BODY
10 สเต็ปทำสปาเล็บเองที่บ้าน กับประโยชน์ที่รู้แล้วต้องทำตาม หากอยากให้เล็บสุขภาพดีแชร์ขั้นตอนการทำสปาเล็บด้วยตัวเองง่ายๆ |
สำหรับสาวๆ ที่ชื่นชอบการทำเล็บ ไม่ว่าจะเป็น การทาสี เพ้นท์เล็บ หรือต่อเล็บ คงต้องเคยได้ยินหรือผ่านการทำสปาเล็บกันมาอย่างแน่นอน เพราะการทำสปาเล็บจะช่วยบำรุงหน้าเล็บให้แข็งแรง ลดการเปราะขาดง่าย อีกทั้งยังช่วยให้ผ่อนคลาย และเสริมสุขภาพเล็บให้ดีขึ้นด้วย แต่การจะทำสปาเล็บนั้นไม่จำเป็นต้องไปทำที่ร้านเสมอไป วันนี้โว้กบิวตี้มาพร้อมกับสเต็ปการทำสปาเล็บด้วยตัวเองง่ายๆ ที่บ้าน พร้อมบอกประโยชน์ของที่หลายคนอาจยังไม่รู้มาก่อน
ประโยชน์ของการทำสปาเล็บ
1) บำรุงมือและเล็บให้สุขภาพดี ในแต่ละวันมือและเล็บของเราต้องสัมผัสกับสิ่งต่างๆ มากมาย จนทำให้เกิดการสะสมสิ่งสกปรกหรือเชื้อโรคที่บริเวณซอกเล็บ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เล็บพังได้ การทำสปาเล็บจึงเป็นการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วจากมือและเล็บออกไป ทำให้มือดูเนียนนุ่มและเล็บสะอาดสุขภาพดี
2) สร้างความผ่อนคลาย การทำสปาเป็นวิธีการผ่อนคลายรูปแบบหนึ่ง ช่วยลดความเครียด ลดอาการเมื่อยล้า และช่วยปรับสมดุลการไหลเวียนของเลือดให้ทำงานได้ดีขึ้น
3) ลดโอกาสเกิดโรค เนื่องจากซอกเล็บเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคอย่างดี การทำสปาเล็บมือจะช่วยทำความสะอาดให้เล็บและมือสะอาด ช่วยลดโอกาสการเกิดโรคต่างๆ ได้
4) เพิ่มความมั่นใจ เล็บถือว่าเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของร่างกาย การมีสุขภาพเล็บที่สวยสุขภาพดีจะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับเราได้มากขึ้น
10 ขั้นตอนการทำสปาเล็บด้วยตัวเอง
Step 1: ล้างสีเล็บ
ขั้นตอนแรกคือการล้างสีเล็บออก ใช้สำลีชุบน้ำยาล้างเล็บและแตะเล็บไว้สักพักเพื่อให้สีเล็บหลุดออกได้ง่ายขึ้น จากนั้นลูบออกอย่างเบามือ สำหรับใครที่ทำเล็บเจลและต้องการถอดเอง สามารถเข้าไปอ่านวิธีการถอดเล็บเจลได้ที่ วิธีล้างเล็บเจลที่บ้าน
Step 2 : ตัดเล็บให้เรียบร้อย
ขั้นตอนต่อมาคือการตัดเล็บให้เรียบร้อย ไม่ควรปล่อยให้เล็บยาวเกินไป เพราะจะเสี่ยงฉีกขาดได้ง่าย รวมถึงเพื่อลดโอกาสการสะสมแบคทีเรียในซอกเล็บ
Step 3: ตะไบเล็บ
ตะไบเล็บให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ แนะนำว่าให้ตะไบไปทางเดียวกัน ไม่ควรตะไบย้อนกลับไปมา เพราะจะเป็นการทำลายหน้าเล็บ
Step 4: เล็มหนังกำพร้า
บริเวณขอบเล็บมักจะมีหนังกำพร้าส่วนเกิน หากปล่อยไว้อาจทำให้เนื้อฉีกขาด ดังนั้น จึงควรตรวจดูว่าบริเวณขอบเล็บมีหนังกำพร้าส่วนเกินนี้หรือเปล่าหากมีควรตัดออกให้หมด
Step 5: แช่มือในน้ำนมอุ่น
ขั้นตอนต่อมาคือการทำให้เซลล์ผิวนุ่มลง เพื่อเป็นการขจัดเซลล์ผิวหนังที่เสื่อมสภาพให้ออกไปง่ายขึ้น ด้วยการผสมน้ำอุ่นกับนมเข้าด้วยกัน ที่อัตรา 2:1 จากนั้นนำมือไปแช่ไว้ประมาณ 10 นาที ระหว่างแช่สามารถหยดน้ำมันมะกอกลงไปเพื่อเติมความชุ่มชื่นให้กับมือ
Step 6: สครับมือ
เลือกสครับที่ชอบมาสครับมือ โดยค่อยๆ ถูมือทั้งสองข้างไปมาช้าๆ และทิ้งไว้ 5 นาทีจากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด
Step 7: ลงมอยส์เจอไรเซอร์
ทามอยส์เจอไรเซอร์เพื่อเติมเต็มความชุ่มชื่น หรือสำหรับใครที่มีผลิตภัณฑ์บำรุงมือรูปแบบอื่นๆ เช่นมาส์กสำหรับมือก็ใช้ได้เช่นกัน
Step 8: ทาเบสโค้ต
หลังจากทำความสะอาดและบำรุงเล็บมือเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะทาสีทาเล็บแนะนำว่าให้ทาด้วยเบสโค้ตก่อน เพื่อช่วยป้องกันหน้าเล็บจากสีทาเล็บโดยตรง และยังมีส่วนช่วยให้ล้างสีเล็บออกได้ง่ายขึ้น
Step 9: ทาสีเล็บ
วิธีการทาสีควรเริ่มจากที่ปลายเล็บก่อน เพราะเป็นส่วนที่สีเล็บจะหลุดออกได้ง่ายที่สุด จากนั้นค่อยๆ ทาตามโคนเล็บและทาให้เต็มเล็บตามลำดับ
Step 10: ใช้ท็อปโค้ตและบำรุงเล็บ
เมื่อทาสีเล็บเรียบร้อยแล้ว ให้ปิดท้ายด้วยท็อปโค้ตหรือน้ำยาเคลือบเล็บ เพื่อให้สีของน้ำยาทาเล็บติดทนยาวนาน จากนั้นให้นำสำลีเช็ดทำความสะอาดบริเวณขอบเล็บที่เลอะ พร้อมบำรุงด้วยน้ำมันทาเล็บและแฮนด์ครีม
WATCH
สำหรับใครที่มีเวลาและอยากดูแลเล็บด้วยตัวเองแบบไม่ต้องง้อสปา ก็อย่าลืมลองนำวิธีข้างต้นไปทำตามกันได้เลย นอกจากนี้หากต้องการให้เล็บมีสุขภาพที่ดี ก็ควรเลือกน้ำยาทาเล็บที่ไม่ทำร้ายเล็บ รวมถึงทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อเล็บด้วย
WATCH