เมื่อแวดวงเมกอัพยังวนอยู่กับความสวยตามแบบฉบับของมาตรฐานความงามที่แม้จะถูกดัดแปลงหรือปรับเปลี่ยนให้เข้ายุคเข้าสมัย แต่ยังเป็นสิ่งที่สร้างความเจ็บปวดให้กับหลายคนในสังคมได้ ปัจจุบันจึงยังเกิดการเคลื่อนไหวทางสังคมเพื่อสร้างความตระหนักเรื่องนี้อยู่เรื่อยๆ ซึ่งหนึ่งในวิธีที่ร่วมการขับเคลื่อนนี้คือการถ่ายทอดผ่านภาพศิลปะ และที่สร้างสรรค์ไปกว่านั้นคือการใช้เมกอัพมาเป็นศิลปะที่ใช้เปิดโปงและเสียดสีสังคมแห่งความงาม

ศิลปะบนใบหน้า

ใบหน้าของมนุษย์เราเปรียบเสมือนศิลปะอย่างหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นจากธรรมชาติ ด้วยพัฒนาการของมนุษย์ทำให้เราเรียนรู้การแสดงออกผ่านการกระทำของอวัยวะหรือร่างกายและใบหน้า รวมถึงเรียนรู้การเปลี่ยนแปลงของร่างกายตามช่วงอายุเช่นกัน แต่ด้วยมาตรฐานและแนวคิดบางอย่างทำให้การเปลี่ยนแปลงหรือความแตกต่างของร่างกายแต่ละคนถูกตัดสินทันทีที่มองเห็น

ยกตัวอย่างภาพด้านบนของ Makeup Brutalism ที่แสดงถึงปัญหาและการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติของใบหน้าเรา ทั้งรอยคล้ำใต้ตา ริ้วรอยตีนกา ชั้นตาตก สีผิวซีดจาง ที่ทำให้เกิดคำถามจากคนรอบข้างว่าเขากำลังความโศกเศร้าหรือมีความรู้สึกไม่ดีหรือไม่ แต่นี่คือธรรมชาติของใบหน้าที่เกิดขึ้นได้ตามกาลเวลา

อีกหนึ่งศิลปะที่น่าสนใจคือการนำ ‘Synesthesia’ หรือการรับรู้ทางประสาทสัมผัสทำงานพร้อมกัน 2 อย่าง (เช่น เมื่อได้ยินเสียงจะเห็นภาพเป็นรูปร่าง) มารวมเข้ากับการแต่งหน้า อย่างคลิปวิดีโอด้านบนที่ Makeup Brutalism ร่วมงานกับแบรนด์เครื่องเสียงอย่าง Playtronica เมื่อเริ่มแต่งหน้าหรือเกิดการสัมผัสกันจะมีเสียงเกิดขึ้นตาไปด้วย ถือเป็นประสบการณ์ที่น่าสนใจอย่างหนึ่งของทั้งศิลปะและธรรมชาติของร่างกายทีเดียว   

เมกอัพกับการเสียดสีสังคม

ภาพเมกอัพที่ถูกโพสต์ลงในบัญชี Makeup Brutalism ส่วนใหญ่สะท้อนถึงปัญหาสังคมอยู่ไม่น้อย ซึ่งภาพบางชิ้นอาจต้องใช้การตีความอยู่บ้าง แต่หากลองดูไปเรื่อยๆ เรื่องราวที่ถูกสื่อสารผ่านเมกอัพอันเป็นศิลปะนี้ เกิดขึ้นอยู่รอบตัวเราหรือบางครั้งอาจเกิดขึ้นกับตัวเราเอง

อย่างการเขียนอายไลเนอร์ที่วาดเส้นบริเวณหางตาถูกหักลง เปรียบเสมือนการการฉีกกฎเกณฑ์เดิมๆ ที่กลายเป็นมาตรฐานอันแสนทรหด

หรือการเอาอายเมกอัพลุคมาเปลี่ยนเป็นรอยสักชั่วคราว และนำไปแปะลงบนส่วนอื่นๆ ของร่างกาย เพื่อสะท้อนความจริงของการวิพากษ์วิจารณ์ทั้งหน้าตาและเรือนร่างของผู้คนในปัจจุบัน ซึ่งรวมถึงตัวเราเองเช่นกัน

นี่คือ ‘เสียง’ ของฉัน

Ester Magyar บุคคลผู้เป็นเจ้าของบัญชีอินสตาแกรมนี้ได้กล่าวผ่านโพสต์ว่า ศิลปะที่เธอได้ลงมือสร้างสรรค์ด้วยตัวเองนี้ไม่ได้ทำเพื่อให้ตนเองกลายเป็น ‘บิวตี้อินฟลูเอนเซอร์’ หรือ ‘บิวตี้บล็อกเกอร์’ ผู้มีชื่อเสียง แต่เธอเพียงต้องการใช้ ‘เสียง’ ผ่านพื้นที่ออนไลน์นี้เพื่อส่งสารที่ต้องการบอกไปสู่สังคมเท่านั้น 

ดังนั้นเราจึงเห็นได้ว่าผลงานหลายชิ้นของเธอมีความตรงไปตรงมาและบางครั้งก็เสียดสีความจริงในสังคมได้อย่างชัดเจน