การทำเล็บเจลถือเป็นเทรนด์ความงามที่หลายคนหลงรัก เพราะช่วยให้เล็บสวย เงางาม และติดทนกว่ายาทาเล็บทั่วไป แต่ถ้าดูแลไม่ถูกวิธี เล็บเจลอาจหลุดไว และที่สำคัญคือทำให้หน้าเล็บบาง ฉีก หรือพังได้ง่าย โว้กบิวตี้มาบอก 6 เคล็ดลับที่ช่วยให้เล็บเจลติดทนและยังคงสุขภาพเล็บที่แข็งแรงเหมือนเดิม
-
เลือกช่างทำเล็บและผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน
เริ่มต้นด้วยวิธีสุดเบสิกที่หลายคนอาจมองข้าม ความแข็งแรงและความสวยของเล็บเจลเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนแรก ด้วยการเลือกช่างและร้านที่มีความชำนาญ เพราะการเตรียมหน้าเล็บที่ไม่ถูกวิธี เช่น การขัดหน้าเล็บแรงเกินไปหรือทำความสะอาดอย่างไม่ถูกต้อง อาจทำให้เล็บบางลงและเสียหายได้ อีกทั้งคุณภาพของผลิตภัณฑ์เจลที่ใช้ก็มีผล หากเป็นเจลราคาถูกหรือไม่ได้มาตรฐาน อาจทำให้เล็บเหลืองหรือหลุดล่อนง่าย นอกจากนี้อาจทำให้เกิดอาการแพ้และรายเคืองได้เช่นกัน ดังนั้นควรเลือกร้านที่ใช้ผลิตภัณฑ์คุณภาพดี และช่างที่ใส่ใจรายละเอียด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยและปลอดภัย
-
อย่าแกะหรือดึงเล็บเจลออกเอง
รู้หรือไม่ว่าพฤติกรรมที่ทำให้เล็บเสียมากที่สุดคือ การแกะหรือดึงเล็บเจลด้วยตัวเอง เพราะนอกจากเล็บเจลจะหลุดออกมาแล้ว ยังเป็นการดึงเอาชั้นหน้าเล็บธรรมชาติออกไปด้วย ส่งผลให้เล็บบาง ฉีกง่าย และเสี่ยงต่อการติดเชื้อ หากเล็บเริ่มหลุดหรือถึงเวลาที่ต้องถอดเล็บเจล ควรไปให้ช่างทำเล็บล้างออกอย่างถูกวิธี โดยใช้น้ำยาละลายเจลหรือเครื่องมือเฉพาะ วิธีนี้จะช่วยถนอมหน้าเล็บและลดการบาดเจ็บได้มากขึ้น
ภาพ: istock
-
รักษาความชุ่มชื้นของผิวรอบเล็บ
เล็บที่แห้งและเปราะง่ายจะทำให้เล็บเจลไม่ติดทน การบำรุงด้วยครีมทามือ หรือน้ำมันบำรุงหนังกำพร้าอย่าง Cuticle Oil เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม แนะนำให้ทาเป็นประจำ โดยเฉพาะหลังล้างมือหรืออาบน้ำ เพื่อรักษาสมดุลความชุ่มชื้นเล็บและผิวรอบๆ เล็บ นอกจากจะช่วยให้เล็บเจลติดทนขึ้นแล้ว ยังทำให้เล็บธรรมชาติแข็งแรง ไม่ฉีกหรือแตกง่าย
-
ปกป้องเล็บจากสารเคมี
การสัมผัสกับน้ำยาล้างจาน น้ำยาทำความสะอาด หรือสารเคมีต่างๆ เป็นตัวการใหญ่ที่ทำให้เล็บเจลเสื่อมสภาพเร็วขึ้นและหลุดล่อนง่าย นอกจากนี้ยังทำให้เล็บธรรมชาติแห้งและอ่อนแออีกด้วย หากต้องทำงานบ้าน เช่น ล้างจาน ซักผ้า หรือขัดห้องน้ำ ควรใส่ถุงมือยางทุกครั้ง เพื่อลดการสัมผัสสารเคมีโดยตรงและช่วยยืดอายุการติดทนของเล็บเจล และเมื่อทำความสะอาดเสร็จควรล้างมือและใช้ครีมบำรุงผิวมืออย่างเป็นประจำเช่นกัน
ภาพ: istock
-
ไม่ตัดเล็บสั้นจนเกินไป
บางคนอาจคิดว่าการตัดเล็บสั้นๆ จะช่วยให้เล็บเจลติดกับหน้าเล็บมากกว่าเดิม แต่ความจริงนั้นเล็บที่สั้นเกินไปอาจไม่มีพื้นที่เพียงพอให้เจลยึดเกาะ ทำให้เล็บเจลหลุดง่ายกว่าปกติ อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการเจ็บหรือติดเชื้อได้ง่ายหากเล็บฉีก ทางที่ดีคือ ควรรักษาความยาวของเล็บให้อยู่ในระดับที่พอดี ไม่สั้นหรือยาวจนเกินไป และควรให้ช่างช่วยปรับแต่งรูปทรงเล็บให้เหมาะสม เพื่อให้เล็บเจลติดแน่นและดูสวยงามยาวนาน
-
เว้นช่วงพักเล็บให้หายใจบ้าง
แม้เล็บเจลจะทำให้เล็บดูสวยและมั่นใจ แต่ก็ไม่ควรทำติดกันตลอดเวลา เพราะเล็บธรรมชาติก็ต้องการเวลาฟื้นฟูเช่นกัน หากทำเล็บเจลต่อเนื่อง 2–3 รอบ ควรเว้นช่วงพักเล็บอย่างน้อย 1–2 สัปดาห์ เพื่อให้เล็บได้หายใจและซ่อมแซมตัวเอง ช่วงพักเล็บควรบำรุงด้วยทรีทเมนต์บำรุงเล็บหรือน้ำมันบำรุง เพื่อให้เล็บกลับมาแข็งแรง พร้อมสำหรับการทำเล็บครั้งต่อไป และไม่ว่าจะเป็นช่วงทำเล็บหรือช่วงพักเล็บก็ควรเสริมสร้างเล็บจากภายในด้วยอาหารที่มีประโยชน์ เช่น การทานอาหารที่มีโปรตีนสูง, วิตามินบี, ไบโอติน และสังกะสี จะช่วยให้เล็บเจริญเติบโตอย่างแข็งแรง เงางาม และลดปัญหาเล็บเปราะบางได้
