แค่เปลี่ยนสีผมใหม่ก็ช่วยเปลี่ยนลุคให้ต่างไปจากเดิม แต่ถ้าอยากเปลี่ยนเป็นคนใหม่ไปโดยสิ้นเชิง ลองย้อมผมสีน้ำเงินหน่อยเป็นไร! เพราะผมสีน้ำเงินเป็นเฉดสีที่ทรงพลังและมีเอกลักษณ์อีกสีหนึ่ง ย้อมแล้วได้ลุคที่สวยคูลแต่แฝงไปด้วยความเท่ ส่วนเฉดสีก็มีให้เลือกตั้งแต่สีน้ำเงินโทนอ่อนเย็นๆ ไปจนถึงเฉดสีเข้ม เช่น สีไอซ์บลู, สีน้ำเงินพาสเทล, สีสกายบลู, สีเดนิม, สีแพลตตินัมบลู และสีมิดไนต์บลู เป็นต้น หากใครสนใจอยากเปลี่ยนลุคด้วยผมสีน้ำเงิน มาค้นหาไอเดียไปพร้อมกันได้ที่นี่เลย
1 / 10
ภาพ: @sawaitakuya
สีไอซ์บลู (Ice Blue)
เฉดไอซ์บลูคือสีน้ำเงินที่อ่อนและสว่างจนเกือบเป็นสีฟ้า เป็นโทนสีเย็นที่มองดูแล้วให้ความรู้สึกเย็นจริงๆ ตามชื่อไอซ์บลู มีความจัดจ้านเล็กๆ ดูสนุกขี้เล่น สามารถทำต่อจากการทำผมสีเทาหรือสีซิลเวอร์หลังจากเฟดลงได้เลยโดยไม่ต้องฟอกผมซ้ำอีกครั้ง
2 / 10
ภาพ: @fuga_utsumi
สีน้ำเงินพาสเทล (Pastel Blue)
เฉดสีน้ำเงินพาสเทลเป็นโทนสีอ่อนที่มีความสว่างสดใส ย้อมแล้วช่วยครีเอตลุคให้ดูทันสมัย ผสานลุคเท่และน่ารักไว้ด้วยกันอย่างลงตัว โดยเป็นสีที่ต้องอาศัยการฟอกผมหลายรอบให้ผมมีสีอ่อนเกือบขาวก่อน เพื่อให้สีน้ำเงินติดชัดจนเห็นเป็นฟ้าพาสเทลได้
3 / 10
ภาพ: @miyayeah
สีน้ำเงินเมอร์เมด (Mermaid Blue)
โทนสีเมอร์เมดเป็นการผสานสีน้ำเงินอ่อนกับสีเทอร์ควอยซ์เข้าด้วยกัน ย้อมแล้วจะมองเห็นเป็นสีน้ำเงินอ่อนอมเขียวน้ำทะเล ย้อมแล้วเสริมลุคให้ดูสวยน่ารักร่าเริง จัดเป็นเฉดสว่างที่เข้าได้กับทุกสีผิวและเล่นกับสีเมกอัพโทนสดใสได้อย่างสนุกสนาน
4 / 10
ภาพ: @ibuki_sugimoto
สีน้ำเงินเดนิม (Denim)
สีเดนิมเป็นเฉดสีน้ำเงินเข้มที่ชื่อได้อินสไปร์มาจากกางเกงยีนส์ตัวโปรด นับเป็นสีสุดเก๋ที่โดดเด่นเตะตาพร้อมแฝงด้วยความเท่ ไม่ว่าจะอยู่บนผมบ๊อบสั้น หรือผมยาวดัดลอนก็ครีเอตลุคให้เป็นสาวเท่สุดคูลได้ทันที ที่สำคัญยังแมตช์ลุคกับเสื้อผ้าได้หลากหลายสไตล์อีกด้วย
5 / 10
ภาพ: @ibuki_sugimoto
สีน้ำเงินเข้ม (Dark Blue)
ผมสีน้ำเงินเข้มแสดงถึงความคิดสร้างสรรค์ ลักษณะของเฉดสีจะเห็นความเข้มชัดเจน เมื่ออยู่ในร่มอาจเห็นเป็นสีน้ำเงินครามจนเกือบดำราวกับท้องฟ้ายามค่ำคืน เป็นเฉดสีที่ย้อมแล้วทำให้ลุคดูสดใส เหมาะมากกับสายแฟ(ชั่น) โดยเฉพาะคนที่ชื่นชอบลุคแต่งตัวแนวสตรีต
6 / 10
ภาพ: @dlwlrma
สีน้ำเงินคราม (Indigo)
หากจะอธิบายเฉดสีน้ำเงินครามให้เห็นภาพกันง่ายๆ ขอให้นึกถึงสียีนส์เข้มๆ นั่นล่ะเพราะมันให้ความรู้สึกลึกลับ น่าค้นหา ลักษณะของเฉดสีจะเห็นเป็นสีน้ำเงินเข้มเกือบดำเมื่ออยู่ในที่ร่ม แต่จะเห็นสีน้ำเงินชัดขึ้นเมื่อสะท้อนกับแสง สามารถย้อมติดบนพื้นผมสีเข้มได้ไม่ยาก แต่ก็อาจติดอยู่ไม่นานด้วยเช่นกัน
7 / 10
ภาพ: @ibuki_sugimoto
สีน้ำเงินหม่น (Ash Blue)
สีหม่นโทนแอชเป็นที่นิยมมาสักพักใหญ่แล้ว ซึ่งมักจะนำไปประยุกต์กับผมสีต่างๆ ด้วยการเติมสีเทาเข้าไป เพื่อให้สีผมนั้นๆ มีความหม่นเทา อย่างเฉดสีน้ำเงินหม่นนี้ถูกเบรกไม่ให้ฉูดฉาดจนเกินไป พร้อมมอบความละมุนด้วยสีเทาหม่น จึงได้เป็นอีกเฉดสีผมที่ดูแฟชั่นและมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร
8 / 10
ภาพ: @ibuki_sugimoto
สีน้ำเงินแพลทินัม (Platinum Blue)
ขึ้นชื่อว่าเป็นเฉดแพลทินัมจะต้องโดดเด่นด้วยความเงาสว่างดั่งสีเงินของโลหะ ซึ่งกว่าจะได้เฉดสีน้ำเงินแพลทินัมก็ไม่ใช่ง่ายๆ เพราะต้องฟอกผม 2-3 รอบจนกลายเป็นสีขาว ก่อนที่จะเคลือบทับด้วยสีน้ำเงินอีกที แต่ควรรู้ไว้ว่าสีน้ำเงินจะเฟดออกไปทีละนิดทุกครั้งที่สระผม แต่ก็สามารถไปเติมสีภายหลังได้เรื่อยๆ
9 / 10
ภาพ: @cemeterystrut
สีน้ำเงินดำ (Blue Black)
สีน้ำเงินดำเป็นเฉดที่เกือบเข้มที่สุดในบรรดาเฉดสีน้ำเงินทั้งหมด เหมาะมากกับเส้นผมคนเอเชียที่มีพื้นผมสีดำอยู่แล้ว โดยสีน้ำเงินเฉดนี้เป็นลูกเล่นที่เสริมให้ผมสีดำดูมีอะไรมากขึ้น เหมาะกับคนที่อยากให้สีผมเป็นกิมมิกเท่ๆ ไม่เน้นความฉูดฉาด
10 / 10
ภาพ: @cemeterystrut
สีเจ็ตบลู (Jet Blue Black)
สุดท้ายคือเฉดสีเจ็ตบลูซึ่งจะเรียกว่าสีน้ำเงินคงไม่ถูกนัก เพราะดูเผินๆ มันเหมือนสีดำเสียมากกว่า นั่นเพราะจะเห็นสีน้ำเงินเข้มเป็นประกายอยู่รำไรเมื่อต้องแสงไม่ว่าจะแสงไฟหรือแสงแดด เหมาะสำหรับคนที่อยากเปลี่ยนลุคผมสีเข้มให้น่าสนใจแต่ไม่ฉีกจากเดิมจนเกินไป
สำหรับใครที่ชื่นชอบสีน้ำเงิน แต่หากยังใจไม่ถึงที่จะย้อมทั้งศีรษะ อีกทางเลือกง่ายๆ คือการใช้สีน้ำเงินเป็นกิมมิกด้วยเทคนิคต่างๆ เช่น เทคนิค Hidden Hair (ซ่อนสีผมไว้ด้านใน) หรือจะใช้วิธีไฮไลต์เป็นช่อๆ หรือทำแค่ปลายผมแบบออมเบร เท่านี้เราทุกคนก็สามารถหยิบสีน้ำเงินมาเพิ่มความสนุกให้กับเส้นผมได้แล้ว
.jpg)