MAKE UP
Beauty Tips! บำรุงริมฝีปากแก้ปัญหาทาลิปตกร่องจากสาเหตุเพราะการแก้ปัญหาที่สาเหตุคือการแก้ปัญหาที่ยั่งยืน และสำหรับการแก้ปัญหาทาลิปตกร่องก็คือการบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื้นตั้งแต่แรก |
ปัญหาทาลิปตกร่องเป็นปัญหาที่สาวๆ ส่วนใหญ่ต้องเผชิญเมื่อแต่งหน้า (โดยเฉพาะเมื่อทาลิปแมตต์) ซึ่งสาเหตุของปัญหานั้นมาจากการที่ริมฝีปากแห้ง ขาดความชุ่มชื้น ทำให้ริมฝีปากเกิดเป็นร่องลึก เป็นขุย และลิปสติกไม่สามารถยึดเกาะกับริมฝีปากได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นหากต้องการขจัดปัญหานี้ให้หมดไป (และไม่ให้กลับมากวนใจอีก) จะต้องเริ่มต้นจากการบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ ซึ่งวิธีการบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื้นเพื่อให้ทาลิปแล้วไม่ตกร่องนั้นสามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ไม่กี่ขั้นตอน
1. สครับปากอย่างสม่ำเสมอ
เชื่อว่าการสครับปากเป็นสิ่งที่หลายๆ คนไม่เคยทำ อาจเพราะคิดว่าต้องใช้เวลาเยอะ ไม่สะดวกที่จะผสมสครับเอง แต่ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์สำหรับสครับปากผลิตออกมามากมาย ซึ่งนอกจากทำหน้าที่สครับแล้ว ยังมีส่วนผสมที่ช่วยปรับสภาพผิวและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปากอีกด้วย ส่วนสาวๆ ที่ต้องทำงานหนักจนไม่มีเวลาจริงๆ อย่างน้อยในขณะที่แปรงฟันควรใช้แปรงฟันแปรงริมฝีปากเบาๆ แทนการสครับ เพราะการสครับปากเป็นประจำอาทิตย์ละ 1 ครั้งจะช่วยขจัดเซลล์ที่ตายแล้วออกไป ทำให้ปากเนียนนุ่มอมชมพูและทาลิปไม่ตกร่องได้อย่างเห็นผล
2. มาสก์ปากก่อนนอน
ลิปมาสก์เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปากได้อย่างเต็มที่ เพราะอุดมไปด้วยสารสกัดที่ช่วยคืนความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปาก อีกทั้งยังช่วยจัดการเซลล์ผิวเสื่อมสภาพที่ไม่ยอมหลุดไปจากริมฝีปาก ทำให้เนื้อมาสก์มีความเข้มข้นและค่อนข้างเหนอะ จึงเหมาะกับการมาสก์ตอนกลางคืนเพื่อไม่ให้สาวๆ ต้องรำคาญใจกับความมันบนริมฝีปาก และตัวมาสก์ก็ยังทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเพราะไม่ต้องถูกรบกวนจากการรับประทานอาหารต่างๆ ให้ริมฝีปากของสาวๆ ชุ่มชื้นอวบอิ่ม พร้อมรับการทาลิปในเช้าวันถัดไป
3. ทาลิปบาล์มเป็นประจำโดยเฉพาะก่อนทาลิปสติก
แม้จะสครับปากเป็นประจำและมาสก์ปากก่อนนอนทุกคืนแต่ก็ต้องไม่ลืมทาลิปบาล์มในตอนกลางวันเป็นประจำสม่ำเสมอด้วย เพื่อเป็นการเติมความชุ่มชื้นระหว่างวัน โดยเฉพาะก่อนการทาลิปสติกยิ่งขาดไม่ได้ เนื่องจากลิปสติกนั้นมีส่วนทำให้ริมฝีปากแห้ง (โดยเฉพาะลิปแมตต์) จึงต้องทาลิปบาล์มเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นก่อนทาลิปสติก เป็นการช่วยลดอาการริมฝีปากแห้งจากลิปสติก และหากในระหว่างวันริมฝีปากเริ่มแห้ง สาวๆ สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยการใช้เคลนซิ่งชีทเช็ดลิปสติกออกจากนั้นทาลิปบาล์มแล้วตามด้วยลิปสติกใหม่อีกครั้ง
WATCH
4. เลือกลิปสติกที่ไม่ทำให้ริมฝีปากแห้ง
การเลือกลิปสติกจากสีเพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ แต่ต้องดูเนื้อลิปและส่วนผสมอื่นๆ ประกอบด้วย เพราะลิปสติกคือสาเหตุหนึ่งที่จะทำให้ริมฝีปากแห้งจนเกิดปัญหาลิปตกร่องระหว่างวัน การเลือกลิปสติกที่มีส่วนช่วยบำรุงริมฝีปากและเติมความชุ่มชื้นจึงเป็นตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม โดยส่วนผสมที่โว้กบิวตี้แนะนำให้สาวๆ มองหาคือส่วนผสมที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นอย่างกรดไฮยาลูรอนิก โจโจบาร์ออยล์ หรือเชียบัตเตอร์ เป็นต้น
5. เช็ดออกด้วยรีมูฟเวอร์ทุกครั้ง
การเช็ดลิปสติกออกโดยไม่ใช้เมกอัพรีมูฟเวอร์นั้นนอกจากจะใช้เวลานานแล้ว ยังเป็นการทำร้ายริมฝีปากอีกด้วย เพราะต้องเช็ดซ้ำๆ อยู่หลายครั้ง และในบางครั้งก็อาจจะต้องออกแรงเช็ดที่มากเกินความจำเป็น ในทางกลับกันหากใช้เมกอัพรีมูฟเวอร์ในการเช็ดก็จะช่วยให้เช็ดลิปสติกออกได้สะอาดหมดจดและรวดเร็วโดยที่ไม่ต้องออกแรงเช็ดจนทำร้ายริมฝีปาก เพียงแค่เทเมกอัพรีมูฟเวอร์ลงบนสำลีและซับไว้ที่ริมฝีปากเป็นเวลา 30 วินาที ก็จะสามารถจัดการกับลิปสติกได้อย่างง่ายดาย
6. ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ
การดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอเป็นสิ่งที่ดีมากๆ และควรทำเป็นอย่างยิ่ง การดื่มน้ำเปล่าที่เพียงพอจะช่วยให้ผิวพรรณชุ่มชื้น เนียนนุ่มอยู่เสมอ และประโยชน์นั้นยังส่งไปถึงริมฝีปากด้วย แม้บ่อยครั้งที่สาวๆ มักจะดื่มน้ำเปล่าไม่เพียงด้วยการทำงานที่ค่อนข้างยุ่ง หรืออาจจะไม่ชอบใจที่ต้องเข้าห้องน้ำบ่อยๆ แต่หากต้องการมีผิวพรรณและริมฝีปากสุขภาพดีต้องเริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพราะต่อให้บำรุงริมฝีปากเป็นอย่างดีแค่ไหนแต่ถ้าหากขาดความชุ่มชื้นจากภายในก็คงยากที่จะเห็นผลลัพธ์ที่ดี
ขั้นตอนการบำรุงริมฝีปากเหล่านี้ต้องทำเป็นประจำสม่ำเสมอเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ และต้องใช้เวลาระยะหนึ่งจึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ดังนั้นสำหรับสาวๆ ที่มีความจำเป็นต้องทาลิปแมตต์ในระยะเวลาอันใกล้ซึ่งกระชั้นเกินไปที่จะเห็นผลจากขั้นตอนเหล่านี้ โว้กบิวตี้ขอแนะนำให้เลือกลิปแมตต์เนื้อนุ่มลื่นที่ทาแล้วไม่ตกร่องมาใช้งานก่อน โดยทำตามขั้นตอนการบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื้นควบคู่ไปด้วยเพื่อผลลัพธ์ที่ดีทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
สครับที่ช่วยผลัดเซลล์และปรับสภาพผิวริมฝีปากที่แห้งแตกด้วยส่วนผสมของฮันนี่คริสตัล (เกล็ดใสจากน้ำผึ้ง) ซึ่งเป็นส่วนผสมสุดฮิตสำหรับการทำสครับ สามารถขัดผิวริมฝีปากได้อย่างอ่อนโยน นอกจากนี้ยังมีมอยซ์เจอไรเซอร์จากธรรมชาติ ส่วนผสมจากบีส์แว๊กซ์ โกโก้บัตเตอร์ และแคสเตอร์ออยล์ช่วยคืนความชุ่มชื้นให้ริมฝีปากเนียนนุ่ม น่าจุ๊บ
ราคา 890 บาท
เมกอัพรีมูฟเวอร์สำหรับเปลือกตา ขนตา และริมฝีปาก ที่สามารถล้างเมกอัพออกได้อย่างสะอาดหมดจดและรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นมาสคาร่ากันน้ำหรือลิปสติกแบบติดทนนานก็รับมือได้อย่างอยู่หมัด และยังเป็นสูตรอ่อนโยนที่ผ่านการทดสอบจากจักษุแพทย์แล้วว่าไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อดวงตา อีกทั้งยังปลอดภัยต่อผู้สวมใส่คอนแทคเลนส์อีกด้วย
ราคา 1,000 บาท
แบรนด์ที่ยืนหนึ่งเรื่องการคืนความชุ่มชื้นให้กับผิวและริมฝีปาก อุดมไปด้วยวิตามินซีและสารต่านอนุมูลอิสระจากสารสกัดเบอร์รี่หลากหลายชนิด ทั้งราสพ์เบอร์รี่ สตรอเบอรี่ แครนเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ และโกจิเบอร์รี่ เพื่อปากที่เนียนนุ่ม ชุ่มชื้น อมชมพู ไม่มีเซลล์ผิวเสื่อมสภาพมากวนใจ ทำให้ริมฝีปากอยู่ในสภาพที่พร้อมที่สุดสำหรับการทาลิปในเช้าวันรุ่งขึ้น และถึงแม้จะเป็นลิปมาสก์ที่มีสารสกัดอันเป็นประโยชน์อย่างเข้มข้นแต่ก็เป็นสูตรเนื้อเจลบางเบาที่ไม่ทำให้รู้สึกเหนอะหนะ
ราคา 260 บาท
ลิปบาล์มที่มาพร้อมกลิ่นลิ้นจี่แสนหอมหวานชวนหลงใหล ที่ทางแบรนด์เคลมว่าช่วยเติมเต็มและล็อกความชุ่มชื้นไว้ยาวนานถึง 24 ชั่วโมง เนื้อสัมผัสเข้มข้นด้วยสารสกัดน้ำมันจากเมล็ดองุ่น น้ำมันจากเมล็ดแบล็กเคอร์แรนต์ น้ำมันจากเมล็ดแอปริคอต และอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อมอบการบำรุงอย่างเต็มที่ ให้ริมฝีปากนุ่มนวล ไม่แห้งแตกตลอดทั้งวัน แต่ก็ไม่ทิ้งความรู้สึกเหนอะหนะไว้ให้กวนใจ
ราคา 740 บาท
ลิปสติกเนื้อลัสเตอร์ที่บางเบา ให้สัมผัสเรียบลื่นเกลี่ยง่ายเพื่อเนรมิตฟินนิชลุคแบบแวววาวตามบิวตี้เทรนด์ 2022 มาพร้อมส่วนผสมจากโจโจบาออยล์ น้ำมันเมล็ดราสพ์เบอร์รี น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิน เชียบัตเตอร์ และไฮยาลูรอนิก เพื่อช่วยบำรุงริมฝีปากและเพิ่มความชุ่มชื้น หมดปัญหาริมฝีปากแห้งมาคอยกวนใจ
ราคา 950 บาท
WATCH