วิธีกำจัดสิวเสี้ยวที่จมูกให้หมดเกลี้ยง!

ภาพถ่ายโดย Miriam Alonso จาก Pexels: https://www.pexels.com/th-th/photo/7623726/ 

ทำความสะอาดผิว

     เริ่มต้นที่การเตรียมผิวด้วยการล้างหน้าโดยใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่อ่อนโยนและเหมาะสมกับสภาพผิว ควรล้างหน้าอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น รวมถึงล้างหน้าทุกครั้งหลังออกกำลังกายด้วย เน้นการนวดเบาๆ บริเวณจมูกเพื่อช่วยเปิดรูขุมขน สามารถใช้น้ำอุ่นล้างหน้าก่อน แล้วล้างตามด้วยน้ำเย็นปิดท้ายเพื่อเป็นการปิดรูขุมขน

ภาพ: Freepik.com

เปิดรูขุมขน

     ก่อนกำจัดสิวเสี้ยน ควรทำการเปิดรูขุมขนก่อนเพื่อให้สิวเสี้ยนหลุดออกง่ายขึ้น ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี อาทิ

• ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่น: นี่เป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกที่สุด นำผ้าขนหนูสะอาดชุบน้ำอุ่น (ไม่ร้อนจัด) บิดให้หมาดแล้วประคบลงบนจมูกประมาณ 5-10 นาที ความร้อนจะช่วยให้รูขุมขนขยายตัว
• อังไอน้ำ:  การนั่งอาบน้ำอุ่นหรือใช้ไอน้ำจากหม้อน้ำร้อน (ระวังอย่าให้ไอน้ำร้อนเกินไป) โดยให้จมูกอังไอน้ำประมาณ 10-15 นาที  วิธีนี้จะช่วยเปิดรูขุมขนได้เช่นกัน แต่ต้องระวังอย่าให้ไอน้ำร้อนเกินไป
• ใช้เครื่องสตีม (Facial Steamer):  เครื่องสตีมหน้าจะปล่อยไอน้ำออกมาอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้การเปิดรูขุมขนทำได้ง่ายและสะดวก และควบคุมอุณหภูมิได้ดีกว่าการใช้ไอน้ำจากวิธีอื่นๆ

ภาพ: Freepik

ใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยน

     แผ่นลอกสิวเสี้ยนเป็นวิธีที่รวดเร็วและง่ายในการกำจัดสิวเสี้ยน แผ่นลอกสิวเสี้ยนมีสารละลายที่ออกแบบมาเพื่อละลายกาวที่ยึดสิวเสี้ยนไว้กับผิวหนัง เมื่อแผ่นลอกสิวเสี้ยนแห้งแล้ว ให้ลอกออกอย่างช้าๆ เพื่อกำจัดสิวเสี้ยน แต่อย่างไรก็ตาม แผ่นลอกสิวเสี้ยนจะไม่สามารถป้องกันสิวเสี้ยนไม่ให้กลับมาซ้ำอีกได้ เนื่องจากแผ่นลอกสิวเสี้ยนไม่ได้ช่วยควบคุมการผลิตน้ำมันของผิวหนังนั่นเอง นอกจากนี้ไม่แนะนำให้ใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยนบ่อยเกิน 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพราะแผ่นลอกสิวเสี้ยนจะไปขจัดน้ำมันธรรมชาติที่เป็นประโยชน์ต่อผิวหนัง ซึ่งอาจทำให้ผิวระคายเคืองและแห้งได้หากลอกสิวเสี้ยนบ่อยๆ

ภาพถ่ายโดย Anna Nekrashevich จาก Pexels: https://www.pexels.com/th-th/photo/6476085/ 

สกัดสิวเสี้ยน

     การสกัดสิวเสี้ยนคือกระบวนการกำจัดสิวเสี้ยนออกจากรูขุมขนโดยตรง เป็นอีกวิธีที่สามารถทำได้ แต่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยจะต้องใช้เครื่องมือสกัดสิวเสี้ยนที่ฆ่าเชื้อสะอาดแล้ว ค่อยๆ กดสิวเสี้ยนออกจากรูขุมขน หลีกเลี่ยงการกดสิวเสี้ยนที่ฝังลึกหรืออักเสบ เพราะอาจทำให้เกิดแผลเป็นหรือการติดเชื้อได้

ภาพ: Freepik.com

ใช้ครีมกันแดดแบบ Oil-Free

     สิ่งสำคัญในการดูแลผิวคือการทาครีมกันแดด ไม่ว่าจะมีผิวแห้ง ผิวมัน ผิวแพ้ง่าย หรือผิวที่มีปัญหาสิว ล้วนจำเป็นต้องทาครีมกันแดดทุกวัน แต่เพื่อลดสิวเสี้ยน แนะนำให้ทาครีมกันแดดแบบ Oil-Free หรือไม่มีส่วนผสมของน้ำมันเพื่อที่จะได้ไม่ไปเพิ่มน้ำมันส่วนเกินที่จะสะสมรวมกับเซลล์ที่ตายแล้ว และไปอุดตันรูขุมขนจนเกิดเป็นสิวเสี้ยนในที่สุด

ภาพ: Freepik.com

ผลัดเซลล์ผิวด้วย AHA/BHA

    เพื่อเป็นการกำจัดสิวเสี้ยน แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีกรดอัลฟ่าและเบตาไฮดรอกซี (AHA และ BHA) ซึ่งกรดเหล่านี้เป็นกรดที่อ่อนโยนที่ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ช่วยทำความสะอาดรูขุมขน พร้อมเปิดทางให้ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดีและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตามควรเริ่มใช้ในความเข้มข้นต่ำและค่อยๆ เพิ่มขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวระคายเคือง และควรทาครีมกันแดดทุกครั้งหลังจากใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี AHA/BHA เพราะมันทำให้ผิวไวต่อแสงแดด

ภาพ: Freepik.com

ใช้มาสก์โคลน

     ตั้งแต่สมัยโบราณ “โคลน” ถูกใช้กำจัดน้ำมันส่วนเกินบนผิวหนัง และช่วยขจัดสิ่งสกปรกออกจากรูขุมขนที่อุดตันได้ มาสก์โคลนที่ประกอบด้วยดินหรือแร่ธาตุต่างๆ จะเข้าไปในรูขุมขนและค่อยๆ ชะล้างสิ่งสกปรกและน้ำมันออกไป และมาสก์โคลนบางชนิดที่มีซัลเฟอร์ด้วยก็จะยิ่งเสริมทัพการสลายเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก รวมถึงสิวเสี้ยนที่ฝังตัวอยู่ในรูขุมขน ทำให้สิวเสี้ยนหลุดออกมาได้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกันยังเป็นการทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึกด้วย

     สิวเสี้ยนที่จมูกเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน แม้มันจะไม่อักเสบและเป็นอันตรายร้ายแรง แต่ส่องกระจกทีไรก็สร้างความรำคาญใจได้ไม่น้อย แนะนำให้ลองใช้วิธีข้างต้นในการกำจัดสิวเสี้ยน ซึ่งไม่เพียงจะทำได้ที่บริเวณจมูกเท่านั้น ยังใช้วิธีเดียวกันในการกำจัดสิวเสี้ยนตำแหน่งอื่นๆ อีกได้ เช่น หน้าแก้ม และคาง เป็นต้น