำมันเป็นส่วนประกอบ ซึ่งอาจล้างออกได้ยากด้วยน้ำเปล่าหรือเคลนเซอร์ทั่วไป 
  • นวดและล้างออก: จากนั้นใช้เวลาอย่างน้อย 30 วินาทีในการนวดเคลนเซอร์บนผิวที่แห้ง โดยให้ใส่ใจเป็นพิเศษกับบริเวณที่เครื่องสำอางมักจะเกาะอยู่ เช่น รอบดวงตา จมูก และไรผม จากนั้นใช้น้ำอุ่นเพื่อล้างออกก่อนเข้าสู่การทำความสะอาดในขั้นตอนที่สอง
  • การทำความสะอาดครั้งที่สอง: สำหรับการทำความสะอาดครั้งที่สองจะใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดแบบน้ำที่อ่อนโยน ไม่ว่าจะเป็น เจล หรือโฟม และให้ทำการนวดวนเป็นวงกลมบนผิวที่เปียก และล้างออกด้วยน้ำเปล่า สุดท้ายซับหน้าให้แห้งเบาๆ ด้วยผ้าขนหนูนุ่มๆ

 

ภาพ: Freepik.com

ทิปส์ในการทำความสะอาดผิวแบบ Double Cleansing เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

  • เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับสภาพผิว: สิ่งสำคัญคือการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เหมาะกับสภาพผิว โดยสำหรับผิวแห้งหรือผิวแพ้ง่ายให้เลือกสูตรที่อ่อนโยนและให้ความชุ่มชื้น สำหรับผิวมันหรือผิวเป็นสิวง่ายให้เลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น เอสเซนเชียลออยล์เพื่อช่วยควบคุมความมันส่วนเกินและการเกิดสิว
  • ควรทำ Double Cleansing ในช่วงเย็น: Double Cleansing ควรอยู่ในรูทีนช่วงเย็นเท่านั้นเพื่อหลีกเลี่ยงการทำความสะอาดผิวมากเกินไป และถึงแม้ว่านี่จะเป็นเทคนิคที่ดีสำหรับหลายๆ คน แต่หากมีผิวแห้งมากการทำความสะอาดผิวหน้าขั้นตอนเดียวอาจเหมาะกว่า
  • เลี่ยงการทำ Double Cleansing หากมีผิวบอบบาง: ผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย บอบบาง ไม่ค่อยได้แต่งหน้า ควรหลีกเลี่ยงการล้างหน้าแบบ Double Cleansing เพราะอาจทำให้ผิวแห้งและระคายเคืองได้

 

     Double Cleansing มีประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นช่วยขจัดเครื่องสำอาง ครีมกันแดด และความมันได้อย่างหมดจด ช่วยป้องกันการเกิดสิวหัวดำ และช่วยให้สกินแคร์ซึมซาบลึกลงสู่ผิวได้ดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตามผิวของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน เพราะฉะนั้นแนะนำให้สังเกตการตอบสนองของผิวและปรับรูทีนการทำความสะอาดให้เหมาะสมกับผิวจะดีที่สุด

 

ภาพ : Freepik.com

WATCH