WATCHES & JEWELLERY

โว้กพาอัปเดตโลกแห่งนาฬิกาช่วงครึ่งหลังปี 2024 พร้อมเจาะลึกความยอดเยี่ยมหลากมิติ

ในนิตยสารฉบับพิเศษเดือนพฤศจิกายน 2024 Vogue Time & Gems พร้อมนำเสนอเรื่องราวความสดใหม่ของนาฬิกาในช่วงครึ่งปีหลังที่เป็นดั่งปรากฏการณ์อันน่าตื่นเต้น

ช่วงครึ่งหลังของปี 2024 ผลงานนาฬิกาชั้นยอดยังคงถูกนำเสนอออกมาจากแบรนด์ชั้นนำอย่างต่อเนื่อง และแน่นอนว่านั่นย่อมเป็นการเพิ่มความต้องการใน “Wish list” ของเหล่านักสะสมและสาวกพันธุ์แท้นาฬิกาทั่วโลก

  • WORLD RECORD ON THE LINE

หลังจากบรรยากาศความตื่นเต้นเมื่อช่วงต้นปีกับสถิตินาฬิกาตัวเรือนบางที่สุดในโลก ด้วยความหนาเพียง 1.7 มิลลิเมตร และ 2.0 มิลลิเมตรสำหรับกลไกทูร์บิยง จากตัวเลขนี้คงไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีผู้ใดสามารถทำลายสถิติอันน่าเหลือเชื่อของ Bvlgari Octo Finissimo Ultra Mark II และ Piaget Altiplano Ultimate Concept Flying Tourbillon ได้ในเวลาอันรวดเร็ว ทว่าสถิตินี้กลับถูกท้าทายเพียงไม่กี่เดือนให้หลัง เมื่อ Konstantin Chaykin นักรังสรรค์นาฬิกาชาวรัสเซียได้สร้างปรากฏการณ์นำเสนอนาฬิกาเรือนต้นแบบภายใต้ชื่อ “ThinKing” สุดยอดนวัตกรรมแห่งยุคที่ตัวเรือนหนาเพียง 1.65 มิลลิเมตรเท่านั้น แม้นาฬิกาเรือนนี้จะบางเฉียบ แต่ไม่ละเลยกลไกและฟังก์ชันการใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบ “Double Balance” ที่ทำให้สามารถลดทอนเลเยอร์กลไกภายในตัวเรือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังสำรองพลังงานได้ถึง 32 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานะนาฬิกาต้นแบบในตอนนี้ เป็นเหตุผลให้นาฬิกาเรือนดังกล่าวยังไม่ถูกบันทึกสถิติอย่างเป็นทางการ ดังนั้นสาวกนาฬิกาคงต้องติดตามกันต่อไปว่านวัตกรรมล้ำหน้าชิ้นนี้จะสามารถก้าวขึ้นแท่นเจ้าของสถิติโลกได้หรือไม่ในอนาคต



WATCH




  • MODERN VERSION OF HISTORICAL ART

ในหน้าประวัติศาสตร์จีนที่แสนยาวนานนั้นเต็มไปด้วยเรื่องราวมากมายรวมทั้งศิลปะอันทรงคุณค่า นั่นคือแรงบันดาลใจของคอลเล็กชั่น Métiers d'Art จาก Vacheron Constantin ประจำปี 2024 กับการนำเสนอโมทีฟ “Seawater Cliff” สัญลักษณ์เก่าแก่ของวัฒนธรรมจีนที่ปรากฏขึ้นครั้งแรกในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 14 ซึ่งถูกนำมาถ่ายทอดลงบนหน้าปัดนาฬิกาได้อย่างน่าทึ่ง โดยเมซงสัญชาติสวิสร่วมมือกับ Mr. Song ผู้เชี่ยวชาญจาก Palace Museum เพื่อเจาะลึกถึงรายละเอียดของสัญลักษณ์นี้ที่เดินทางข้ามเวลามาตั้งแต่ราชวงศ์หมิงจนถึงราชวงศ์ชิง มันถูกตีความใหม่ในรูปแบบนาฬิกาขนาดหน้าปัด 38 มิลลิเมตร วัสดุพิงก์โกลด์และไวต์โกลด์ รายละเอียดของเกลียวคลื่นที่สาดกระทบหน้าผาอย่างทรงพลังนั้น แสดงเป็นนัยถึงความมั่นคงแข็งแกร่งของภูผาที่ตั้งตระหง่านอย่างหนักแน่นและงดงาม ด้านรายละเอียดของเวอร์ชันแรกตกแต่งโดดเด่นด้วยเทคนิคอินาเมลแบบ Cloisonné ผสานกับเส้นใยทองจำนวน 220 เส้นจนเป็นลวดลายโมทีฟอันงดงาม ใช้เวลารังสรรค์นานกว่า 50 ชั่วโมง พร้อมทั้งเบเซลสลักมือ ส่วนอีกเวอร์ชันรังสรรค์ด้วยเทคนิคอินาเมลแบบ Grand Feu ให้ความรู้สึกถึงมิติที่ซับซ้อน นับเป็นคอลเล็กชั่นงานฝีมือที่ควรค่าแก่การสะสมอย่างยิ่ง

  • SOUND OF STYLE

สำหรับ Chanel การเดินหน้าพัฒนานาฬิกากลายเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้คอลเล็กชั่นเสื้อผ้าบนรันเวย์ หลังจากงาน Watches & Wonders 2024 ที่แบรนด์ได้สร้างความตื่นเต้นด้วยวิถีการรังสรรค์นาฬิกาที่ทั้งสวยงามและเต็มไปด้วยกลไกอันน่าทึ่งผ่านไป ครั้งใหม่นี้เป็นการเผยโฉมผลงานเครื่องประดับสุดล้ำ Première Sound นาฬิกาสร้อยคอพร้อมฟังก์ชันสายหูฟังซึ่งปรากฏเอกลักษณ์ของชาเนลอยู่ในทุกอณู เริ่มจากตัวเรือนที่นำดีไซน์นาฬิกาข้อมือรุ่นแรก Première Édition Originale ของแบรนด์มาปรับโฉม เชื่อมต่อด้วยสายสร้อยโซตัวร์สัญลักษณ์ประจำชาเนล และเพิ่มความโมเดิร์นด้วยหูฟังตกแต่งโลโก้ชาเนลดีไซน์กลมกลืนไปกับตัวเรือนนาฬิกา เป็นหูฟังที่ออกแบบมาพิเศษสำหรับการฟังดนตรี พร้อมฟังก์ชันเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟน ผลงานชิ้นนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงเครื่องบอกเวลาที่มีกลไกอยู่ในระดับแถวหน้าของวงการ ทว่าเป็นนาฬิกาเครื่องประดับที่เปิดโลกและผสมผสานความคลาสสิกกับเทรนด์แห่งยุคสมัยเข้าไว้ด้วยกัน เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วโดยมี Lily-Rose Depp มาเป็นนางเอกประจำแคมเปญ นี่อาจเป็นเพียงไม่กี่ครั้งที่เราจะได้เห็นผลงานที่ล้ำสมัยด้วยเทคโนโลยีแต่เต็มเปี่ยมด้วยมนต์ขลังแห่งสไตล์ชาเนลในขณะเดียวกันแบบนี้ ดังนั้นหากสาวกนาฬิกาหรือแฟนคลับชาเนลพลาดไป ก็อาจรู้สึกเสียดายว่าครั้งหนึ่งมีโอกาสครอบครองแต่ไม่ได้ทำ

  • THE (LIME) LIGHT IS SHINING

ช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองความยิ่งใหญ่ครบรอบ 150 ปีของ Piaget เป็นเหมือนสปอตไลต์ชวนให้สาวกนาฬิกาทั่วโลกจับจ้องไปยังผลงานการรังสรรค์ที่พร้อมเสิร์ฟเอกลักษณ์อมตะของเมซง แสงระยิบระยับจากนาฬิกา Limelight Gala ส่องประกายเข้าสู่ดวงตาผู้ชม ด้วยการรังสรรค์จากคริโซเพรส นำเสนอผ่านเทคนิคMarquetry ตัดสลับกับมรกตทรงแบเกต รวมถึงหน้าปัดรูปแบบ Palace Décor และการจัดวางเพชรประดับประดาแบบหลากเทคนิค ปิดท้ายความสมบูรณ์แบบด้วยสายวัสดุพิงก์โกลด์สอดรับกับตัวเรือน นาฬิกาเรือนนี้ส่งตรงจากนิทรรศการ Homo Faber ที่แสดงความยอดเยี่ยมของเหล่าช่างทองคำ และเป็นที่มาของผลงานอันทรงคุณค่านี้ เนื่องในโอกาสสำคัญเช่นการครบรอบ 150 ปีของเพียเจต์ที่จะมีเพียงครั้งเดียวในประวัติศาสตร์

  • BLENDING THE WHOLE UNIVERSE

การผสมผสานมนต์เสน่ห์แห่งจิวเวลรีและนาฬิกาไว้ด้วยกันคือมรดกทางวัฒนธรรมที่โดดเด่นของเมซงจิวเวลรีชั้นนำแทบทุกแบรนด์อยู่แล้ว แต่สำหรับเมซงนาฬิกาขนานแท้อย่าง Omega ถือเป็นเรื่องสดใหม่และมีคุณค่าชวนให้เก็บสะสมเป็นอย่างมาก ในปีนี้โอเมก้ารังสรรค์เรือนเวลารุ่น Constellation โฉมใหม่ โดดเด่นด้วยหน้าปัด “Swirl” สร้างภาพลวงตาราวกับหน้าปัดมุกกำลังเคลื่อนไหวไปพร้อมกับเข็มบอกเวลาดั่งหมู่ดาวในจักรวาลอย่างไรอย่างนั้น เป็นนาฬิกาที่สวยงามเย้ายวนและยอดเยี่ยมในเชิงคุณภาพควรคู่กับข้อมือของผู้หญิงโดยแท้จริง พร้อมเสิร์ฟความหลากหลายด้วยขนาดหน้าปัด 25, 28 และ 29 มิลลิเมตร และวัสดุมีตั้งแต่สเตนเลสสตีลไปจนถึงทองคำพิเศษของแบรนด์อย่าง 18K Moonshine™ หรือ 18K Sedna™ ซึ่งตอบสนองทุกรสนิยมและความชื่นชอบสำหรับแต่ละบุคคล

  • MYTHICAL POWER OF THE DRAGON

สำหรับนักสะสมนาฬิกา งานฝีมือจากเมซงอย่าง Jaeger-LeCoultre คือสิ่งที่พลาดไม่ได้ เป็นอีกครั้งแล้วที่เมซงนาฬิกาเก่าแก่เจ้าของสมญา “Master of Watchmakers” นำเสนอเรือนเวลาอันล้ำหน้าที่มาพร้อมงานศิลปะสะกดตา นาฬิกา Master Hybris Artistica Calibre 945 ‘Dragon’ ท้าทายขีดจำกัดด้วยกลไกอันซับซ้อน เน้นย้ำเรื่องเกี่ยวกับดวงดาว ปฏิทินปีนักษัตร และสุดยอดกลไกประจำเมซงอย่าง Cosmotourbillon ผสานเข้ากับความยอดเยี่ยมของกลไก Minute Repeater ที่เตรียมเสียงกังวานไพเราะ บอกเวลาอย่างมีสุนทรียะ ด้วยเสียงที่กระทบหู ดวงตามองดูงานศิลปะชั้นสูงบนหน้าปัด ทั้งการสร้างเลเยอร์ของผืนฟ้าอันซับซ้อน มังกรทองแกะสลัก 3 มิติ โดมทูร์บิยง แผนที่ดวงดาวส่องประกายระยิบระยับ และรายละเอียดองค์ประกอบยิบย่อยอันน่าทึ่งอีกจำนวนหนึ่ง ปิดท้ายด้วยเบเซลแกะสลักผิวหนังมังกรที่ใช้เวลารังสรรค์นานกว่า 50 ชั่วโมง ผลงานชิ้นนึ้จึงถือเป็นนาฬิกาประเภท ‘One of a Kind’

  • THE AUCTION OF THE WORLD

นอกจากการเผยโฉมนาฬิกาเรือนใหม่ของแบรนด์ชั้นนำแล้ว สิ่งที่พลาดไม่ได้สำหรับนักสะสมนาฬิกาทั้งหลายคือการประมูลมรดกอันทรงคุณค่า ซึ่งช่วงครึ่งหลังของปี 2024 ก็นับเป็นช่วงสำคัญสำหรับสาวกพันธุ์แท้นาฬิกาวินเทจ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทประมูล Phillips ที่จับมือกับ Bacs & Russo ร่วมเปิดประมูลนาฬิกาเรือนประวัติศาสตร์ เช่น Rolex ‘Rainbow’ Daytona เรือนแรกของโลก ซึ่งมีราคาที่คาดไว้ราว ๆ 3 ล้านฟรังก์สวิสเลยทีเดียว หรือจะเป็น F.P.Journe รุ่น Tourbillon Souverain à Remontoir d’Égalité นาฬิกาเรือนแรกที่ François-Paul Journe สุดยอดปรมาจารย์แห่งวงการนาฬิกายุคใหม่จำหน่ายอย่างเป็นทางการ ด้านบริษัทประมูล Christie’s (HK) ก็เผยโฉมสุดยอดนาฬิกาสำหรับการประมูลในช่วงไตรมาสที่ 3 และไตรมาสที่ 4 เช่น การประมูลซีรีส์ “The Collectibles” ที่มีไฮไลต์เป็นนาฬิกาโครโนกราฟโมเดลแรกหลังหายไปนานหลายทศวรรษจาก Patek Philippe หรือจะเป็นซีรีส์การประมูลที่จับมือกับองค์กร ELA เสิร์ฟนาฬิการุ่นลิมิเต็ดทั้งจาก Richard Mille, Ulysse Nardin และอีกหลายต่อหลายแบรนด์ชั้นนำ การประมูลเหล่านี้จึงถือเป็นอีกหนึ่งมิติที่สาวกนาฬิกาไม่ควรพลาดติดตาม

  • SUPER CLASSICS

นอกจากสุดยอดนาฬิกากลไกซับซ้อนและผลงานศิลปะตระการตาแล้ว บรรดาแบรนด์นาฬิกายังเสิร์ฟความยอดเยี่ยมด้วยเครื่องบอกเวลาสุดคลาสสิกสำหรับปีนี้ให้เก็บสะสมกันต่อเนื่อง อย่างเช่นแบรนด์ Blancpain ที่ยังคงรังสรรค์ความน่าสนใจให้คอลเล็กชั่น Ladybird ด้วยสีใหม่ ส่วน Breguet ส่ง Type-XX ที่ดัดแปลงจากนาฬิกาทหารเพื่อพลเรือน ก่อนพัฒนามาสู่นาฬิกาในชีวิตประจำวัน และตอนนี้ได้รังสรรค์วงแหวนเซรามิกใส่ลงบนตัวเรือนเป็นครั้งแรก ถัดมาคือแบรนด์ Jaeger-LeCoultre ที่แม้จะอวดโฉมผลงานชูโรงอันซับซ้อน แต่ก็ไม่ลืมนาฬิกา Reverso Tribute ที่เผยตัวมาแบบครบถ้วนทุกฟังก์ชันและกลไกเบื้องหลัง ด้าน Audemars Piguet กับ CODE 11.59 BY AUDEMARS PIGUET นาฬิกาใหม่ล่าสุดที่แสดงความเหนือระดับด้วยกลไก “Flying Tourbillon” และ “Chronograph” ส่วนแบรนด์ Zenith มาพร้อมนาฬิกาซีรีส์ไอคอนิกอย่าง DEFY Skyline กับ DEFY Skyline Tourbillon Felipe Pantone ที่ผสานความสวยงามของหน้าปัดเข้ากับเทคนิคการรังสรรค์นาฬิกาอันซับซ้อน ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 100 เรือนเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีนาฬิกาน่าสนใจอีกไม่น้อยให้สาวกผู้หลงใหลได้ค้นหาคาแร็กเตอร์นาฬิกาที่เข้ากับตัวเอง รวมถึงค้นหาของสะสมอันทรงคุณค่าเก็บไว้ชื่นชม บทสรุปของปีนี้จึงบอกได้ว่า “วงการนาฬิกาเต็มไปด้วยความคึกคักตลอดปีจริง ๆ”

 

ภาพ: Courtesy of Brands / Auction House

WATCH