MAKE UP

รู้หรือไม่ว่า Water Based และ Silicone Based แบบไหนคือแบบที่ใช่สำหรับผิวเรา

นี่คือความแตกต่างระหว่าง Water Based และ Silicone Based ของเบสเมกอัปที่ให้ผลลัพธ์ผิวสวยไม่เหมือนกัน

     รู้หรือไม่ว่าเมกอัปเบสที่เราใช้ชีวิตประจำวันอย่างไพรเมอร์ รองพื้น และคอนซีลเลอร์ มีส่วนผสมหลักที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งสองแบบหลักๆ ที่นิยมใช้กันคือ Water Based และ Silicone Based ซึ่งก็คือส่วนผสมหลักของ ‘น้ำ’ และ ‘ซิลิโคน’ นั่นเอง ทั้งสองแบบมีเนื้อสัมผัส ส่วนผสม และเหมาะสำหรับผิวแต่ละประเภทแตกต่างกัน รวมถึงให้ผลลัพธ์ของลุคเมกอัปที่ไม่เหมือนกันอีกด้วย โว้กบิวตี้พามาทำความรู้จักเพิ่มเติมกับรายละเอียดของเบสเมกอัปเหล่านี้ว่าแบบไหนคือแบบที่ใช่สำหรับผิวของเรา

 

Water Based

     แค่ชื่อก็พอรู้ได้แล้วว่าเป็นเบสเมกอัปที่มีส่วนผสมหลักของ ‘น้ำ’ โดยจะไม่มีซิลิโคนผสมอยู่หรือมีอยู่ปริมาณน้อยมาก มีเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างเหลวและบางเบากว่าซิลิโคน จึงมอบผลลัพธ์ผิวที่เป็นธรรมชาติ แลดูสุขภาพดี ทั้งยังไม่หนักผิวจนเกินไป ช่วยให้ผิวสามารถหายใจได้ เมกอัปเบสชนิดนี้จะเหมาะกับผิวแห้งถึงแห้งมาก รวมถึงผิวบอบบางและแพ้ง่าย เพราะไม่ค่อยมีส่วนผสมของซิลิโคนที่อาจจะเข้าไปอุดตันรูขุมขน และทำให้เกิดสิวต่างๆ ตามมาได้นั่นเอง หากใครที่มีผิวมันและอยากใช้เมกอัปเบสชนิดนี้ก็สามารถใช้ได้ เพียงแค่ลงในปริมาณที่ไม่เยอะจนเกิน เพื่อไม่ให้เกิดคราบระหว่างวันและเซ็ตด้วยผลิตภัณฑ์แบบแป้งตามก็จะช่วยให้ติดทนนานและเผยผิวสวยฉ่ำ

ไพรเมอร์ - เนื้อเหลวและมีความชุ่มชื้นมาก เหมือนได้ลงสกินแคร์บำรุงผิวไปในตัว เน้นเรื่องการเติมความชุ่มชื้น เพราะส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับส่วนผสมหลักของน้ำและกลีเซอรีน จึงเหมาะกับคนที่มีผิวแห้งหรือลงรองพื้นแล้วไม่ค่อยติดผิวเท่าที่ควร จะไม่ได้ช่วยเรื่องเบลอรูขุมขนเท่าซิลิโคนเบส

รองพื้น - เนื้อค่อนข้างเหลวอย่างชัดเจน มักอยู่ในรูปแบบของลิควิดรองพื้น ทินต์ มอยส์เจอไรเซอร์ หรือคุชชั่น เกลี่ยและเนียนเข้ากับผิวได้ง่าย ปกปิดปานกลาง มีความชุ่มชื้นสูง จึงเหมาะเป็นพิเศษกับผิวแห้งหรือผิวขาดน้ำ เพราะช่วยเติมความชุ่มชื้นและไม่ทำให้ผิวแห้งลอกระหว่างวัน

คอนซีลเลอร์ - ส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบของลิควิดคอนซีลเลอร์ที่เป็นแบบจิ้มจุ่มมากกว่าแบบกระปุกหรือแท่ง เพราะเนื้อสัมผัสบางเบา เกลี่ยง่าย ไม่ค่อยเป็นคราบ แต่ยังให้การปกปิดที่ดี เหมาะกับการใช้บริเวณใต้ตา ร่องแก้ม หรือเพิ่มความสว่างให้ส่วนที่กระทบแสงบนใบหน้า

 

Hydro Grip Primer จาก Milk Makeup (ราคา 1,790 บาท)

Soft'Lit Luminous Foundation จาก Fenty Beauty (ราคา 1,750 บาท)



WATCH



Revealer Super Creamy + Brightening Concealer จาก KOSAS (ราคา 1,350 บาท)

Silicone Based

     ซิลิโคนที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรมความงามคือ Dimethicone, Cyclomethicone หรือสารที่ลงท้ายด้วยคำว่า -cone และ -siloxane ซึ่งจะช่วยให้เนื้อผลิตภัณฑ์มีความนุ่มลื่น ชุ่มชื้น และเกลี่ยง่าย ช่วยสร้างเกราะป้องกันและอำพรางในส่วนของรูขุมขนและร่องต่างๆ ให้เรียบเนียนมากขึ้น ทั้งยังช่วยล็อกความชุ่มชื้นที่มีอยู่ใต้ชั้นผิวไม่ให้ระเหยออกไปได้ง่าย เหมาะสำหรับผิวผสม ผิวมัน หรือผิวที่มีรูขุมขนกว้าง นอกจากจะช่วยเบลอรูขุมขนแล้ว ยังช่วยให้เมกอัปยึดเกาะกับผิวได้ดี ติดทนนานอีกด้วย หากใครมีผิวแห้งขาดน้ำแล้วอยากให้เมกอัปติดทน สามารถบำรุงผิวด้วยสกินแคร์ให้ชุ่มชื้นดีเสียก่อนแล้วค่อยลงไพรเมอร์ชนิดนี้ก่อนเริ่มการแต่งหน้าได้

ไพรเมอร์ - ซิลิโคนในไพรเมอร์จะช่วยสร้างฟิล์มบางๆ บนชั้นผิว มีเอฟเฟกต์สำคัญคือการช่วยเบลอและเติมเต็มรูขุมขนให้เรียบเนียนยิ่งขึ้น ช่วยให้เมกอัปติดทนนาน คุมมันได้ดี ทั้งยังมีเนื้อสัมผัสบางเบา ซึมซาบง่าย เหมาะสำหรับผิวผสมหรือผิวมัน แต่ก็สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิวแม้แต่ผิวแห้งขาดน้ำ

รองพื้น - รองพื้นที่มีส่วนผสมของซิลิโคนจะมีความหนักกว่าส่วนผสมของน้ำเล็กน้อย ซึ่งจะให้การปกปิดสูงและติดนาน จะช่วยพรางรูขุมขนกว้างและปกปิดริ้วรอยต่างๆ มักมาในรูปแบบของรองพื้นเนื้อลิควิดหรือแบบแท่ง นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติกันเหงื่อและกันน้ำได้ดีอีกด้วย

คอนซีลเลอร์ - คอนซีลเลอร์ประเภทนี้จะมีความหนาขึ้นมาเล็กน้อย แต่ข้อดีคือช่วยปกปิดในส่วนของรอยสิวและจุดด่างดำได้ดี แต่ถ้าใครกลัวเรื่องเป็นคราบ แนะนำให้นำมาวอร์มบนหลังมือเสียก่อน อุณหภูมิบนนิ้วของเราจะช่วยให้เนื้อคอนซีลเลอร์เกลี่ยง่าย ปกปิดได้เรียบเนียน ดูเป็นผิวกว่าเดิม

 

Timeless™ Smoothing Primer จาก Tarte (ราคา 1,350 บาท)

Fit Me Matte & Poreless Foundation จาก Maybelline (ราคา 399 บาท)

Radiant Creamy Concealer จาก NARS (ราคา 1,500 บาท)

ภาพ : @moonjihae_, Courtesy of brands

WATCH