BODY

เปิดทิปส์ขจัดคราบเครื่องสำอางเลอะเสื้อผ้าให้หมดไม่เหลือรอย

บอกต่อวิธีทำความสะอาดรอยเปื้อนเครื่องสำอางที่ติดอยู่บนเสื้อผ้า

     เชื่อว่าทุกคนต้องเคยมีประการณ์เครื่องสำอางเปื้อนเสื้อผ้า โดยเฉพาะรองพื้นหรือแป้งที่มักจะเลอะช่วงคอเสื้อจากการลงเมกอัปบริเวณลำคอ หรือบางครั้งก็เป็นลิปสติกที่เลอะตามแขนเสื้อจากการไปสัมผัสกับใบหน้าโดยไม่รู้ตัว ซึ่งสิ่งที่น่าปวดหัวตามมาคือรอยเปื้อนเหล่านั้นซักออกยาก หรือบางทีก็ซักได้ไม่สะอาด บทความนี้โว้กบิวตี้จึงขอนำเทคนิคขจัดคราบเครื่องสำอางที่เลอะเสื้อผ้ามาฝากกัน ซึ่งแต่ละวิธีนั้นมีความแตกต่างกันไปเนื่องจากผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางแต่ละชนิดทำจากส่วนผสมที่ไม่เหมือนกันนั่นเอง

 

 

รองพื้น

     รองพื้นเป็นเครื่องสำอางที่ผู้หญิงหลายคนขาดไม่ได้ แต่บางครั้งอาจเกิดอุบัติเหตุทำให้รองพื้นเปื้อนเสื้อผ้าได้ ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้นานอาจทำให้คราบฝังแน่นและยากต่อการขจัดออก ดังนั้นจึงควรทำความสะอาดคราบรองพื้นโดยเร็วที่สุด โดยมีวิธีการดังนี้

  • คราบเปียก: ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดออกเบาๆ จากนั้นซับด้วยผ้าสะอาด
  • คราบแห้ง: ใช้สำลีชุบน้ำยาเช็ดเครื่องสำอางเช็ดออก แล้วซับด้วยผ้าสะอาด

Editor’s Tips: ถ้าหากคราบรองพื้นฝังแน่น ให้ใช้แปรงสีฟันเก่าขัดเบาๆ ก่อนใช้ผ้าหรือสำลีเช็ดออก กรณีที่รองพื้นเปื้อนเสื้อผ้าสีขาว ให้ใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์หยดลงบนคราบแล้วทิ้งไว้สักครู่ จากนั้นซักด้วยน้ำสบู่หรือผงซักฟอกตามปกติ

 

 

ลิปสติก

     ลิปสติกเป็นเครื่องสำอางที่ช่วยเพิ่มสีสันความสวยงามให้กับริมฝีปาก แต่บ่อยครั้งที่เลอะเปรอะเปื้อนบนเสื้อผ้าโดยไม่ได้ตั้งใจ โดยลิปสติกเนื้อครีมและกลอสอาจเช็ดออกได้ง่ายๆ ด้วยผ้าชุบน้ำ แต่ลิปสติกเนื้อแมตต์หรือสูตรติดทนอาจซักออกได้ยากกว่า แต่ไม่ต้องกังวลใจ เพราะสามารถทำความได้ด้วยขั้นตอนต่อไปนี้

  • ซับคราบออก: ใช้ผ้าสะอาดหรือกระดาษทิชชูซับคราบลิปสติกออกให้มากที่สุด หลีกเลี่ยงการถูหรือขัด เพราะจะทำให้คราบซึมลึกลงไปในผ้า
  • แอลกอฮอล์ถู: หากคราบยังคงอยู่ ให้หยดแอลกอฮอล์ถูลงบนสำลีหรือผ้าสะอาด แล้วซับเบาๆ ที่คราบ แอลกอฮอล์จะช่วยละลายคราบลิปสติก
  • ใช้ผงซักฟอก: ผสมผงซักฟอกกับน้ำเย็นเล็กน้อยจนกลายเป็นเนื้อครีม ใช้แปรงสีฟันเก่าจุ่มลงในส่วนผสม แล้วแปรงเบาๆ ที่คราบ ผงซักฟอกจะช่วยขจัดคราบที่เหลืออยู่
  • ใช้น้ำส้มสายชู: ผสมน้ำส้มสายชูขาว 1 ส่วนกับน้ำเย็น 2 ส่วน ใช้ผ้าสะอาดหรือสำลีชุบสารละลาย แล้วซับเบาๆ ที่คราบ น้ำส้มสายชูจะช่วยกำจัดคราบที่เหลืออยู่และทำให้ผ้าขาวขึ้น
  • ซักตามปกติ: หลังจากขจัดคราบออกแล้ว ให้ซักเสื้อผ้าได้ตามปกติด้วยน้ำยาซักผ้าและน้ำเย็น สุดท้ายอย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่าคราบได้หายไปหมดแล้วก่อนที่จะนำไปอบแห้ง

 



WATCH



 

อายไลเนอร์

     แม้โอกาสที่อายไลเนอร์จะเปื้อนเสื้อผ้าจะมีน้อยกว่ารองพื้นและลิปสติก ทว่าหากเปื้อนก็ถืิอเป็นเรื่องใหญ่ เพราะอายไลเนอร์มีส่วนผสมของแว็กซ์ น้ำมัน และเม็ดสีที่เข้มข้นติดทนนานกับผิวได้ดี จึงยากต่อทำความสะอาดนั่นเอง ฉะนั้นหากใครพลาดทำอายไลเนอร์เปื้อนเสื้อผ้าแนะนำให้แก้ไขด้วยวิธีนี้

วิธีที่ 1: ทาผลิตภัณฑ์ขจัดคราบผ้าบริเวณที่เลอะอายไลเนอร์และปล่อยให้ซึมสัก 1 นาที และนำไปซักตามปกติ

วิธีที่ 2: หากคราบยังหลงเหลืออยู่ ให้ผสมแอมโมเนีย 1 ช้อนโต๊ะในน้ำอุ่น ½ ถ้วย จากนั้นจุ่มผ้าลงในส่วนผสม แล้วนำมาซับที่อายไลเนอร์จนคราบออกหมด และนำไปซักเครื่องได้ตามปกติ

 

 

บลัชออน

     บลัชออนเป็นผลิตภัณฑ์ที่มาเติมสีสันให้พวงแก้มสดใส แต่บ่อยครั้งที่มักจะไปเปรอะเปื้อนบนเสื้อผ้าเมื่อสวมใส่หรือถอดออก โดยเฉพาะเสื้อยืดที่ใช้วิธีการสวมศีรษะ ทำให้เสื้อมาสัมผัสโดนกับใบหน้า โดยวิธีต่อไปนี้นอกจากจะช่วยขจัดรอยเปื้อนของบลัชออนได้แล้ว ยังใช้วิธีเดียวกันกับบรอนเซอร์ได้ด้วยเช่นกัน

  • บลัชออนชนิดแป้ง: ใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดเอาเนื้อบลัชออนออกให้มาที่สุด หากยังมีคราบหลงเหลืออยู่ ให้น้ำผาชุบกับน้ำยาซักแห้งซับบริเวณที่เปื้อน ทั้งนี้ไม่แนะนำให้ใช้น้ำยาซักผ้าชนิดน้ำเพราะอาจจะยิ่งทำให้บลัชออนกระจายตัวและขจัดคราบได้ยากยิ่งขึ้น
  • บลัชออนชนิดน้ำ: ใช้ผ้าสะอาดเช็ดบลัชออนออกให้มากที่สุด จากนั้นใช้คอตตอนบัตจุ่มน้ำยากซักแห้งและนำมาซับบริเวณคราบ ทำซ้ำจนกว่ารอยเปื้อนจะจางหายไป และใช้ผ้าเปียกซับเอาน้ำยาออกเป็นขั้นตอนสุดท้าย

 

     อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เครื่องสำอางเลอะเสื้อผ้า แนะนำว่าทุกครั้งหลังแต่งหน้าให้ฉีดเซ็ตติ้งสเปรย์และรอจนกว่าเครื่องสำอางจะเซ็ตตัวก่อนสวมเสื้อผ้า และถ้าเกิดเครื่องสำอางเลอะเสื้อผ้า ควรรีบทำความสะอาดทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้คราบฝังแน่น

 

WATCH

TAGS : Makeup